หัวหน้าส่วนราชการ 5 หน่วยงาน ลงนามคำสั่งตั้ง ‘คณะทำงาน’ พิจารณาฟ้องแพ่ง ‘พ่อค้าข้าว’ ที่ ป.ป.ช.กันไว้เป็น ‘พยาน’ ในคดีทุจริตระบายจีทูจี ชี้แม้ไม่ต้องถูกดำเนินคดีอาญา ในฐานะพยาน แต่ต้องมีส่วนรับผิดชอบต่อความเสียหาย ‘ทางแพ่ง’ ด้วย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา หัวหน้าส่วนราชการ 5 หน่วยงาน ซึ่งได้รับความเสียหายจากคดีทุจริตขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ร่วมกันลงนามคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ 1345/2563 แต่งตั้งคณะทำงานพิจารณามูลค่าความเสียหายที่เกิดจากผู้ประกอบการค้าข้าวที่มีส่วนร่วมกระทำความผิด ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีมติกันไว้เป็นพยานในคดีหมายเลขดำที่ อม.อธ. 3,4/2560 คดีหมายเลขแดงที่ อม.อธ. 2-3/2562
สำหรับคำสั่งดังกล่าวระบุว่า ตามที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้มีคำพิพากษาชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์คดีหมายเลขดำที่ อม.อธ. 3,4/2560 คดีหมายเลขแดงที่ อม.อธ. 2-3/2562 พิพากษาให้จำเลยที่ 7 ถึงที่ 15 ที่ 17 ถึงที่ 18 และที่ 20 ถึงที่ 28 ชำระค่าเสียหายส่วนแพ่งแก่ผู้ร้องทั้ง 5 ซึ่งเป็นผู้เสียหายในคดี
ได้แก่ กรมการค้าต่างประเทศ ที่ 1 องค์การคลังสินค้า ที่ 2 องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร ที่ 3 กระทรวงพาณิชย์ ที่ 4 และกระทรวงการคลัง ที่ 5 เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2562 และจากคำพิพากษาดังกล่าวได้ระบุข้อเท็จจริงว่า มีผู้ประกอบการค้าข้าวอีกส่วนหนึ่งที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยการซื้อและรับมอบข้าวในโครงการจำนำข้าวดังกล่าวด้วย แต่คณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นสมควรกันผู้นั้นไว้เป็นพยาน โดยไม่ดำเนินคดีร่วมกับจำเลยอื่นๆ นั้น
เพื่อเป็นการรักษาประโยชน์ของทางราชการ ในการพิจารณามูลค่าความเสียหายที่เกิดจากผู้ประกอบการค้าข้าวซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติกันไว้เป็นพยาน ในคดีหมายเลขดำที่ อม.อธ. 3,4/2560 คดีหมายเลขแดงที่ อม.อธ. 2-3/2562 เป็นไปด้วยความถูกต้องเรียบร้อย ลดภาระงานที่ซ้ำซ้อน และเป็นไปตามความเห็นร่วมกันของผู้เสียหายทั้ง 5หน่วยงานดังกล่าว จึงแต่งตั้งคณะทำงาน โดยมีองค์ประกอบ หน้าที่และอำนาจ ดังนี้
1.องค์ประกอบ
(1) นางสาวชุณหจิต สังข์ใหม่ ประธานคณะทำงาน ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง (2) ผู้อำนวยการกลุ่มกฎหมาย คณะทำงานกระทรวงการคลัง (3) ผู้อำนวยการสำนักนิติการ คณะทำงานองค์การคลังสินค้า(4) หัวหน้ากองกฎหมาย คณะทำงานองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (5) ผู้อำนวยการกองกฎหมาย คณะทำงานกรมการค้าต่างประเทศ (6) เจ้าหน้าที่กลุ่มงานที่รับผิดชอบคดีเกี่ยวกับสินค้าข้าว เลขานุการกองกฎหมาย กรมการค้าต่างประเทศ
(7) เจ้าหน้าที่กองบริหารการค้าข้าว ผู้ช่วยเลขานุการกรมการค้าต่างประเทศ (8) เจ้าหน้าที่กลุ่มกฎหมาย ผู้ช่วยเลขานุการ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง (9) เจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลางที่ได้รับมอบหมาย ผู้ช่วยเลขานุการกรมบัญชีกลาง
2.หน้าที่และอำนาจ
(1) พิจารณามูลค่าความเสียหายที่เกิดจากผู้ประกอบการค้าข้าวแต่ละรายที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติกันไว้เป็นพยาน ในคดีหมายเลขดำที่ อม.อธ. 3,4/2560 คดีหมายเลขแดงที่ อม.อธ. 2-3/2562 โดยรวบรวมข้อมูล ข้อเท็จจริงและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้เป็นข้อมูล ข้อเท็จจริง หรือเอกสารหลักฐานประกอบการพิจารณาดำเนินคดีแพ่งเพื่อการเรียกค่าเสียหายจากผู้ประกอบการค้าข้าวแต่ละราย
(2) บูรณาการเพื่อปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปตาม ข้อ 2 (1)
(3) เชิญเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานผู้เสียหายตามคำพิพากษา ในคดีหมายเลขดำที่ อม.อธ. 3,4/2560 คดีหมายเลขแดงที่ อม.อธ. 2-3/2562 หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล ข้อเท็จจริงและข้อเสนอแนะ รวมถึงการจัดเตรียมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาประกอบการพิจารณา และการดำเนินการของคณะทำงาน
(4) จัดส่งมูลค่าความเสียหายที่ได้ตาม ข้อ 2 (1) ให้หน่วยงานซึ่งเป็นผู้เสียหายตามคำพิพากษา ในคดีหมายเลขดำที่ อม.อธ. 3,4/2560 คดีหมายเลขแดงที่ อม.อธ. 2-3/2562 ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
(5) ดำเนินการอื่น ๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ.2563
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า แม้ว่าก่อนหน้านี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้กันผู้ประกอบการค้าข้าวบางรายเป็นพยานในคดีทุจริตระบายข้าวจีทูจีก็จริง ซึ่งผู้ประกอบการเหล่านั้นก็ได้รับประโยชน์ในฐานะพยานไปแล้ว คือ ไม่ต้องถูกดำเนินคดีอาญา แต่ในขณะเดียวกัน พยานดังกล่าวถือว่าก็เป็นกลุ่มที่สร้างความเสียหายให้แก่รัฐเช่นกัน จึงต้องมีส่วนรับผิดชอบเกี่ยวกับความเสียหายทางแพ่งด้วย
“ถ้าไปดูอำนาจหน้าที่ตามข้อ 1 คณะทำงานมีหน้าที่พิจารณามูลค่าความเสียหายที่เกิดจากผู้ประกอบการค้าข้าวแต่ละราย ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติกันไว้เป็นพยานในคดีทุจริตขายข้าวจีทูจี โดยให้รวบรวมข้อมูล ข้อเท็จจริงและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้เป็นข้อมูล ข้อเท็จจริง หรือเอกสารหลักฐานต่างๆ เพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินคดีแพ่ง เพื่อการเรียกค่าเสียหายจากผู้ประกอบการค้าข้าวแต่ละรายต่อไป”แหล่งข่าวกล่าว
สำนักข่าวอิศรารายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 6 ก.ย.62 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาให้จำเลย 20 ราย ในคดีทุจริตโครงการระบายข้าวจีทูจี ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายในคดีนี้เป็นเงินกว่า 2 หมื่นล้านบาท
อ่านประกอบ :
ล้วงคำพิพากษาฉบับเต็ม! ชำแหละ ‘หมอโด่ง’คีย์แมนดีลขายข้าวคดีทูจีเก๊ก่อนโดนคุก 50 ปี
โชว์ยึดทรัพย์ทุจริตขายข้าวจีทูจี! ได้เงินสด 10 ล้าน-เรือ 1 ลำ-รถยนต์ 23 คัน-ปืน 18 กระบอก
ตามยึดทรัพย์ ‘ที่ดิน-บ้าน-รถ-ปืน’! 5 หน่วยงานตั้ง 'ทีมบังคับคดี' ทุจริตขายข้าวจีทูจี
เจาะ 5 เอกชนทุจริตข้าวจีทูจี ‘รายได้หด-ขาดทุนอื้อ’หาเงินจากไหนคืนรัฐ 2.9 หมื่นล.?
‘คต.’ ประสานอัยการฯขอศาลออก ‘หมายบังคับคดี’ ก่อนลุยสืบทรัพย์ทุจริตข้าวจีทูจี
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/