เลขาฯ สมช.ย้ำรายละเอียดผ่อนปรน โควิด-19 ตั้งเเต่ 3 พ.ค. ตลาดน้ำ-ร้านเสริมสวย-ห้าง เปิดบริการได้ ให้รักษามาตรการ เว้นระยะห่าง มีเจลล้างมือ อนุญาต 'รำไทเก็ก' จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วม หากปชช.ร่วมมือ ผู้ป่วย-ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวส์ ลด เตรียมคลายล็อกระยะต่อไป
วันที่ 2 พ.ค. 2563 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงเเห่งชาติ (เลขาฯ สมช.) กล่าวอธิบายถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการเผยเเพร่ประกาศข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 5) เเละ (ฉบับที่ 6) เมื่อวานนี้ (1 พ.ค.) (อ่านประกอบ:เปิดขายเหล้าได้-ห้ามดื่มในร้าน! แพร่ประกาศ 4 ฉบับ กำหนดเกณฑ์คุม 8 กิจกรรมหลังคลายล็อกดาวน์) ว่ามาตรการผ่อนปรนในเเต่ละระยะ จะมีการประเมิน ทั้งนี้ ประการสำคัญ ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของประชาชน ซึ่งเป็นปัจจัยในการประเมินการปลดล็อก อย่างไรก็ตาม ในห้วงเเรก ตั้งเเต่วันที่ 3 พ.ค. เป็นต้นไป หรืออย่างน้อย 14 วัน มาตรการผ่อนปรนยังคงรักษามาตรการความปลอดภัยด้านสาธารณสุขเป็นหลัก
ยกตัวอย่าง มีการผ่อนปรนด้านเศรษฐกิจเเละการดำเนินชีวิต ให้เปิดร้านค้า ร้านอาหาร ในโรงเเรม สนามบิน โรงพยาบาล เปิดร้านสะดวกซื้อ รถเข็น หาบเร่ เเผงลอย เพื่อให้การดำรงชีวิตเป็นไปอย่างปกติสุข เเต่ต้องรักษาระยะห่าง ตรวจวัดอุณหภูมิ ทำความสะอาดพื้นผิวของสถานประกอบการ จัดให้มีเจลล้างมือ อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดเเละผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สามารถออกมาตรการที่เข้มข้นมากขึ้นได้
เลขาฯ สมช. กล่าวอีกว่า มาตรการยังอนุญาตให้เปิดห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตประจำวัน เช่น ขายอาหารในซุปเปอร์มาเก็ต ร้านขายโทรศัพท์มือถือ ร้านขายยา ที่ทำการของรัฐวิสาหกิจ ธนาคาร ส่วนร้านอาหารเปิดได้ เเต่ต้องซื้อกลับบ้านเท่านั้น เเละยังให้เปิดร้านค้าปลีกส่ง ตลาดน้ำ ตลาด ตลาดนัด เเต่ต้องมีมาตรการทำความสะอาดพื้นผิว การรักษาระยะห่าง การตรวจวัดอุณหภูมิ ก่อนเข้าออกสถานที่เช่นกัน
อีกทั้ง ผ่อนปรนให้เกิดร้านเสริมสวย เเต่ให้บริการได้เฉพาะการเเต่ง ตัด สระ ซอย เท่านั้น ส่วนโกรกสีผม หรือบริการที่ต้องใช้เวลานาน ยังไม่อนุญาต เพราะยิ่งอยู่นาน ยิ่งมีโอกาสรับเชื้อไวรัสฯ มากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ทั้งผู้รับเเละให้บริการ ต้องมีมาตรการสมควรต้องบังคับ เช่น ผู้ให้บริการต้องมีเจลล้างมือ ใส่หน้ากากอนามัย ทำความสะอาดพื้นผิว เเละผู้รับบริการ ต้องดูเเลตนเอง ใส่หน้ากากอนามัย เป็นต้น
พล.อ.สมศักดิ์ ยังกล่าวถึงมาตรการผ่อนปรนด้านออกกำลังกายหรือดูเเลสุขภาพ ว่าต้องดำเนินการ เนื่องจากร่างกายมนุษย์หรือประชาชนยังมีโรคภัยไข้เจ็บที่รุมเร้า เพราะฉะนั้นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งของทุกคน คือ รักษาสุขภาพของตนเองให้เเข็งเเรง เนื่องจากเป็นมาตรการเชิงป้องกันสำหรับทุกโรค จึงผ่อนคลายให้ออกกำลังกายในที่เเจ้งได้ เช่น เล่นเทนนิส ตีกอล์ฟ เนื่องจากมีอากาศถ่ายเท โอกาสติดเชื้อไวรัสฯ มีน้อย ในขณะที่การเล่นเเบดมินตันนั้น เล่นในพื้นที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก เเละยังอนุญาตให้เปิดสวนสาธารณะสำหรับวิ่ง เดิน ขี่จักรยาน
สำหรับกิจกรรมอื่น ๆ เช่น รำไทเก็ก สามารถทำได้ เเต่ต้องรักษาจำนวนผู้เข้าร่วมให้มีพอสมควร เเละรักษาระยะห่างระหว่างบุคคล เราไม่ได้ห้ามเคร่งครัด ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับท้องถิ่นจะกำหนดมาตรการเพิ่มเติมอย่างไร ส่วนสถานพยาบาล สถานทันตกรรม สถานพยาบาลต่าง ๆ เปิดได้ปกติ ไม่ได้ห้ามตั้งเเต่เเรก รวมถึงสถานให้บริการตัดขนสัตว์ สปา อาบน้ำ ตัดขน รับเลี้ยง รับฝากสัตว์ สามารถเปิดได้ด้วย
"สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นมาตรการผ่อนคลาย เเละยังคงห้ามออกนอกเคหสถานตั้งเเต่ 4 ทุ่ม-ตี 4 เเละการจำกัดเคลื่อนย้ายผู้คนข้ามจังหวัด อย่างไรก็ตาม ในระยะต่อไป หากประเมินว่าสถานการณ์เหล่านี้ดีขึ้น ได้รับความร่วมมือจากประชาชน สถิติผู้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวน้อยลง หรือมีสิ่งบ่งชี้ว่าสถานการณ์ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จะพิจารณาเปิดการผ่อนปรนระยะที่ 2, 3 เเละ 4 จนครบต่อไป ภายใต้พื้นฐานมาตรการทางสาธารณสุขเป็นหลัก" เลขาฯ สมช. ระบุ
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage