ศาลฎีกาฯยกคำร้อง รองนายกเทศฯเมืองยโสธร ไม่แจ้งหนี้บัตรเครดิตเมีย 4 ใบ

ศาลฎีกาฯยกคำร้อง ป.ป.ช. รองนายกเทศมนตรีเมืองยโสธร ไม่แจ้งหนี้บัตรเครดิตเมีย 4 ใบ 23,421.48 - 6,569.82 - 3,073.26 บาท ชี้ใช้จ่ายหมุนเวียนเป็นครั้งคราวในระยะสั้น ยอดเล็กน้อยมากเมื่อเทียบทรัพย์สินรวม ไม่จงใจยื่นบัญชีฯเท็จ แม้รับสารภาพ พบเกิดขึ้นไม่บ่อยรอดข้อกล่าวหา

yaso

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ศาลฎีกกแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษา วันที่ 5 มิ.ย.2562 ยกคำร้อง คดีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยว่า นายศักดิ์ชาย เชื้อศุภโรบล รองนายกเทศมนตรีเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร จงใจยื่นบัญชี แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิด ข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีในการดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีเมืองยโสธร ให้ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีเมืองยโสธร ครั้งที่ 2 ที่ดำรงอยู่ปัจจุบัน และห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี กับลงโทษฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นบัญชีฯเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริง ที่ควรแจ้งให้ทราบ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 110 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91

คำพิพากษาระบุว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้ง ให้ดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีเมืองยโสธร ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 28 พ.ค.2555 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.2557 ต่อมาผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีเมืองยโสธร ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2560 และยังดำรงตำแหน่งจนถึงปัจจุบัน

ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งให้ ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่นับแต่วันที่ 18 ธ.ค.2561 ซึ่งเป็นวันที่ศาลมีคำสั่งให้รับคำร้อง ไว้พิจารณา

ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง กรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีเมืองยโสธร ครั้งที่ 1 โดยทั้งสามกรณีไม่แสดงรายการบัตรเครดิต เงินเบิกเกินบัญชีธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ของ นางจตุพร เชื้อศุภโรบล หรือแซ่เซีย คู่สมรส จำนวน 4 บัตร ยอดหนี้คงเหลือรวมทั้ง 4 บัตร ณ วันที่มีหน้าที่ยื่นบัญชีกรณีเข้ารับ ตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี จำนวน 23,421.48 บาท ,จำนวน 6,569.82 บาท และจำนวน 3,077.26 บาท ตามลำดับ สำหรับกรณีเข้ารับตำแหน่งคดีขาดอายุความทางอาญาแล้ว

ศาลฎีกาฯวินิจฉัยว่าผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง กรณีเข้ารับตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่ง รองนายกเทศมนตรีเมืองยโสธร ครั้งที่ 1 โดยไม่แสดงรายการบัตรเครดิตเงินเบิกเกินบัญชี จำนวน 4 บัตรของคู่สมรสที่มียอดหนี้คงเหลือรวมทั้ง 4 บัตร ณ วันที่มีหน้าที่ยื่นบัญชีในกรณีเข้ารับตำแหน่ง จำนวน 23,421.48 บาท และกรณีพ้นจากตำแหน่ง จำนวน 6,569.82 บาท โดยผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงต่อผู้ร้องทำนองว่า การใช้บัตรเครดิตของคู่สมรสมียอดหนี้ค้างชำระเล็กน้อย ซึ่งบัญชีดังกล่าวไม่มีการเคลื่อนไหวบ่อย ผู้ถูกกล่าวหาไม่มีเจตนาปกปิดหรือไม่แจ้งข้อเท็จจริงต่อผู้ร้อง

เห็นว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราบการทุจริต พ.ศ. 2542 มีเจตนารมณ์ให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแสดงบัญชี แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินเพื่อป้องกันปราบปรามการทุจริตและตรวจสอบถึงความสุจริตในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาก็ได้ยื่นบัญชีแสดง
รายการทรัพย์สินและหนี้สิน เมื่อเปรียบเทียบจำนวนหนี้สินของบัตรเครดิตที่ผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้แสดงในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กับ จำนวนทรัพย์สินและหนี้สินที่ผู้ถูกกล่าวหาแสดงในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินแล้ว ถือว่ารายการที่ไม่ได้แสดงเป็นเงินจำนวนเล็กน้อยมาก ทั้งเป็นหนี้สินของคู่สมรสมิใช่ของผู้ถูกกล่าวหาเอง และเป็นหนี้เกิดจากการใช้จ่ายหมุนเวียนที่มีการเรียกเก็บและหักทอนบัญชีหรือชำระเป็นครั้งคราวในระยะสั้น พฤติการณ์ของผู้ถูกกล่าวหาดังกล่าวจึงเชื่อว่า ผู้ถูกกล่าวหาไม่จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีเข้ารับตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีเมืองยโสธรครั้งที่ 1 การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาจึงไม่เป็นความผิด แม้ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพก็ไม่อาจลงโทษได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185 ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 8 วรรคสาม เมื่อการกระทำของผู้ถูกกล่าวหาไม่เป็นความผิดแล้ว จึงไม่อาจใช้มาตรการบังคับทางการเมืองแก่ผู้ถูกกล่าวหาได้

พิพากษายกคำร้อง. (คดีหมายเลขแดงที่ อม.151/2562 วันที่ 5 มิ.ย.2562)

(อ่านคำพิพากษาhttp://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/A/095/T_0012.PDF)

สำนักข่าวอิศรารายงานว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีเพียง 1-2 คดีความผิดการยื่นบัญชีทรัพย์สินที่ศาลฎีกาฯพิพากษายกคำร้อง หนึ่งในนั้นคือคดี นายยุรนันท์ ภมรมนตรี อดีต ส.ส. พรรคเพื่อไทย ไม่แจ้งข้อมูลการถือครองหุ้น มูลค่า 14 ล้านบาท และไม่ได้ยื่นข้อมูลการถือครองหุ้นในสหกรณ์การบินไทย ของภรรยาอีกจำนวน 3 ล้านบาท ศาลฎีกาฯยกคำร้อง (อ่านประกอบ:"แซม-ยุรนันท์"รอด! ศาลฏีกาฯพิพากษายกคำร้องคดีปกปิดทรัพย์สิน)

knl