ตัวแทน บ.พงสะหวัน ติดต่อชี้แจงอิศรา ปมของกลางไม้พะยูง 11 ตู้คอนเทนเนอร์ 200 ล้าน ยันรบ.ลาว ไม่ติดใจตามคืนแล้ว แต่มีคนบางกลุ่มหวังครอบครองไม้เอง ไปร้องเรียนหลายที่ทำให้เกิดปัญหานำไม้ออกไปได้ ยื่นเรื่องสำนักนายกฯ ขอความเป็นธรรมแล้ว ด้าน จนท.ศุลกากร เผยมีคนอ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของเยอะมาก ไม่รู้ใครตัวจริง-ปลอม เล็งประสาน กต.หารือ สปป.ลาว ขอความชัดเจนอีกครั้ง
................
สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้รับการร้องเรียนจากนายสมสัก แก้วผาลี ซึ่งอ้างว่าเป็นตัวแทนสาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว (สปป.ลาว) ในการติดตามทวงถามไม้พะยูงจำนวนกว่า 11 ตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 1,664 ท่อน 155 ลูกบาศก์เมตร มูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท ที่อ้างว่าถูกนำเข้าจาก สปป.ลาว และถูกยึดไว้ที่สำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าลาดกระบัง (ด่านลาดกระบัง) เมื่อปี พ.ศ.2549 แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีการนำไม้ดังกล่าวส่งคืนให้กับ สปป.ลาวแต่อย่างใด ทั้งที่เมื่อปี 2556 กระทรวงการต่างประเทศได้มีมติเตรียมจะคืนไม้ของกลางทั้งหมดให้กับรัฐบาล สปป.ลาว เรียบร้อยแล้ว
ขณะที่ทางด้านของ พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผบก.ปทส.) ยืนยันสำนักข่าวอิศราว่า ได้ดำเนินการคืนไม้ให้กับบริษัทพงสะหวันไปแล้ว หลังจากทำการสอบสวนเรื่องนี้ จนได้ข้อพิสูจน์ว่าไม้นี้เป็นของบริษัทพงสะหวัน
(อ่านประกอบ:อ้างตัวแทน สปป.ลาว ตามทวงคืนไม้พะยูง 200 ล.โดนยึดปี 49-ผู้การ ปทส.ยันคืนให้บริษัทแล้ว)
ความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับเรื่องนี้ สำนักข่าวอิศรา ได้รับการติดต่อจากบุคคลซึ่งอ้างว่าเป็นตัวแทนบริษัทพงสะหวัน เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มติม โดยยืนยันว่า ทางรัฐบาลลาวไม่ได้มีการติดใจเอาความอะไรเกี่ยวกับการนำไม้จำนวน 11 ตู้คอนเทนเนอร์คืนดังกล่าวแล้ว พร้อมระบุว่า ที่ผ่านมา มีความพยายามจากคนบางกลุ่มทั้งในส่วนลาวและไทย พยายามที่จะหาวิธีการครอบครองไม้จำนวน 11 ตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวเอง แต่ทาง ปทส. ก็ได้มีการสอบสวนจนชัดเจนแล้วว่าไม้นั้นเป็นไม้ของบริษัทพงสะหวันจริง
"ผลจากการที่มีบุคคลไปร้องเรียนหลายหน่วยงาน รวมไปถึงผู้ตรวจการแผ่นดินและก็กรมศุลกากรด้วย ทำให้ ณ เวลานี้เกิดปัญหาจนทำให้บริษัทพงสะหวันยังไม่สามารถที่จะนำไม้ออกจากด่านกรมศุลกากรได้ และทางบริษัทได้มีการร้องเรียนไปยังสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อขอความเป็นธรรมในเรื่องเหล่านี้แล้ว"
ทั้งนี้ ภายหลังการชี้แจงข้อมูลดังกล่าว ผู้อ้างตัวว่าเป็นตัวแทนบริษัทพงสะหวัน ได้ส่งเอกสารมาชี้แจงสำนักข่าวอิศรา เพิ่มเติม จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ 1. เอกสารจากสถานเอกอัคราชทูต สปป.ลาว ประจำประเทศไทย เพื่อยืนยันว่า สปป.ลาวไม่ได้มีความสนใจในไม้ทั้ง 11 ตู้คอนเทนเนอร์แล้ว และ 2. เอกสารของกรมศุลกากรที่ระบุว่าถ้าหากผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นตัวแทนบริษัทพงสะหวันต้องการรับไม้พะยูงคืน ก็ขอให้ไปแสดงความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ไม้พะยูงผ่านทางสถานเอกอัคราชทูต สปป.ลาว (ดูเอกสารประกอบ)
เอกสารจากสถานเอกอัคราชทูต สปป.ลาวประจำประเทศไทย
จากกรณีดังกล่าว ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่สำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าลาดกระบัง (ด่านลาดกระบัง) ที่ทำหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับไม้พะยูงดังกล่าว เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม
ได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ว่า "เรื่องนี้มีที่ไปที่มายาวนานมาก ตั้งแต่14 ปีก่อน โดยเรื่องเดิมนั้นไปอยู่ที่สำนักกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ณ เวลานี้มีกลุ่มคนที่มาอ้างสิทธิ์ในความเป็นเจ้าของไม้พะยูงนี้เยอะมาก และเยอะกว่า 2 รายตามที่สำนักข่าวอิศราได้นำเสนอไปด้วยซ้ำ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ทางกรมศุลกากรยังไม่กล้าตอบอะไรมาก เพราะเราก็ยังไม่รู้รายละเอียดว่าที่มาร้องนั้น ใครเป็นตัวจริงและใครเป็นตัวปลอมกันแน่ ดังนั้น อาจจะต้องมีการนำเรื่องนี้ไปประสานกระทรวงต่างประเทศเพื่อประสานไปยัง สปป.ลาวอีกทีหนึ่ง
อนึ่งก่อนหน้านี้ นายสมสัก แก้วผาลี ซึ่งอ้างว่าเป็นตัวแทน สปป.ลาว ได้ยืนยันว่าตัวเองนั้นเป็นตัวแทนจากทาง สปป.ลาวอย่างแน่นอน โดยระบุว่าเป็นตัวแทนจากทางพรรคคอมมิวนิสต์ สปป.ลาว และรับปากว่าจะประสานงานให้ทางสถานเอกอัครราชทูต สปป.ลาว ยืนยันข้อเท็จจริงเรื่องนี้อีกครั้ง
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage