ครม.อนุมัติลงนามสัญญากู้เงินจาก ‘ธนาคารพัฒนาเอเชีย’ 1.5 พันล้านดอลล์ หรือ 4,800 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้เป็นแหล่งเงินเยียวยาผลกระทบโควิดภายใต้ พ.ร.ก.กู้เงินฯ ‘คลัง’ แจงเป็นการกระจายความเสี่ยงการกู้เงินไปต่างประเทศ ลดผลกระทบตลาดเงินภายในประเทศผันผวน
เมื่อวันที่ 4 ส.ค. น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบร่างสัญญาเงินกู้ COVID-19 Active Response and Expenditure Support Program ของธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) และอนุมัติให้กระทรวงการคลังกู้เงินในนามรัฐบาลไทยจาก ADB วงเงิน 1,500 ล้านดอลลาร์ หรือ 48,000 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้ในโครงการแผนงานภายใต้พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2563
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะลงนามสัญญากู้เงินกับ ADB ภายในเดือนส.ค.นี้ ขณะที่ปัจจุบันสัดส่วนของหนี้รัฐบาลที่เป็นสกุลเงินตราต่างประเทศยังอยู่ในระดับที่ต่ำ และกระทรวงการคลังสามารถบริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของเงินกู้สกุลเงินตราต่างประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้
น.ส.รัชดา กล่าวต่อว่า สำหรับความจำเป็นในการกู้เงินครั้งนี้ เนื่องจากกระทรวงการคลังคาดว่า ในระยะต่อไปสภาวะตลาดการเงินภายในประเทศของไทยจะมีความผันผวนเพิ่มขึ้น โดยภาคเอกชนมีความต้องการสภาพคล่องเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และรัฐบาลยังคงต้องใช้งบประมาณเพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้น เพื่อเป็นการลดผลกระทบต่อสภาพคล่องภายในประเทศและต้นทุนการกู้เงินของทั้งภาครัฐและเอกชน กระทรวงการคลังจึงเห็นควรกระจายการกู้เงินไปยังแหล่งเงินกู้ต่างประเทศ
สำหรับสาระสำคัญของร่างสัญญาเงินกู้ฯ มีดังนี้ 1.ผู้กู้คือกระทรวงการคลัง ผู้ให้กู้คือ ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) 2.วงเงินกู้รวม 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่า 48,000 ล้านบาท คำนวณโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยน 32 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ
3.อัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว โดยอ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมระหว่างธนาคารของตลาดลอนดอน (LIBOR) ระยะเวลา 6 เดือน บวกด้วยส่วนต่างร้อยละ 0.50 ต่อปี โดยชำระดอกเบี้ยของวงเงินกู้คงค้างทุก 6 เดือน คือ วันที่ 15 ก.พ.และวันที่ 15 ส.ค. 4.ค่าธรรมเนียมผูกพันเงินกู้ อัตราร้อยละ 0.15 ต่อปี ภายหลัง 60 วันนับจากวันที่ลงนามในสัญญาเงินกู้ของวงเงินกู้ที่ยังไม่ได้เบิกจ่าย โดยชำระค่าธรรมเนียมพร้อมกับการชำระดอกเบี้ย
5.การชำระคืนต้นเงินกู้ แบ่งเป็น 2 วงเงินคือ วงเงินที่ 1 วงเงินกู้ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อายุเงินกู้ 10 ปี รวมระยะเวลาปลอดการชำระต้นเงินกู้ 3 ปี ทยอยชำระคืนโดยแบ่งเป็น 14 งวด งวดละ 35.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เริ่มชำระงวดแรกในวันที่ 15 ส.ค.2566 และชำระงวดสุดท้ายในวันที่ 15 ก.พ.2573
ส่วนวงเงินที่ 2 วงเงินกู้ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อายุเงินกู้ 5 ปี รวมระยะเวลาปลอดชำระต้นเงินกู้ 3 ปี ทยอยชำระคืนโดยแบ่งเป็น 4 งวด งวดละ 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เริ่มชำระงวดแรกในวันที่ 15 ส.ค.2566 และชำระงวดสุดท้ายในวันที่ 15 ก.พ.2568
6.ระยะเวลาสิ้นสุดการเบิกจ่ายเงินกู้ภายใน 30 มิ.ย.2564 เงื่อนไขการใช้จ่ายเงินกู้ เพื่อใช้ในโครงการแผนงานเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายใต้พระราชกำหนดฯ โดยไม่เป็นโครงการแผนงานที่มีกิจกรรมเกี่ยวกับการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตามหลักการของ ADB
“หลังจากการกู้เงินจาก ADB วงเงิน 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐในครั้งนี้แล้ว จะทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะของไทยที่เป็นเงินตราต่างประเทศต่อหนี้สาธารณะทั้งหมด จะเท่ากับ 2.46 ซึ่งไม่เกินร้อยละ 10 ตามกรอบการบริหารหนี้สาธารณะที่คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐกำหนด และกระทรวงการคลัง จะดำเนินการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เมื่อภาวะตลาดเอื้ออำนวยต่อไป” น.ส.รัชดากล่าว
อ่านประกอบ :
ป.ป.ช.ถก กมธ.องค์กรอิสระฯ เปิด 'เว็บฯเฉพาะกิจ' โชว์ใช้จ่ายเงินกู้ 4 แสนล. เยียวยาโควิด
ไฟเขียวกรอบเงินกู้ 9.2 หมื่นล้านฟื้นฟูเศรษฐกิจ อนุมัติแล้ว 5 โครงการรวม 1.5 หมื่นล้าน
จ้างงานในท้องถิ่น 3.9 หมื่นอัตรา! ครม.ไฟเขียว 3 โครงการ ใช้เงินกู้ 4 พันล้าน
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage