"...ข่าวเรื่องการทุจริตในสหกรณ์ เริ่มต้นปรากฏเป็นทางการในวันที่ 1 เมษายน 2565 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ครบรอบ 130 ปี หลังจากสมาชิกหลายรายไปตรวจสอบบัญชีเงินฝากของตนเอง แล้วพบว่าเงินในบัญชีหายไปจำนวนมาก บางรายมีวงเงินสูงถึง 3.3 ล้านบาท จึงมีการนำเรื่องมาแจ้งต่อผู้บริหารสหกรณ์ให้ตรวจสอบเป็นทางการตามที่ปรากฏเป็นข่าว..."
กำลังเป็นประเด็นร้อนในหมู่ข้าราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กรณีปรากฏข่าว เจ้าหน้าสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ผู้ต้องสงสัยรายหนึ่ง ได้อาศัยโอกาสที่ตนเองรู้รหัสบัญชีเงินฝากสมาชิกไปแอบถอนเงินออกมา ความเสียหายที่ตรวจสอบพบแล้วในขณะนี้น่าจะมีจำนวนมากกว่า 30 ล้านบาท ขึ้นไป
ปัจจุบันผู้บริหารสหกรณ์ฯ กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงปัญหาที่เกิดขึ้น รวมถึงตัวเลขความเสียหาย โดยมีนัดหมายประชุมในวันที่ 4 เมษายน 2565 นี
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สืบค้นข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรฯ ก่อนเกิดกรณีทุจริตครั้งใหญ่นี้ พบข้อมูลที่น่าสนใจดังต่อไปนี้
ประวัติความเป็นมา
ในเว็บไซต์ สหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด ระบุว่า สหกรณ์ฯ ได้รับการจดทะเบียนตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2511 เป็นนิติบุคคล เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2516 ด้วยความร่วมใจ และสมัครใจของข้าราชการและลูกจ้างประจำในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีคณะผู้จัดตั้ง จำนวน 14 คน สมาชิกแรกตั้งจำนวน 182 คน มีทุนในการดำเนินงานเพียง 10,320 บาท
โดยเริ่มแรกได้ดำเนินธุรกิจการถือหุ้น และการให้เงินกู้แก่สมาชิก ในปี 2516 ได้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการดำเนินการชุดที่ 1 มีนายปรีดา กรรณสูต อดีต ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานกรรมการคนแรก และกรรมการ จำนวน 14 คน
ระยะแรกสหกรณ์ยังไม่มีการจ้างผู้จัดการและเจ้าหน้าที่ ต้องอาศัยข้าราชการในสังสังกัด สป.กษ. ทำหน้าที่ผู้จัดการและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานแทน
ต่อมาในปี 2537 ได้เริ่มให้บริการรับฝากเงินจากสมาชิกนับถึงปัจจุบันสหกรณ์ได้ดำเนินธุรกิจมาเป็นเวลา 48 ปี มีสมาชิกทั้งสิ้น 4,210 คน มีทุนดำเนินงาน 2,454,586,601.52 บาท มีเจ้าหน้าที่สหกรณ์ จำนวน 10 คน สามารถให้บริการและอำนวยประโยชน์ให้กับสมาชิกได้อย่างทั่วถึง
ระบุวิสัยทัศน์
"มั่นคงโปร่งใส สารสนเทศทันสมัย พร้อมให้บริการ"
ภารกิจสหกรณ์
ระบุว่า เป็นสหกรณ์ที่ส่งเสริม และพัฒนาการออม การให้เงินกู้ และจัดสวัสดิการให้แก่สมาชิก และครอบครัว เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ตลอดจนสร้างระบบเพื่อการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพเป็นที่เชื่อถือ และไว้วางใจให้ผลตอบแทนที่เป็นธรรมแก่สมาชิก
มีภารกิจ ดำเนินกิจการ 3 เรื่อง คือ 1. ระดมเงินหุ้นจากสมาชิก 2. รับฝาก-ถอนเงินจากสมาชิก 3. ให้เงินกู้แก่สมาชิก
พันธกิจ มี 4 ประการ ดังนี้
1. ให้บริการด้านการเงินแก่สมาชิกด้วยความสะดวกรวดเร็วและถูกต้อง
2. จัดให้มีสวัสดิการแก่สมาชิก
3. พัฒนาบุคลากรและเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ
4. ให้คำปรึกษา แนะนำด้านการเงินอย่างถูกต้อง
การบริหารงานปัจจุบัน อยู่ในการกำกับดูแลของ คณะกรรมการดำเนินการ ชุดที่ 50 มีนางสุภาพร พิมลลิขิต เป็นประธานกรรมการบริหารฯ
ทั้งนี้ ข้อมูลในส่วนของภารกิจเงินฝากกับสหกรณ์ แจ้งอัตราผลตอบแทนไว้ดังนี้
- ออมทรัพย์ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.00 ต่อปี
- ออมทรัพย์พิเศษ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.00 ต่อปี
- ฝากประจำ 3,6,12 เดือน อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.00 ต่อปี
รายละเอียดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก
1.เงินฝากออมทรัพย์อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.0 ต่อปี
- เปิดบัญชีขั้นต่ำ 300 บาท (ฝากได้ไม่จำกัดวงเงิน และจะถอนเดือนละกี่ครั้งก็ได้)
2. เงินฝากออมทรัพย์พิเศษอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.0 ต่อปี
- เปิดบัญชีขั้นต่ำ 1,000 บาท
(ตามกำหนดวงเงิน และ รวมกันทุกบัญชีไม่เกิน 8 ล้านบาท แต่จะถอนได้เดือนละหนึ่งครั้งถอนเกินกว่าหนึ่งครั้งเสียค่าธรรมเนียม ร้อยละ 1 ของยอดที่ถอน ขั้นต่ำกว่า 300 บาท)
- คำนวณดอกเบี้ยเป็นรายวัน และดอกเบี้ยจะเข้าเบัญชีเเงินฝากทุก 6 เดือน
ทั้งนี้ เกี่ยวกับปัญหาการทุจริตที่เกิดขึ้น มีรายงานข่าวว่า ภายหลังที่ คณะกรรมการดำเนินการ ชุดที่ 50 เข้ามาดำเนินงาน ได้มีแนวทางวางระบบให้สมาชิกตรวจสอบข้อมูลเงินในบัญชีทางออนไลน์ จนทำให้รับทราบปัญหาเรื่องการยักยอกเงินในบัญชีเงินฝากสมาชิกเกิดขึ้น
ขณะที่ข่าวเรื่องการทุจริตในสหกรณ์ เริ่มต้นปรากฏเป็นทางการในวันที่ 1 เมษายน 2565 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ครบรอบ 130 ปี หลังจากสมาชิกหลายรายไปตรวจสอบบัญชีเงินฝากของตนเอง แล้วพบว่าเงินในบัญชีหายไปจำนวนมาก บางรายมีวงเงินสูงถึง 3.3 ล้านบาท จึงมีการนำเรื่องมาแจ้งต่อผู้บริหารสหกรณ์ให้ตรวจสอบเป็นทางการตามที่ปรากฏเป็นข่าว
ล่าสุด สมาชิกสหกรณ์รายหนึ่ง ให้ความเห็นกับสำนักข่าวอิศรา ว่า เท่าที่รับฟังข้อมูลจากสมาชิกสหกรณ์ด้วยกัน ปัจจุบันมีการประเมินตัวเลขความเสียหายน่าจะมากกว่า 50 ล้านบาท ขึ้นไป เพราะมีสมาชิกจำนวนมากนำเงินที่ได้หลังเกษียณอายุราชการ มาฝากออมทรัพย์ไว้ เพราะสหกรณ์ให้ดอกเบี้ยผลตอบแทนที่ดีมาก
อย่างไรก็ดี เกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น คณะกรรมการบริหารชุดเปัจจุบัน ควรจะรีบไปดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเร็วที่สุด ไม่ควรรอหลังการประชุมในวันที่ 4 เมษายน 2565 นี้เท่านั้น
"การตรวจสอบข้อมูลผู้ต้องสงสัย โดยเฉพาะเรื่องเอกสารหลักฐานเส้นทางการเงินต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องต้องรีบดำเนินการโดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้มีการทำลายเอกสารหลักฐานทิ้ง ซึ่งทราบมาว่าผู้ต้องสงสัย มีการไปเปิดร้านอาหารด้วย ไม่แน่ใจว่าเงินที่นำไปลงทุนเปิดร้านอาหาร จะมีความเกี่ยวข้องกับเงินของสมาชิกสหกรณ์ที่ถูกยักยอกไปด้วยหรือเปล่า และขณะนี้เริ่มมีการพูดกันแล้วว่าผู้ต้องสงสัย ไม่น่าจะทำเรื่องนี้เพียงคนเดียว น่าจะมีคนบางกลุ่มรู้เห็นเป็นใจด้วย" สมาชิกสหกรณ์รายนี้ ระบุ