"...นางศิริพร รัตนปราการ อดีตหัวฝ่ายการเงินสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตร ปัจจุบันยังไม่มีเบาะแสอะไรเพิ่มเติม นอกจากกระแสข่าวว่า นางศิริพร มีความสนิทสนมกับนายตำรวจระดับสูง ที่เคยมีตำแหน่งใหญ่โตในจังหวัดทางภาคอีสาน มีเส้นสายดีในสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และก็เป็นนายตำรวจระดับสูงผู้นี้เอง ที่ให้ความช่วยเหลือพาตัวนางศิริพร หลบหนีออกไปนอกประเทศไทย และก็เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้การติดตามตัวผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้เป็นไปด้วยความล่าช้า แบบที่เห็น..."
"จากการตรวจสอบรายงานความเสียหาย ณ วันที่ 19 เม.ย.2565 พบยอดความเสียหายจำนวน 644 ล้านบาท สมาชิกที่เสียหาย 115 ราย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบทานตัวเลขให้ได้ยอดสุทธิ และทางตำรวจกำลังรอตัวเลขความเสียหายจริงดังกล่าวจากสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด เนื่องจากสมาชิกบางท่านยังไม่สามารถเดินทางมาตรวจสอบบัญชีเองได้"
คือ ข้อมูลล่าสุด ในคดีทุจริตยักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ถูกเปิดเผยออกมาโดย นายประกอบ เผ่าพงศ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์
ขณะที่ นายประภากร อินทโสภา กรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยืนยันว่า ที่ผ่านมาสหกรณ์ได้ดำเนินการไปแล้วใน 3 ประเด็น คือ 1.แจ้งความเสียหายต่อสน.นางเลิ้งให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ทั้งสองราย 2.อยู่ระหว่างการสอบทานตัวเลขความเสียหาย ซึ่งล่าสุด ณ วันที่ 19 เม.ย.65 มีผู้มาแจ้ง 115 ราย สินทรัพย์ 644 ล้านบาท ซึ่งต้องสอบให้ได้ข้อยุติ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน พ.ค.นี้ ต้องสอบทานเนื่องจากบางรายเมื่อมายืนยันข้อเท็จจริงพบการเบิกจ่ายในบัญชี 10 รายการ แต่เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าเจ้าตัวดำเนินการด้วยตัวเอง 8 ราย เป็นต้น และ 3.อยู่ระหว่างการพิจารณาที่จะนำเงินของสหกรณ์มาจ่ายให้กับสมาชิกที่เสียหายว่าจะนำมาจากที่ไหน เบื้องต้นพบว่า สหกรณ์มีเงินลงทุนในสหกรณ์อื่นๆ 3 - 4 แห่ง สามารถนำมาชดเชยได้ ภายหลัง คดีแล้วเสร็จ
จากข้อมูลทั้งหมดที่ถูกเปิดเผยออกมา แม้ภาพรวมการดำเนินงานแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ ดูเหมือนจะเริ่มเป็นไปด้วยดี
แต่หากโฟกัสข้อมูลคำให้สัมภาษณ์ ของ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่ระบุว่า "ตลอดทั้งคืนวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา มีความพยายามขัดขวางไม่ให้เกิดการประชุมในวันนี้ขึ้น รวมถึงมีการส่งไลน์ต่อว่าดิฉันด้วยถ้อยคำไม่สุภาพ ซึ่งยอมไม่ได้ ดิฉันกำกับดูแลกรมส่งเสริมสหกรณ์ และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ต้องทำตามหน้าที่และยอมรับว่าเมื่อเกิดเรื่องนี้ขึ้น ตัวดิฉันเองก็อาย รมว.เกษตรและสหกรณ์ รวมถึงปลัดกระทรวงก็อาย เพราะฉะนั้นต้องช่วยกันทำงานสะสางเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด ไม่ยืดเยื้อ และขอฝากไปยังประธานสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด ว่าทำไมไม่ให้ความร่วมมือในการสะสางเรื่องนี้ เพื่อให้สอบข้อเท็จจริงได้เร็วที่สุด แต่กลับไม่เข้าร่วมประชุมเป็นครั้งที่ 2 ที่ประชุมเรื่องนี้ แต่ส่งกรรมการท่านอื่นมาเข้าร่วมแทน และขอฝากถามว่าคุณสุภาพรนั้นคือใคร"
อาจทำให้สาธารณะมีข้อสงสัยว่า เกิดอะไรขึ้นระหว่าง น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตร กับ นางสุภาพร พิมลลิขิต ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบยืนยันข้อมูลกับแหล่งข่าวในกระทรวงเกษตรฯ และสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สามารถขมวดเงื่อนปมสำคัญที่ได้รับดังนี้
หนึ่ง.
ความไม่พอใจของ น.ส.มนัญญา อาจจะเกิดจากกรณี มีผู้บริหารสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรบางราย ไปโพสต์ข้อความเชิงตำหนิผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ ในช่องทางไลน์บางไลน์ว่าไม่เร่งรีบเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องนี้
"คงมีใครนำข้อมูลไปรายงานรมช.เกษตรและสหกรณ์ ท่านก็เลยไม่พอใจ จึงออกมาให้ความเห็นในลักษณะนี้ ทั้งที่ผ่านมาท่านรมช. ก็พยายามทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว"
สอง.
นับตั้งแต่เกิดปัญหาทุจริตยักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตร สร้างความไม่สบายใจให้กับผู้บริหารสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรชุดใหม่เป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะตัวนางสุภาพร พิมลลิขิต ประธาน ถึงขนาดออกปากกับคนใกล้ชิดว่าอยากขอลาออก แต่มีหลายคนห้ามไว้
"แต่ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ยอดเงินความเสียหายเพิ่มมากขึ้นทุกที"
"ขณะที่การติดตามตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ก็เป็นไปด้วยความล่าช้า ก็เริ่มมีคนไปพูดเรียกร้องให้มีการตรวจสอบการดำเนินงานของคณะกรรมการสหกรณ์ทั้งชุดเก่าชุดปัจจุบันว่ามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ เพราะคณะกรรมการหลายคนก็มีการทำธุรกิจด้วยเหมือนกัน บางคนลูกเปิดบริษัทเข้ามารับงานในกระทรวงเกษตรฯ ด้วย ก็ยิ่งทำให้คณะกรรมการ รวมถึงตัวประธาน ไม่สบายใจต่อปัญหาเรื่องนี้มากขึ้นไปอีก"
"ส่วนการแก้ไขปัญหา นับตั้งแต่เกิดเรื่องคณะกรรมการสหกรณ์ฯ ได้พยายามประสานงานไปเจ้าหน้าที่ตำรวจรวมถึงหน่วยงานตรวจสอบให้เร่งเข้ามาช่วยติดตามคดีนี้ทุกช่องทางแล้ว ล่าสุด สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้มีหนังสือแจ้งตอบกลับมาเป็นทางการแล้วว่า จะนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการธุรกรรมแล้ว ไม่ใช่ว่า ที่ผ่านมาคณะกรรมการสหกรณ์ไม่ทำอะไรเลย"
อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบยืนยันข้อมูลเรื่องนี้ สำนักข่าวอิศรา ยังได้รับแจ้งข้อมูลสำคัญเพิ่มเติมด้วยว่า
เกี่ยวกับการ ติดตามตัวผู้ต้องหา และการติดตามเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้อง เป็นสิ่งที่แหล่งข่าวในกระทรวงเกษตรฯ และคณะกรรมการสหกรณ์ เห็นตรงกันว่ามีปัญหาความล่าช้าอยู่มากเช่นกัน
@นางพวงทิพย์ สุทธิแย้ม
โดยข้อมูลเกี่ยวกับ นางพวงทิพย์ สุทธิแย้ม อดีตผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ ผู้ต้องหารายแรก ล่าสุด หลังหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2565 มีผู้พบเห็นตัว อยู่แถว อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว จากนั้นก็ไม่มีเบาะแสอะไรเพิ่มเติมอีก
ส่วน นางศิริพร รัตนปราการ อดีตหัวฝ่ายการเงินสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตร ผู้ต้องหารายที่ 2 ปัจจุบันยังไม่มีเบาะแสอะไรเพิ่มเติม นอกจากกระแสข่าวว่า นางศิริพร มีความสนิทสนมกับนายตำรวจระดับสูง ที่เคยมีตำแหน่งใหญ่โตในจังหวัดทางภาคอีสาน มีเส้นสายดีในสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และก็เป็นนายตำรวจระดับสูงผู้นี้เอง ที่ให้ความช่วยเหลือพาตัวนางศิริพร หลบหนีออกไปนอกประเทศไทย และก็เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้การติดตามตัวผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้เป็นไปด้วยความล่าช้า แบบที่เห็น
@ นางศิริพร รัตนปราการ
ทั้งที่ กระบวนการนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วน เพราะถ้าตัวผู้ต้องหากลับมาโดยเร็ว ก็จะทำให้การติดตามเงินที่สูญหายเป็นไปด้วยความรวดเร็ว รวมถึงการระบุตัวผู้มีส่วนเกี่ยวข้องรายอื่น ๆ ด้วย
สำหรับประเด็นเรื่องตัวเลขความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น ปัจจุบันตัวเลขยังไม่นิ่ง ล่าสุด มีจำนวนผู้เสียหาย 115 ราย จำนวน 182 บัญชี ความเสียหายอยู่ที่ 644,833,427.78 บาท ซึ่งสมาชิกแจ้งว่าไม่ได้ทำธุรกรรม แต่เงินในบัญชีหาย โดยบัญชีที่มียอดเสียหายมากที่สุดถึง 40 ล้านบาท เป็นของอดีตข้าราชการบำนาญ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) รองลงมาส่วนใหญ่เป็นของอดีตข้าราชการ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อตก.) เงินที่หายไปอยู่ที่หลักล้านบาท ถึงสิบล้านบาท แต่ก็ยังต้องมีการตรวจสอบข้อมูลความถูกต้องเพิ่มเติม ฉะนั้นตัวเลขความเสียหายอาจจะเพิ่มหรือลดลงมากกว่านี้ก็ได้
แต่ปัญหาสำคัญที่สุดคือ การเข้าไปสะสางระบบการเบิกจ่ายถอนเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรฯ วางระบบใหม่ เพื่ออุดรอยรั่วไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำรอยขึ้นมาได้อีกและยังมีข้อมูลสำคัญอีกหลายส่วนที่ยังไม่ได้เข้าไปดูรายละเอียด โดยเฉพาะเรื่องการปล่อยเงินกู้ให้กับบุคคลบางกลุ่มด้วย
ทั้งหมดเป็นข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาความขัดแย้งระหว่าง น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตร กับ นางสุภาพร พิมลลิขิต ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตร และข้อมูลเชิงลึกในคดีทุจริตยักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรฯ ครั้งใหญ่ ในเกิดขึ้นแวดวงสหกรณ์ไทย
ที่สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบล่าสุด ณ ห้วงเวลานี้
อ่านเรื่องประกอบ :
- งานเข้า ก.เกษตรฯ! จนท.สหกรณ์ออมทรัพย์ ทุจริตเงินบัญชีสมาชิกมากกว่า 30 ล. (1)
- ยอดเสียหายพุ่ง 200ล.! สหกรณ์ก.เกษตรฯ ลุยแจ้งความ 'จนท.-ผจก.' คดียักยอกเงินแล้ว (2)
- ทุน 2.4 พันล.! เปิดตัวสหกรณ์ก.เกษตรฯ ก่อนเกิดกรณีทุจริตจนท.ยักยอกเงินหลายสิบล้าน (3)
- 2ผู้ต้องสงสัยหนีนานแล้ว! เกษตรฯเร่งแก้ทุจริตสหกรณ์ กันทุนสำรอง4ล./วัน รับมือสมาชิกแห่ถอน (4)
- โชว์คำสั่งสหกรณ์ก.เกษตรฯ สอบยักยอก 200 ล.-เปิดชื่อ 2 ผู้ต้องสงสัยหายตัวตั้งแต่ 28 มี.ค. (5)
- แกะรอย 'จนท.-ผจก.' คดียักยอกส.เกษตรฯ 200 ล. มีร้านอาหารหรู-เปลี่ยนชื่อสกุลใหม่ ปี62 (6)
- เสียหายแล้ว 491 ล.'มนัญญา'สอบทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์ ก.เกษตร ชง'ดีเอสไอ-ปปง.'ตั้งคดีพิเศษ (7)
- ข้อมูลลับ จนท.สหกรณ์เกษตรฯ คดียักยอก 491 ล. เปลี่ยนชื่อสกุลใหม่ ถือหุ้นรีสอร์ทหรูอัมพวา (8)
- โพรไฟล์ลึก! ผจก.คดียักยอกส.เกษตรฯ 491ล. เจ้าของรีสอร์ทเขาค้อ-ประกาศขาย 23.5 ล้าน (9)
- ทะลุ 600 ล.! เปิดยอดเสียหายคดีทุจริตสหกรณ์เกษตรฯล่าสุด -มีอดีตอธิบดีโดนด้วยหลายล้าน (10)
- เปิดแผนการ? จนท.คดีทุจริตสหกรณ์เกษตรฯ600ล.เปลี่ยนชื่อสกุลใหม่-ถือหุ้นรีสอร์ทหรู ก่อนหนี (11)
- เปิดเอกสารตั้ง บ.รีสอร์ทหรูอัมพวา ตามไขปริศนา จนท.สหกรณ์เกษตรฯ เอาเงินจากไหนมาสร้าง? ก่อนหนี (12)
- สรุป 4 พฤติการณ์ 'จนท.-ผจก.'คดีทุจริตเงินส.เกษตรฯ - 'ลูกสาว' ไม่ตอบแหล่งเงินรีสอร์ทหรู (13)
- ข้อมูลใหม่! ก่อนแม่หนี 'ลูก' จนท.สหกรณ์เกษตรฯ ตั้ง บ.อีกแห่ง ทุน 2 ล.ทำธุรกิจร้านอาหาร (14)
- เสียหายทะลุ 620 ล.'มนัญญา'ดึง ปปง.-ดีเอสไอ สอบคดีทุจริตสหกรณ์เกษตรฯ (15)
- 'มนัญญา'ข้องใจ ปธ.สหกรณ์เกษตรฯ ไม่ให้ความร่วมมือสางคดียักยอกทรัพย์ เสียหายล่าสุด 644 ล. (16)