คุก 15 ปี ! อดีตศึกษานิเทศก์ 7 ศูนย์ท่องเที่ยวกีฬานครพนม เบิกจ่ายเงินไม่มีหลักฐาน

ป.ป.ช. เผยแพร่ผลคดีชี้มูลความผิด 'ตระกูล หรือบวรศิษฐ์ อานัดหรือชวรัตน์ศุภกุล' อดีตศึกษานิเทศก์ 7 ปฏิบัติหน้าที่ผอ.ศูนย์การท่องเที่ยวกีฬานันทนาการจว.นครพนม เบิกจ่ายเงินโดยไม่มีหลักฐานทำให้เงินขาดบัญชี ปี 46 - 47 ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 4 พิพากษาลงโทษจำคุก กระทงละ 5 ปี รวม 3 กระทง เป็น 15 ปี จำเลยไม่รู้สำนึกความผิดไม่พยายามบรรเทาผลร้าย เป็นเหตุไม่รอการลงโทษ พร้อมให้คืนเงิน 3.2 หมื่น

picpptc009 5 63

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา นายตระกูล หรือบวรศิษฐ์ อานัด หรือชวรัตน์ศุภกุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งศึกษานิเทศก์ 7 ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์การท่องเที่ยวกีฬาและนันทนาการจังหวัดนครพนม เบิกจ่ายเงินโดยไม่มีหลักฐานการจ่ายให้ตรวจสอบเป็นเหตุให้เงินขาดบัญชีงบประมาณ ปี 2546 - 2547

ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 และมาตรา 157 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2561 ที่ผ่านมา

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 มีคำพิพากษาว่า จำเลยมีความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรม เป็นกระทง ความผิด จำคุก กระทงละ 5 ปี รวม 3 กระทง เป็นจำคุก 15 ปี

จำเลยไม่รู้สำนึกความผิดและไม่พยายามบรรเทา ผลร้าย จึงไม่รอการลงโทษ กับให้จำเลยคืนเงิน 32,000 บาท

เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมลงมติเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2563 เห็นชอบในการที่อัยการสูงสุดไม่อุทธรณ์ คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4

สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท

มาตรา 157 ระบุ ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้

ถ้าหาก นายตระกูล หรือ บวรศิษฐ์ อานัด หรือชวรัตน์ศุภกุล รับทราบข่าวนี้ และประสงค์ที่จะชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติมสามารถติดต่อกลับมาที่สำนักข่าวอิศราได้ตลอดเวลา

pickdkdkdkdk1 6 63