เปิดคำพิพากษาศาลฎีกาฯ ฟัน 14 นักการเมืองท้องถิ่นคดีบัญชีทรัพย์สิน 9 คน ยื่นเท็จฯ เงินฝาก รถยนต์ ที่ดิน รองนายก ท.นครสกลฯ เลขาฯนายก อบจ.ลำพูน นายก อบต.นาแก นครพนม รองฯ ท.เมืองเพชรบูรณ์ ขณะที่ อีก 5 ราย จงใจไม่ยื่น รองนายก อบต.ล้วนๆ พ้นตำแหน่งทันที 2 ราย
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 4 เม.ย.2562 , วันที่ 5 เม.ย.2562 ,วันที่ 18 เม.ย.2562 , วันที่ 24 เม.ย.2562 ,วันที่ 25 เม.ย.2562 , วันที่ 29 เม.ย.2562 ,วันที่ 14 พ.ค.2562 และ วันที่ 15 พ.ค.2562 ให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 14 ราย มีความผิดคดีจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการป้องกัและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ จำนวน 9 ราย และ คดีจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด จำนวน 5 ราย ส่วนใหญ่ เป็นรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) รองนายกเมศมนตรี นายกเศมนตรี เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ดังนี้
ยื่นบัญชีฯเท็จ 9 ราย
1.นายวิบูลย์ แต้ศิริเวชช์ รองนายกเทศมนตรีนครสกลนคร จ.สกลนคร ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีนครสกลนคร เมื่อวันที่ 9 ก.ค.2555 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 เม.ย.2558 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีเข้ารับตำแหน่งโดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหาได้แก่ เงินฝากธนาคาร 4 บัญชี รถยนต์ 3 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน ไม่แสดงรายการทรัพย์สินของนางกัลยารัตน์ แต้ศิริเวชช์ คู่สมรส ได้แก่ เงินฝากธนาคาร 6 บัญชี รถยนต์ 5 คัน กรณีพ้นจากตำแหน่งไม่แสดงรายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ เงินฝากธนาคาร 4 บัญชี รถยนต์ 3 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน ไม่แสดงรายการทรัพย์สินของคู่สมรส ได้แก่ เงินฝากธนาคาร 10 บัญชีรถยนต์ 5 คัน และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีไม่แสดงรายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหาได้แก่ เงินฝากธนาคาร 5 บัญชี รถยนต์ 3 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน ไม่แสดงรายการทรัพย์สินของคู่สมรส ได้แก่ เงินฝากธนาคาร 11 บัญชี รถยนต์ 5 คัน สำหรับกรณีเข้ารับตำแหน่งคดีขาดอายุความทางอาญาแล้ว
พิพากษาว่า นายวิบูลย์ แต้ศิริเวชช์ จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีเข้ารับตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีนครสกลนคร ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใด ในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 1 เม.ย.2558 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีพ้นจากตำแหน่ง จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนโทษจำ คุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.71/2562 วันที่ 4 เม.ย.2562)
2.นายธนภูมิ วงศ์สวัสดิ์ เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ลำพูน ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้ง ให้ดำรงตำแหน่งเลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ลำพูนเมื่อวันที่ 4 มี.ค.2553 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2555 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีเข้ารับตำแหน่งโดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ เงินฝากธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) 1 บัญชี ไม่แสดงรายการหนี้สินของ ผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ เงินเบิกเกินบัญชีจากบัตรเครดิตบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) 1 รายการ กรณีพ้นจากตำแหน่งไม่แสดงรายการทรัพย์สินของคู่สมรส ได้แก่ เงินลงทุนในหุ้นสหกรณ์ออมทรัพย์ ครูลำพูน จำกัด 1 รายการ ไม่แสดงรายการหนี้สินของคู่สมรส ได้แก่ เงินเบิกเกินบัญชีจากบัตรเครดิต บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) 1 รายการ เงินเบิกเกินบัญชีจากบัตรเครดิต First Choice บริษัท อยุธยา แคปปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด 1 รายการ และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีไม่แสดงรายการทรัพย์สินของคู่สมรส ได้แก่ เงินลงทุนในหุ้นสหกรณ์ออมทรัพย์ครูลำพูน จำกัด 1 รายการ ไม่แสดงรายการหนี้สินของคู่สมรส ได้แก่ เงินกู้จากธนาคารออมสิน 1 รายการ สำหรับกรณีเข้ารับตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งคดีขาดอายุความทางอาญาแล้ว
พิพากษาว่า นายธนภูมิ วงศ์สวัสดิ์ ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีเข้ารับตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่ง ในการดำรงตำแหน่งเลขานุการนายก อบจ.ลำพูน ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 29 มิ.ย.2555 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก. (คดีหมายเลขแดงที่ อม.84/2562 วันที่ 18 เม.ย.2562)
3.นายมาโนช โสมติด รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โมถ่าย อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้ง ให้ดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.โมถ่าย เมื่อวันที่ 15 ต.ค.2552 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 6 ก.ย.2556 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดง รายการทรัพย์สินฯกรณีพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 4 ต.ค.2556 โดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ เงินฝากธนาคาร 1 บัญชี เป็นเงิน 5,091.62 บาท ยานพาหนะ 5 รายการ ได้แก่ รถยนต์ 2 คัน และรถจักรยานยนต์ 3คัน รายการเงินกู้ จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่นเป็นเงิน 140,000 บาท รายการหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ เป็นเงิน 194,176.13 บาท และไม่แสดงรายการทรัพย์สินของคู่สมรส ได้แก่ เงินฝากธนาคาร 1 บัญชี เป็นเงิน 2,053.17 บาท เงินลงทุนเป็นเงิน 43,600 บาท รายการหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือเป็นเงิน 81,349 บาท และยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีเมื่อวันที่ 31 ต.ค.2557 โดยไม่แสดงรายการ ทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ เงินฝากธนาคาร 1 บัญชี เป็นเงิน 7,663.51 บาท ยานพาหนะ 5 รายการ ได้แก่ รถยนต์ 2 คัน และรถจักรยานยนต์ 3 คัน รายการเงินกู้จาก ธนาคารและสถาบันการเงินอื่นเป็นเงิน 270,000 บาท รายการหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ เป็นเงิน 68,236.13 บาท และไม่แสดงรายการทรัพย์สินของคู่สมรส ได้แก่ เงินฝากธนาคาร 1 บัญชี เป็นเงิน 2,066.46 เงินลงทุนเป็นเงิน 44,800 บาท รายการหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ เป็นเงิน 73,559 บาท
พิพากษาว่า นายมาโนช โสมติด ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ เท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายก อบต.โมถ่าย อำเภอไชยา ห้ามมิให้ผู้ถู กล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใด ในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 6 ก.ย.2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหา เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ข้อหา และคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก. (คดีหมายเลขแดงที่ อม.85/2562 วันที่ 18 เม.ย.2562)
4.นายประกอบ พึ่งพวก รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เด่นใหญ่ อ.หันคา จ.ชัยนาท ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 6 ก.ย.2556 ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายก อบต. เด่นใหญ่ ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ กรณีเข้ารับตำแหน่งรองนายก อบต.เด่นใหญ่ โดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินของ นางศิริ พึ่งพวก คู่สมรส ได้แก่ รถแทร็กเตอร์ยี่ห้อฟอร์ด หมายเลขทะเบียน ตค – 0042 ชัยนาท และไม่แสดงรายการทรัพย์สินของ นายโอกาส พึ่งพวก บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ได้แก่ ที่ดินโฉนด เลขที่ 9760 ต.เด่นใหญ่ เนื้อที่ 14 ไร่ 2 งาน 99 ตารางวา มูลค่า 560,405 บาท โดยผู้ร้องยื่นคำร้องคดีนี้เมื่อวันที่ 16 ส.ค.2561 ซึ่งผู้ถูกกล่าวหายังคงดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.เด่นใหญ่ ก่อนยื่นคำร้องคดีนี้ผู้ร้องเคยยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยลงโทษผู้ถูกกล่าวหาในความผิดฐานจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำ แหน่ง และกรณีพ้นจากตำ แหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งนายก อบต.เด่นใหญ่ และศาลนี้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 23 ส.ค.2561 เป็นคดีหมายเลขดำที่ อม. 45/2561 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 141/2561 พิพากษาว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จฯ กรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งนายก อบต.เด่นใหญ่ลงโทษจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 7 มิ.ย.2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งนายก อบต.เด่นใหญ่ และให้ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งรองนายก อบต.เด่นใหญ่นับแต่วันที่ 28 มิ.ย.2561 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่กรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี รวม 2กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 2 เดือนและปรับ 8,000 บาท รอการลงโทษ
พิพากษาว่า นายประกอบ พึ่งพวก ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีฯ เท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีเข้ารับตำแหน่งรองนายก อบต.เด่นใหญ่ ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 28 มิ.ย.2561 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่า ผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก. (คดีหมายเลขแดงที่ อม.86/2562 วันที่ 18 เม.ย.2562)
5.นายสุรชัช หรือวรวุฒิ มหาวงษ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) วังหมัน อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 14 ต.ค.2552 ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายก อบต. วังหมัน และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 พ.ค.2556 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ กรณีพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 28 พ.ค.2556 โดยไม่แสดงรายการเงินกู้จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาวัดสิงห์ เป็นเงิน 130,000 บาท และยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีเมื่อวันที่ 8 ก.ค.2557 โดยไม่แสดงรายการเงินกู้จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาวัดสิงห์ 3 บัญชี รวมเป็นเงิน 150,000 บาท และรายการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์จากบริษัท ซูซูกิ ลิสซิ่ง อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นเงิน 74,085 บาท สำหรับกรณียื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีพ้นจากตำแหน่ง ขาดอายุความทางอาญาแล้ว
พิพากษาว่า นายสุรชัช หรือวรวุฒิ มหาวงษ์ ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ เท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริง ที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายก อบต.วังหมัน ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 1 พ.ค.2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง ข้อหาและคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก. (คดีหมายเลขแดงที่ อม.111/2562 วันที่ 14 พ.ค.2562 )
6.นายประจักษ์ชัย เชื้อตาแสง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) นาแก อ.นาแก จ.นครพนม ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่ง นายก อบต.นาแก เมื่อวันที่ 6 ก.ย.2552 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 6 ก.ย.2556 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 30 ส.ค.2554 โดยไม่แสดงรายการที่ดิน 2 แปลง ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 17 ก.ย.2556 โดยไม่แสดงรายการเงินให้กู้ยืม จำนวน 3,172,357.68 บาท ที่ดิน 2 แปลง ซึ่งเป็นแปลงเดียวกันกับแปลงที่ไม่ยื่นกรณีเข้ารับตำแหน่ง พาหนะ 1 คัน และหนี้สิน จำนวน 377,280 บาท และยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้ว เป็นเวลาหนึ่งปีเมื่อวันที่ 18 ก.ย.2557 โดยไม่แสดงรายการเงินให้กู้ยืม จำนวน 2,925,163.85 บาท ที่ดิน 2 แปลง ซึ่งเป็นแปลงเดียวกันกับแปลงที่ไม่ยื่นกรณีเข้ารับตำแหน่งและพ้นจากตำแหน่ง พาหนะ 1 คัน ซึ่งเป็นรายการเดียวกันกับที่มิได้ยื่นกรณีพ้นจากตำแหน่งและหนี้สินมีหลักฐานเป็นหนังสือ จำนวน 270,232 บาทผู้ร้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงข้อเท็จจริงและเหตุผลของการไม่แสดงรายการทรัพย์สินดังกล่าวแล้ว ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงกรณีเงินให้กู้ยืมว่าผู้ถูกกล่าวมิได้มีตำแหน่งใด ๆ ในนิติบุคคลที่ให้กู้ยืม แต่คู่สมรสเป็นผู้กู้เงินจากธนาคารมาให้นิติบุคคลดังกล่าว กรณีที่ดินมีการแจ้งไว้แล้วตามสัญญากู้ยืมกับธนาคาร แต่มิได้แจกแจงรายละเอียดมายื่นโดยเฉพาะ สำหรับกรณีพาหนะและกรณีหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ผู้ถูกกล่าวหาแจ้งข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเมื่อล่วงเลยกำหนดเวลาให้ยื่นกรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจาก ตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีเป็นเวลานาน แสดงให้เห็นเจตนาอันไม่สุจริต
พิพากษาว่า นายประจักษ์ชัย เชื้อตาแสง ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริง ที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีเข้ารับตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งนายก อบต.นาแก ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ 6 ก.ย.2556 ซึ่งเป็นวันที่พ้นจากตำแหน่งนายก อบต.นาแก กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่ง จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ข้อหาและคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก. (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 98/2562 วันที่ 25 เม.ย.2562)
7.นายไพศาล กิตติธรสมบัติ รองนายกเทศมนตรีเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีเมืองเพชรบูรณ์ จ. เพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 2 เม.ย.2551 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 9 มี.ค.2555 ซึ่งเป็นวันถัดจากวันครบวาระการดำรงตำแหน่ง ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง กรณีเข้ารับตำแหน่งโดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ เงินฝากธนาคาร 10 บัญชี ไม่แสดงรายการหนี้สินของผู้ถูกกล่าวหได้แก่ เงินเบิกเกินบัญชีจากบัตรเครดิต 2 รายการ ไม่แสดงรายการทรัพย์สินของ นางกิตติยา กิตติธรสมบัติคู่สมรส ได้แก่ เงินฝากธนาคาร 4 บัญชี กรณีพ้นจากตำแหน่งไม่แสดงรายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหาได้แก่ เงินฝากธนาคาร 2 บัญชี เงินลงทุนในห้างหุ้นส่วนจำกัด 1 รายการ ไม่แสดงรายการหนี้สินของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ เงินเบิกเกินบัญชีจากบัตรเครดิต 2 รายการ ไม่แสดงรายการทรัพย์สินของคู่สมรสได้แก่ เงินฝากธนาคาร 12 บัญชี สลากออมทรัพย์ 1 รายการ เงินลงทุนในห้างหุ้นส่วนจำกัด 1 รายการ รถจักรยานยนต์ 1 คัน ไม่แสดงรายการหนี้สินของคู่สมรส ได้แก่ เงินเบิกเกินบัญชีจากบัตรเครดิต 1 รายการ ไม่แสดงรายการทรัพย์สินของ นางสาวณิชกมล กิตติธรสมบัติ และ นายชวิศ กิตติธรสมบัติบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ได้แก่ สลากออมทรัพย์ รวม 6 รายการ เงินลงทุนในห้างหุ้นส่วนจำกัดรวม 2 รายการ
และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ไม่แสดงรายการทรัพย์สิน ของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ เงินฝากธนาคาร 3 บัญชี เงินลงทุนในห้างหุ้นส่วนจำกัด 1 รายการไม่แสดงรายการหนี้สินของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ เงินเบิกเกินบัญชีจากบัตรเครดิต 2 รายการ ไม่แสดงรายการทรัพย์สินของคสู่ มรส ได้แก่ เงินฝากธนาคาร 11 บัญชี สลากออมทรัพย์ 2 รายการ เงินลงทุนในห้างหุ้นส่วน 1 รายการ รถจักรยานยนต์ 1 คัน ไม่แสดงรายการหนี้สินของคู่สมรส ได้แก่ เงินเบิกเกินบัญชีจากบัตรเครดิต 1 รายการ ไม่แสดงรายการทรัพย์สินของบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 2 คน ได้แก่ เงินฝากธนาคาร 3 บัญชี สลากออมทรัพย์ 4 บัญชี เงินลงทุน ในห้างห้นุ ส่วน รวม 2 รายการ สำหรับกรณีเข้า รับตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำ แหน่งคดี ขาดอายุความทางอาญาแล้ว
พิพากษาว่า นายไพศาล กิตติธรสมบัติ ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ
กรณีเข้ารับตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีเมืองเพชรบูรณ์ ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใด ในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 9 มี.ค.2555 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก. (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 99/2562 วันที่ 29 เม.ย.2562)
8.นายกมล เรือนแก้ว รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แม่แวน อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.แม่แวน เมื่อวันที่ 22 ต.ค.2552 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 5 ก.ย.2556 ต่อมาผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายก อบต.แม่แวน เมื่อวันที่ 13 ต.ค.2556 และดำรงตำแหน่งอยู่จนถึงปัจจุบัน โดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่นับแต่วันที่ 14 ธ.ค.2561 ซึ่งเป็นวันที่ศาลมีคำสั่งให้รับคำร้องไว้พิจารณา ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบ ต่อผู้ร้องกรณีเข้ารับตำแหน่งรองนายก อบต.แม่แวน เมื่อวันที่ 27 ส.ค.2554 โดยไม่แสดงรายการเงินฝากธนาคาร จำนวน 8 บัญชี เป็นเงิน 84,476.64 บาท เงินลงทุน จำนวน 1 แห่ง 2,000 บาท และที่ดิน 1 แปลง มูลค่า 1,277,750 บาท
ยื่นบัญชีฯ กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายก อบต.แม่แวน เมื่อวันที่ 5 ต.ค.2556 โดยไม่แสดงรายการเงินฝากธนาคาร จำนวน 9 บัญชี เป็นเงิน 263,794.22 บาท รายการเงินลงทุน จำนวน 2 แห่ง มูลค่า 592,870 บาท ที่ดิน 7 แปลง มูลค่า 5,825,948 บาท และยานพาหนะ จำนวน 1 คัน มูลค่า 39,000 บาท
ยื่นบัญชีฯ กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายก อบต. แม่แวนมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี เมื่อวันที่ 12 พ.ย.2557 โดยไม่แสดงรายการเงินฝากธนาคาร จำนวน 21 บัญชี เป็นเงิน 9,113,614.23 บาท เงินลงทุนจำนวน 2 แห่ง มูลค่า 629,740 บาท ที่ดิน 8 แปลง มูลค่า 8,401,600 บาท และยานพาหนะจำนวน 4 คัน มูลค่า 774,000 บาท
ผู้ร้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงข้อเท็จจริงและเหตุผลของการไม่แสดงรายการทรัพย์สินดังกล่าว ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงทำนองว่าได้รับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินมาในขณะดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.แม่แวน ต่อมาเมื่อพ้นจากตำแหน่งต้องเตรียมตัวลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบต.แม่แวน จึงทำให้เกิดความผิดพลาดในการชี้แจง ประกอบกับไม่ได้ตรวจสอบรายการทรัพย์สินให้ละเอียดทำให้ไม่ได้ยื่นรายการทรัพย์สินบางรายการ
พิพากษาว่า นายกมล เรือนแก้ว ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีฯ เท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีเข้ารับตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายก อบต.แม่แวน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ให้ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งนายก อบต. แม่แวนที่ดำรงอยู่ตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค.2561 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 17 วรรคสอง และห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใด ในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 5 ก.ย.2556 ซึ่งเป็นวันที่พ้นจากตำแหน่งรองนายก อบต. แม่แวน กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่ง จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ข้อหาและคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก. (คดีหมายเลขแดงที่ 93/2562 วันที่ 24 เม.ย.2562)
9.นายพินิจ เจริญสุข นายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้ง ให้ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร เมื่อวันที่ 28 ส.ค.2554 โดยแถลงนโยบายเพื่อเข้ารับหน้าที่เมื่อวันที่ 3 ต.ค.2554 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 16 ส.ค.2556 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี โดยไม่แสดงรายการทรัพย์สิน ของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ ที่ดิน 1 แปลง เนื้อที่ 32 ตารางวา พร้อมทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น มูลค่าที่ดินรวมทาวน์เฮ้าส์เป็นเงิน 3,200,000 บาท
พิพากษาว่า นายพินิจ เจริญสุข ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีพ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 16 ส.ค.2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นบัญชี แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิด ข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีพ้นจากตำแหน่ง จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหา เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก. (คดีหมายเลขแดงที่ 95/2562 วันที่ 25 เม.ย.2562)
จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน 5 ราย
1.นายบุญทัน ยะราไสย์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สะอาด อ.โพธิ์ชัย จ.ร้อยเอ็ด จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายก อบต.สะอาด ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใด ในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 13 ธ.ค.2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดกรณีพ้นจากตำแหน่ง จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนโทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.75/2562 วันที่ 5 เม.ย.2562)
2.นายมนัส ยิ่งยง รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) วังคีรี อ.ห้วยยอด จ.ตรัง จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีเข้ารับตำแหน่งรองนายก อบต.วังคีรี ให้ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งรองนายกองค์การบริหาร ส่วนตำบลวังคีรีที่ดำรงอยู่ในปัจจุบันนับแต่วันที่ 4 มี.ค.2562 ซึ่งเป็นวันที่ศาลมีคำสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่ และห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำ แหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 15 พ.ค.2562 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.113/2562 วันที่ 15 พ.ค.2562 )
3.นายศิรินารายษณ์ บุญห่อ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โพนเขวา อ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด กรณีเข้ารับตำแหน่งและกรณีพ้นจาก ตำแหน่งรองนายก อบต.โพนเขวา ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 12 ก.พ.2558 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดกรณีพ้นจากตำแหน่งจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษ 1 ปี ข้อหาและคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก. (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 96/2562 วันที่ 25 เม.ย.2562)
4.นางรุ้งตะวัน คล้ายเกตุ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ไทรเดี่ยว อ.คลองหาด จ.สระแก้ว จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายก อบต.ไทรเดี่ยว ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 6 ก.ย.2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ข้อหาและคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก. (คดีหมายเลขแดงที่ 92/2562 วันที่ 24 เม.ย.2562)
5. น.ส.สมหมาย นาคสมพันธ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ดอนโพธิ์ทอง อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ กรณีเข้ารับตำแหน่งรองนายก อบต. ดอนโพธิ์ทอง อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี ให้ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง รองนายก อบต.ดอนโพธิ์ทอง ที่ดำรงอยู่ในปัจจุบัน นับแต่วันที่ 22 ม.ค.2562 ซึ่งเป็นวันที่ศาลมีคำสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่ และห้ามมิให้ ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 24 เม.ย.2562 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคหนึ่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหา เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก. (คดีหมายเลขแดงที่ 94/2562 วันที่ 24 เม.ย.2562)
อ่านประกอบ:
‘พลภูมิ’รอด!ศาลฎีกาฯยกคำร้องคดีทรัพย์สิน ชี้ ป.ป.ช.ส่งตัวไม่ทันใน 5 ปี-ขาดอายุความ
รับสารภาพ ยื่นบัญชีฯเท็จ! ศาลฎีกาฯ นัดฟังคำพิพากษา ‘ฉลอง เรี่ยวแรง' 17 ก.ย.นี้
‘นิชนันท์’แจงคดีทรัพย์สินถูกศาลฎีกาฯปรับ 4,000 บ.รอลงอาญา 2 ปี-ปัดถูกตัดสิทธิ์การเมือง
ป.ป.ช.ส่งศาลฎีกาฯ เลขาฯ รมช.คลังยุค‘เบญจา’ ยื่นบัญชีฯเท็จ
ศาลฎีกาฯยกคำร้อง รองนายกเทศฯเมืองยโสธร ไม่แจ้งหนี้บัตรเครดิตเมีย 4 ใบ
รอลงโทษจำคุก 1 ปี! ศาลฎีกาฯให้ ส.อบจ. สตูล พ้นทันที ยื่นบัญชีฯเท็จ 3 ครั้ง
ศาลฎีกาฯฟัน ส.อบจ.เชียงใหม่ -เลขาฯนายก ชัยนาท ซุกทรัพย์สินอื้อ ให้พ้นทันที
ศาลฎีกาฯฟันอีก 5 นักการเมืองท้องถิ่นคดีบัญชีฯ-ให้นายกอบต.ไกรใน สุโขทัย พ้นทันที
13 นักการเมืองท้องถิ่นรอด! ศาลยกคำร้อง คดีบัญชีทรัพย์สิน เหตุยื่นฟ้องหลัง กม.ใหม่
รับสารภาพ!คุก1 เดือน รอลงโทษ1 ปี 'ชญาดา'เมีย 'พลภูมิ'ส.ส.เพื่อไทย ยื่นบัญชีฯเท็จ
เงินลงทุน 2 แห่ง 2.3 ล. นายก อบต.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี-เมีย คดียื่นเท็จ ป.ป.ช.
เจาะไส้ใน 10 นักการเมืองท้องถิ่นซุกทรัพย์สินอย่างไร? ก่อนศาลฎีกาฯฟันยื่นบัญชีฯเท็จ
ศาลฎีกาฯฟัน 10 นักการเมืองท้องถิ่น ยื่นบัญชีฯเท็จ-ให้พ้นตำแหน่งทันที 6 คน
สรรพากรสอบภาษี ห้างรับเหมา นายกเทศฯพรหมบุรี จ.สิงห์บุรี- คู่สัญญารัฐ 26 ล้าน
ดูชัดๆ นายกเทศมนตรีพรหมบุรี จ.สิงห์บุรี-เมีย โยกหุ้น 2 บ.12 ล้าน - ไม่แจ้ง ป.ป.ช.
โผล่อีกบริษัท! นายกเทศมนตรี ต.พรหมบุรี สิงห์บุรี ถือหุ้น 9.8 ล. ไม่แจ้ง ป.ป.ช.
นายกเทศมนตรีพรหมบุรี ถือหุ้น หจก. 2 ล.ไม่แจ้ง ป.ป.ช.- อ้าง จนท.ขอดูแค่ทรัพย์สินบุคคล
นายกเทศมนตรีพรหมบุรี สิงห์บุรี คดียื่นบัญชีฯเท็จ มีทรัพยสิน 172 ล.- รายได้ 427.2 ล.
ศาลฎีกาฯฟันนายกเทศมนตรีพรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ซุก ป.ป.ช. เงินฝาก 10 ล. ที่ดิน 3 แปลง
4 คดีทรัพย์สินนักการเมืองท้องถิ่น ศาลฎีกายกคำร้อง เหตุ ป.ป.ช.ยื่นหลัง กม.ใหม่บังคับ
สรุปคำพิพากษาฟัน 4 นักการเมืองท้องถิ่น จ.ปัตตานี สกลนคร กาญจนบุรี ตาก ไม่ยื่นบัญชีฯ
พฤติกรรม ส.อบจ.ลำปาง ซุกเงินฝาก เงินกู้ยืม ป.ป.ช.-ศาลจำคุก 1 เดือน รอลงโทษ 1 ปี
ศาลฎีกาฯสั่งจำคุก 2 เดือน ไม่รอลงโทษ นักการเมืองท้องถิ่น จ.อุตรดิตถ์ ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
ศาลฎีกาฯคุก 1 เดือน รอลงโทษ 1 ปี 2 นักการเมืองท้องถิ่น จ.สุราษฎร์ฯ-ร้อยเอ็ดไม่ยื่นบัญชีฯ
ศาลฎีกาฯสั่งคุก 1 เดือน-รอลงโทษ 1 ปี รองฯเทศมนตรี จ.นครสวรรค์ ซุกหุ้น-เงินฝาก 13 บัญชี
ศาลฎีกาฯยกคำร้อง 2 นักการเมืองท้องถิ่น จ.ลำพูน-นราฯ ซุกบัญชีฯ เหตุ ป.ป.ช.ยื่นหลัง กม.บังคับ
ดูชัดๆ อดีตปธ.สภา อบจ.สมุทรสาคร ซุกหุ้น 2 บ. ศาลฎีกาฯฟันยื่นบัญชีฯเท็จ
อย่าลืมฉัน! สมบัติ-นพ.วีระวุฒิ-เมียอริสมันต์ มีคดีรวยผิดปกติในศาลฎีกาฯปี 62
รายชื่อ 190 คนไม่ยื่นบัญชีฯ-ซุกทรัพย์สินรอบปี 61 - รองนายก อบต.อื้อ 93 ราย
เผยปี 2561 คดีไม่ยื่นบัญชีฯ-ซุกทรัพย์สิน ทะลัก 190 คน ‘ธาริต-พงศ์พัฒน์-ชูวิทย์’ติดกลุ่ม