"...ผลการเข้ารับฟังคำชี้แจงดังกล่าว พนักงานสอบสวน ได้ยืนยันว่าจะคืนไม้ให้กับนายคำสะไหว พมมะจัน นักธุรกิจชาวลาว ที่อ้างตัวว่าเป็นตัวแทนบริษัทพงสะหวันก่อนหน้านี้ แต่หากใครยังมีข้อโต้แย้งเสนอแนะให้ไปร้องเรียนที่ศาลปกครองกลางต่อไป ขณะที่ตัวแทนฝ่ายผู้ตรวจการแผ่นดิน ฝ่ายกรมศุลกากร ได้มีการเห็นพ้องต้องกันและแจ้งให้กับผู้ที่ยังโต้แย้งสิทธิ์ว่า ถ้าหากยังมีประเด็นข้อโต้แย้งสิทธิ์ในเรื่องไม้พะยูงดังกล่าวนั้นก็ควรนำเรื่องไปฟ้องต่อศาลเพื่อหาข้อยุติต่อไป ส่วนฝ่ายผู้ตรวจการแผ่นดิน ย้ำว่ากรณีนี้ ถ้ามีการคืนผิดคน ปทส.พนักงานสอบสวนต้องรับผิดชอบ ..."
....................................................
ประเด็นตรวจสอบกรณีศึกชิงไม้พะยูงของกลางจำนวนกว่า 11 ตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 1,664 ท่อน 155 ลูกบาศก์เมตร มูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท ที่อ้างว่าถูกนำเข้าจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) และถูกยึดไว้ที่สำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าลาดกระบัง (ด่านลาดกระบัง) เมื่อปี พ.ศ.2549 แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีการนำไม้ดังกล่าวส่งคืนให้กับ สปป.ลาวแต่อย่างใด ทั้งที่ เมื่อปี 2556 กระทรวงการต่างประเทศได้มีมติเตรียมจะคืนไม้ของกลางทั้งหมดให้กับรัฐบาล สปป.ลาว เรียบร้อยแล้ว ซึ่งปัจจุบันมีบุคคลอย่างน้อย 3 กลุ่ม อ้างสิทธิ์ขอคืนไม้พะยูงของกลางดังกล่าว
(อ่านประกอบ:จำแนก 4 กลุ่ม ศึกชิงไม้พะยูง 200 ล.! ผู้รับจ้างขนเข้าไทย โผล่อ้างสิทธิ์ขอคืนด้วย?,'ผู้ตรวจการแผ่นดิน' จี้ ปทส. ตรวจหลักฐานคนขอคืนไม้พะยูง 200 ล. ภายใน 15 วัน,ลุยแจ้งความผู้แอบอ้าง! ตัวแทนกก.พงสะหวัน ยันครองสิทธิ์ไม้พะยูง 200 ล.เจ้าเดียว,ปมไม้พะยูง 200 ล.ส่อถึงศาลปค.! พนง.สอบสวน ยันคืนให้ 'คำสะไหว' แม้ถูกค้านหนัก)
มีความคืบหน้าเพิ่มเติม เมื่อสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้รับการยืนยันข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ได้มีการเชิญตัวแทนกลุ่มผู้อ้างสิทธิครอบครองไม้พะยูงทุกกลุ่มเข้ารับฟังคำชี้แจงจากทางกองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.)
โดยผลการเข้ารับฟังคำชี้แจงดังกล่าว พนักงานสอบสวน ได้ยืนยันว่าจะคืนไม้ให้กับนายคำสะไหว พมมะจัน นักธุรกิจชาวลาว ที่อ้างตัวว่าเป็นตัวแทนบริษัทพงสะหวันก่อนหน้านี้ แต่หากใครยังมีข้อโต้แย้งเสนอแนะให้ไปร้องเรียนที่ศาลปกครองกลางต่อไป ขณะที่ตัวแทนฝ่ายผู้ตรวจการแผ่นดิน ฝ่ายกรมศุลกากร ได้มีการเห็นพ้องต้องกันและแจ้งให้กับผู้ที่ยังโต้แย้งสิทธิ์ว่า ถ้าหากยังมีประเด็นข้อโต้แย้งสิทธิ์ในเรื่องไม้พะยูงดังกล่าวนั้นก็ควรนำเรื่องไปฟ้องต่อศาลเพื่อหาข้อยุติต่อไป ส่วนฝ่ายผู้ตรวจการแผ่นดิน ย้ำว่ากรณีนี้ ถ้ามีการคืนผิดคน ปทส.พนักงานสอบสวนต้องรับผิดชอบ
รายละเอียดการประชุมมีดังต่อไปนี้
@พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม
ตามที่ บก.ปทส. ได้ดําเนินการตาม ป.วิ.อาญา ม.45 โดยพิจารณาคืนไม้พะยูง จํานวน 11 ตู้คอนเทเนอร์ ของกลางในคดีอาญาที่ 202/2549 บัญชียึดทรัพย์ที่ 14/2544 ให้กับ บริษัท Phongsavanh Wood industry หรือ พงสะหวันค้าไม้ จํากัด หรือ บริษัท พงษ์สะวันอุตสาหกรรม จํากัด หรือบริษัท พงษ์สะหวัน อุตสาหกรรมไม้ จํากัด หรือ วิสาหกิจส่วนบุคคล พงสะหวัน อุตสาหกรรมค้าไม้ จํากัด โดยนายคําสะไหว พมมะจัน ผู้รับมอบอํานาจ นั้น
เนื่องจากมีผู้อ้างความเกี่ยวข้องมายื่นคําร้องขอรับไม้ของกลาง และมีผู้มายื่นเอกสารโต้แย้งกรรมสิทธิ์การรับไม้ของกลางคืนในคดีนี้หลายรายเพื่อให้การ คืนไม้ของกลางฯ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวดเร็ว เกิดความยุติธรรม และถูกต้อง
จึงเชิญเจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องมาร่วมกันประชุมรับการชี้แจงข้อเท็จจริงตามคําวินิจฉัย และข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดิน
@พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
ผู้บังคับบัญชาระดับ ตร. และผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) มีความห่วงใยการปฏิบัติของพนักงานสอบสวน อย่าให้มีผลกระทบหรือขัดแย้ง กับหน่วยอื่น ให้มีการตกลงทําความเข้าใจเพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
@ ผู้แทนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.)
บก.ปทส. ในฐานะ พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดี อาศัยอํานาจตาม ป.วิ อาญา ม.45 ได้พิจารณาคืนไม้พะยูง จํานวน 11 ตู้คอนเทนเนอร์ ของกลางในคดีอาญา ที่ 202/2549 บัญชียึดทรัพย์ที่ 144/2549 แก่บริษัท Phongsavanh Wood industry หรือ พงสะหวัน ค้าไม้ จํากัด หรือ บริษัท พงษ์สะหวัน อุตสาหกรรม จํากัด หรือ บริษัท พงษ์สะหวันอุตสาหกรรมไม้ จํากัด หรือ บริษัทวิสาหกิจส่วนบุคคล พงสะหวันอุตสาหกรรมค้าไม้ จํากัด โดยได้จัดทําบันทึกรับไม้ของกลาง ฉบับลงวันที่ 25 ธ.ค.63 โดยมี นายคําสะไหว พมมะจัน เป็นผู้รับมอบอํานาจจาก บริษัทฯ เป็นผู้รับมอบ
ปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนที่กรมศุลกากรและกรมป่าไม้ได้ดําเนินการ ทางพิธีการศุลกากรและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยการดําเนินการทุกขั้นตอน บก.ปทส. ได้มีการรายงานผลไปยังกรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ, สํานักนายกรัฐมนตรี และ บช.ก. อยู่เป็นระยะจนเสร็จสิ้นการพิจารณาคืนไม้พะยูงของกลางดังกล่าว
@ผู้แทนผู้ตรวจการแผ่นดิน
สํานักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้รับเรื่องร้องเรียนกรณีเกี่ยวข้องกับการคืนไม้ของกลาง ในคดีนี้จากนายสมสัก หรือ สมศักดิ์ แก้วผาลี สัญชาติลาว จึงมีคําวินิจฉัยและ ข้อเสนอแนะ ลง 30 เม.ย.64 มีข้อเสนอแนะดังต่อไปนี้
1. การคืนไม้พะยูงของกลาง ตาม ป.วิ.อาญา ม.45 เป็นอํานาจหน้าที่ของ พนักงานสอบสวน บก.ปทส. โดยให้ ผบก.ปทส. ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน ทําความเห็นตามรายงานสอบสวนคดีอาญาที่ 202/2549 บัญชียึดทรัพย์ ที่ 194/2549 แจ้งไปยังกรมศุลกากรในฐานะผู้เก็บรักษาของกลางในประเด็นที่ เกี่ยวข้องกับการพิจารณาคืนไม้พะยูงของกลางภายใน 15 วัน
2. ให้กรมศุลกากร ในฐานะผู้เก็บรักษาไม้ของกลางมีคําสั่งให้สํานักศุลกากร คืนไม้พะยูงของกลางให้แก่บุคคลที่ ผบก.ปทส.ยืนยันว่าเป็นบุคคลผู้รับมอบอํานาจ จากบริษัทฯ โดยดําเนินการตามอํานาจหน้าที่ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับถัดจาก วันที่ได้รับหนังสือแจ้งจาก บก.ปทส.
3. กรณีมีการโต้แย้งสิทธิ์หรือกล่าวอ้างว่าบุคคลใดมิใช่ผู้มอบอํานาจที่แท้จริง และคู่กรณีตกลงกันไม่ได้ ให้ บก.ปทส. และกรมศุลกากร จัดทําบันทึกและให้คู่กรณี ทุกฝ่ายลงลายมือชื่อไว้ และแจ้งให้คู่กรณีทุกฝ่ายทราบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายอย่าง เท่าเทียมกัน เพื่อไปยื่นฟ้องต่อศาลที่มีอํานาจชําระคดี ต่อไป
โดยมีข้อเสนอแนะหลังจากมีการพิจารณาคืนไม้ของกลางแล้ว คือขั้นตอนในทางธุรการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องมีการประสานงาน และปฏิบัติตามระเบียบ ที่เกี่ยวข้อง สามารถแนะนําผู้ที่ได้รับไม้ของกลางให้ปฏิบัติตามในกระบวนการขั้นตอนการคืนไม้และการขนย้ายเพื่อความชัดเจนและเสร็จสิ้นสมบูรณ์ในกระบวนการ โดยไม่ต้องมีการย้อนไปมาแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าว ทําให้สับสนในทางปฏิบัติ หรือมีการร้องเรียนในเรื่องดังกล่าวอีก
@ผู้แทนกรมศุลกากร
เห็นชอบตามคําวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่เห็นว่า บก.ปทส. เป็นพนักงานสอบสวน ผู้รับผิดชอบคดีมีอํานาจพิจารณาดําเนินการคืนไม้พะยูงของกลาง ตาม ป.วิอาญา ม.45 แต่เนื่องจากเหตุที่ยังไม่คืนไม้พะยูงของกลางให้กับบุคคลผู้รับมอบอํานาจจากบริษัทฯ ตามที่ บก.ปทส. มีหนังสือแจ้งการพิจารณาการคืน และตามคําวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน ด้วยเนื่องจากยังไม่ชัดเจนในข้อกฎหมายของศุลกากร ประกอบกับมีกรณีบุคคล ผู้โต้แย้งสิทธิ์การคืนไม้ของกลางดังกล่าว ดังนั้นเพื่อความถูกต้อง รอบคอบ เป็นธรรม แก่ทุกฝ่าย และป้องกันการถูกฟ้องร้องหน่วยงานในภายหลัง จึงมีการประชุมหารือ ศึกษา ระเบียบ ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องและแนวทางการปฏิบัติก่อน หลังจากการประชุม หารือครั้งนี้แล้วก็จะได้ดําเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามอํานาจหน้าที่เพื่อให้เป็นไปตาม คําวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดินต่อไป
@คู่กรณีผู้โต้แย้งสิทธิ์
คู่กรณีที่เกี่ยวข้องกับการขอคืนไม้พะยูงของกลางที่มารับฟังข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ประกอบด้วย
(1) นางสาวิตรี นันทภิวัฒน์ ตัวแทนผู้รับมอบอํานาจจากนายสอนแก้ว สิดทิไช กรรมการผู้มีอํานาจบริหารและลงนามใน Phongsavanh Wood industry หรือ วิสาหกิจส่วนบุคคลพงสะหวันอุตสาหกรรมไม้
(2) นายอนุชิต ธาตุเสียว ทนายความนาย สมศักดิ์ แก้วผาลี
(3) ตัวแทนนายคําสะไหว พมมะจัน ซึ่งรับว่าได้รับมอบอํานาจจากนายอ๊อด พงสะหวัน ผู้จัดการ Phongsavanh Wood industry หรือวิสาหกิจส่วนบุคคลพงสะหวัน อุตสาหกรรมไม้
(4) นายคุณาวุฒิ สืบเสน ตัวแทนบริษัท ศรีสะเกษ คอนเน็ค
ซึ่งในการประชุมชี้แจงทําความเข้าใจ ประธานในที่ประชุมและผู้เกี่ยวข้องได้แจ้งให้คู่กรณีทุกฝ่าย ทราบถึงข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายทราบอย่างเท่าเทียม แต่มีการโต้แย้งสิทธิ์และมีการ กล่าวอ้างว่าผู้รับมอบอํานาจในการรับไม้ของกลางมิใช้ผู้รับมอบอํานาจอย่างแท้จริง คู่กรณี ทุกฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้ ที่ประชุมจึงได้แจ้งให้คู่กรณีทุกฝ่ายซึ่งโต้แย้งสิทธ์ไปยื่น ฟ้องต่อศาลที่มีอํานาจชําระคดีต่อไป ตามคําวินิจฉัยและข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการ แผ่นดิน ข้อ 7.3 พร้อมได้ทําบันทึกการชี้แจงกรณีดังกล่าวให้คู่กรณีทุกฝ่ายลงชื่อไว้เป็น หลักฐาน
ขณะที่ฝ่ายตัวแทนนายคําสะไหวฯ และตัวแทนบริษัท ศรีสะเกษ คอนเน็ค ซึ่งทราบ ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายแล้ว ได้เดินทางกลับก่อน จึงไม่ได้ลงลายมือชื่อในบันทึกดังกล่าว (ดูภาพเอกสารประกอบ)
หลังการประชุมครั้งนี้ ปัญหาเรื่องนี้จะได้ข้อยุติหรือไม่ หรือเรื่องจะต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลฯ เป็นทางการ
ศึกชิงไม้พะยูงของกลาง มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ที่ยืดเยื้อมายาวนานหลายปี
สุดท้ายจะจบลงอย่างไร ต้องติดตามดูกันต่อไป
อ่านประกอบ:
ปมไม้พะยูง 200 ล.ส่อถึงศาลปค.! พนง.สอบสวน ยันคืนให้ 'คำสะไหว' แม้ถูกค้านหนัก
ลุยแจ้งความผู้แอบอ้าง! ตัวแทนกก.พงสะหวัน ยันครองสิทธิ์ไม้พะยูง 200 ล.เจ้าเดียว
จำแนก 4 กลุ่ม ศึกชิงไม้พะยูง 200 ล.! ผู้รับจ้างขนเข้าไทย โผล่อ้างสิทธิ์ขอคืนด้วย?
อ้างตัวแทน สปป.ลาว ตามทวงคืนไม้พะยูง 200 ล.โดนยึดปี 49-ผู้การ ปทส.ยันคืนให้บริษัทแล้ว
ศึกชิงไม้พะยูงของกลาง 200 ล.ระอุ! คนกลุ่ม 3 โผล่ อ้างเจ้าของกรรมสิทธิ์ตัวจริง
ปมคืนไม้พะยูงของกลาง 200 ล.วุ่น! บ.ลาว อ้างมีคนหวังฮุบ ยื่นสำนักนายกฯ ขอความเป็นธรรม
ร้องผู้ตรวจการฯ สางปมศึกชิงไม้พะยูง 200 ล.- จี้ ปทส.แจงหลักเกณฑ์คืนของกลาง
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage