
ไส้ในบิ๊กลอตโคราช! ป.ป.ช.ชี้มูล 'สำรวย พยอมใหม่' อดีตนายกเทศฯ บ้านใหม่ - พวก ทุจริตจัดซื้อจ้างวิธีพิเศษ 7 โครงการ เอื้อเอกชนกลุ่มเดียวกัน - ส่งสำนวน อสส. ฟ้องร้องดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายแล้ว หลังก่อนหน้านี้โดนโทษคุก 6 เดือน คดีออกคำสั่งให้พนง.ศึกษาดูงานมิชอบไปแล้ว แต่ได้รอลงอาญา 5 ปี
จากกรณีเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2568 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดนครราชสีมา แถลงผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยเผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดคดีทุจริตของอดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) อดีตนายกเทศมนตรีตำบล ข้าราชการ ในจังหวัดนครราชสีมา จำนวนหลายคดี

ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบยืนยันข้อมูลพบว่า มติคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดคดีทุจริตของอดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) อดีตนายกเทศมนตรีตำบล ข้าราชการ ในจังหวัดนครราชสีมา ดังกล่าว
มีกรณีกล่าวหา นางสำรวย พยอมใหม่ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลบ้านใหม่ อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา กับพวก ทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 จำนวน 7 โครงการ รวมอยู่ด้วย
โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาสำนวนไต่สวนคดีแล้ว เห็นว่าการกระทำของ นางสำรวย พยอมใหม่ และพวก มีความผิดทางอาญา ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัย ไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีต่อไป
ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนปรากฏว่า นางสำรวย พะยอมใหม่ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลบ้านใหม่ และนายสุนทร แพงไพรี หรือสุวรรณชาติ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกเทศมนตรีตำบลบ้านใหม่ร่วมกันสั่งการให้เจ้าหน้าที่พัสดุดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ จำนวน 7 โครงการ โดยไม่มีเหตุผลและความจำเป็น ซึ่งเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลบ้านใหม่ที่เกี่ยวข้องต่างยืนยันว่า เป็นความประสงค์และสั่งการจากผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 และผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 อันมีความมุ่งหมายไม่ให้มีการส่งประกาศเชิญชวนให้แก่ผู้มีอาชีพรับจ้างเป็นการทั่วไปตามวิธีการจัดซื้อจัดจ้างแบบปกติ (วิธีการประกวดราคาหรือวิธีการสอบราคา)
โดยมีวัตถุประสงค์ไม่ให้ผู้มีอาชีพรับจ้างรายอื่นรับรู้การจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าว และปรากฏว่ามีผู้รับจ้างเข้ามาติดต่อขอรับเอกสารการเสนอราคาโดยวิธีพิเศษ และเข้ายื่นเอกสารหลักฐานต่าง ๆ พร้อมเสนอราคา โดยเจ้าหน้าที่พัสดุยังไม่ได้มีการติดต่อไปยังกลุ่มผู้รับจ้างดังกล่าวแต่อย่างใด โดยกลุ่มผู้รับจ้างดังกล่าวซึ่งเข้าเสนอราคาในโครงการต่าง ๆ คือ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 – 11 เป็นกลุ่มเดียวกัน
โดยตลอดทั้ง 7 โครงการ ซึ่งมีความเชื่อมโยงการเป็นเจ้าของกิจการที่แท้จริง และการมีส่วนได้ส่วนเสียของผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกเทศมนตรีตำบลบ้านใหม่ โดยห้างหุ้นส่วนจำกัด โคราชอาสา คอนสรัคชั่น ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 ซึ่งเข้าเป็นคู่สัญญากับเทศบาลตำบลบ้านใหม่ จำนวน 2 โครงการ มีนางสาวสันต์ฤทัย ธารีย์วราศัย ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการและยังเป็นภรรยาของผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 และห้างหุ้นส่วนจำกัด รักษ์มิตร คอนสตรัคชั่น ผู้ถูกกล่าวหาที่ 6 ซึ่งเข้าเป็นคู่สัญญากับเทศบาลตำบลบ้านใหม่ จำนวน 5 โครงการ มีนายนิทัศน์ อินทรประดิษฐ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 7 เป็นพรรคพวกของผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 อีกทั้งในภายหลังมีบุคคลต่าง ๆ ที่เข้ามาเป็นหุ้นส่วนและหุ้นส่วนผู้จัดการในห้างทั้งสองเป็นเพียงตัวแทนเชิดและเป็นลูกจ้างของผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 เท่านั้น จึงเป็นกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลบ้านใหม่ สั่งการให้เจ้าหน้าที่พัสดุดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีพิเศษและไม่มีเหตุผลความจำเป็นถือเป็นการกระทำการโดยวิธีอื่นใดเป็นเหตุให้ผู้อื่นไม่มีโอกาสเข้าทำการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม และตกลงร่วมกันกับผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 – 11 ในการเสนอราคาเพื่อวัตถุประสงค์ที่จะให้ประโยชน์แก่ห้างหุ้นส่วนจำกัด โคราชอาสา คอนสตรัคชั่น ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 และห้างหุ้นส่วนจำกัด รักษ์มิตร คอนสตรัคชั่น ผู้ถูกกล่าวหาที่ 6 ให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่พรรคพวกของตนให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ เป็นเหตุให้เทศบาลตำบลบ้านใหม่ได้รับความเสียหาย
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว มีมติดังนี้
1. การกระทำของนางสำรวย พยอมใหม่ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ฐานตกลงร่วมกันในการเสนอราคา เพื่อวัตถุประสงค์ที่จะให้ประโยชน์แก่ผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ โดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม หรือโดยการกีดกันมิให้มีการเสนอสินค้าหรือบริการอื่นต่อหน่วยงานของรัฐ หรือโดยการเอาเปรียบแก่หน่วยงานของรัฐอันมิใช่เป็นไปในทางการประกอบธุรกิจปกติฐานใช้อุบายหลอกลวงหรือกระทำการโดยวิธีอื่นใดเป็นเหตุให้ผู้อื่นไม่มีโอกาสเข้าทำการเสนอราคาอย่างเป็นธรรมหรือให้มีการเสนอราคาโดยหลงผิดและฐานเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐ กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือกระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 4 มาตรา 7 และมาตรา 12 และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) และมีมูลความผิด ฐานปฏิบัติการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน และละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่หรือมีความประพฤติในทางจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ตำแหน่งหรือแก่เทศบาลหรือแก่ราชการ ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 73
2. การกระทำของนายสุนทร แพงไพรี หรือสุวรรณชาติ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น และฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 ฐานตกลงร่วมกันในการเสนอราคา เพื่อวัตถุประสงค์ที่จะให้ประโยชน์แก่ผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ โดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม หรือโดยการกีดกันมิให้มีการเสนอสินค้าหรือบริการอื่นต่อหน่วยงานของรัฐ หรือโดยการเอาเปรียบแก่หน่วยงานของรัฐอันมิใช่เป็นไปในทางการประกอบธุรกิจปกติ และฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือกระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 4 และมาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และมีมูลความผิด ฐานปฏิบัติการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน และละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่หรือมีความประพฤติในทางจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ตำแหน่งหรือแก่เทศบาลหรือแก่ราชการตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 73
3. การกระทำของนางสาวสันต์ฤทัย ธารีย์วราศัย ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 นางกตภร กองไชยกุล หรือนางปัณณภัสร์ อิทธิพชญาภัสร์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5 นายนิทัศน์ อินทรประดิษฐ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 7 นายเมธาสิทธิ์ กาจกลาง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 8 นายนิลวัฒ แจ้งเขว้า ผู้ถูกกล่าวหาที่ 9 นายพงศ์สุภัสสร์ ล้ำเลิศกิ่ง หรือนายโทน ผู้ถูกกล่าวหาที่ 10 นายวชิรพงศ์ กองทุ่งมน หรือนายอู๊ด ผู้ถูกกล่าวหาที่ 11 มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น และฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 ฐานตกลงร่วมกันในการเสนอราคา เพื่อวัตถุประสงค์ที่จะให้ประโยชน์แก่ผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ โดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม หรือโดยการกีดกันมิให้มีการเสนอสินค้าหรือบริการอื่นต่อหน่วยงานของรัฐ หรือโดยการเอาเปรียบแก่หน่วยงานของรัฐอันมิใช่เป็นไปในทางการประกอบธุรกิจปกติ และฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือกระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมเพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 4 และมาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
4. สำหรับห้างหุ้นส่วนจำกัด โคราชอาสา คอนสตรัคชั่น ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 และห้างหุ้นส่วนจำกัด รักษ์มิตร คอนสตรัคชั่น ผู้ถูกกล่าวหาที่ 6 จากการไต่สวนเบื้องต้น ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ได้เลิกนิติบุคคลและทำการชำระบัญชีเสร็จสิ้นแล้ว ไม่มีสถานะเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไม่มีอำนาจดำเนินการไต่สวนเบื้องต้นต่อไปได้ จึงให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบ
โดยให้กันนางสาวณภัทร พลดงนอก ผู้ถูกกล่าวหาที่ 12 ไว้เป็นพยานโดยไม่ดำเนินคดี ตามประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขในการกันบุคคลไว้เป็นพยานโดยไม่ดำเนินคดี พ.ศ. 2561
ทั้งนี้ ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีกับ นางสำรวย พยอมใหม่ นายสุนทร แพงไพรี หรือสุวรรณชาติ นางสาวสันต์ฤทัย ธารีย์วราศัย นางกตภร กองไชยกุล หรือนางปัณณภัสร์ อิทธิพชญาภัสร์ นายนิทัศน์ อินทรประดิษฐ นายเมธาสิทธิ์ กาจกลาง นายนิลวัฒ แจ้งเขว้า นายพงศ์สุภัสสร์ ล้ำเลิศกิ่ง หรือนายโทน และนายวชิรพงศ์ กองทุ่งมน หรือนายอู๊ด และส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการทางวินัยกับ นางสำรวย พยอมใหม่ และนายสุนทร แพงไพรี หรือสุวรรณชาติ ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 91 (1) และ (2) และมาตรา 98 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 98 วรรคสี่ แล้วแต่กรณีต่อไป และให้แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ทราบด้วย
ทั้งนี้ ให้แจ้งเทศบาลตำบลบ้านใหม่ ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจเพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหายต่อไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 82 วรรคสอง รวมทั้งให้แจ้งข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับการกระทำของ นางสาวสันต์ฤทัย ธารีย์วราศัย ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 นางกตภร กองไชยกุล หรือนางปัณณภัสร์ อิทธิพชญาภัสร์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5 นายนิทัศน์ อินทรประดิษฐ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 7 ไปยังกรมบัญชีกลาง เพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจให้เป็นผู้มีลักษณะเป็นผู้ทิ้งงาน ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
อย่างไรก็ดี การชี้มูลของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
ขณะที่ก่อนหน้านี้ ในช่วงเดือน ธ.ค.2566 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 มีคำพิพากษาตัดสินลงโทษจำคุก 6 เดือน และปรับ 20,000 บาท นางสำรวย พยอมใหม่ ในคดีออกคำสั่งให้พนักงานเทศบาลฯ ไปศึกษาดูงานด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ณ เทศบาลตำบลท่าช้าง อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายกโดยมิชอบ ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และ พ.ร.บ.ป.ป.ช. พ.ศ.2542 มาตรา 7 และ 12 เบื้องต้น จำเลย ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดี ลดโทษเหลือ จำคุก 6 เดือน และปรับ 20,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 5 ปี คุมความประพฤติจำเลยไว้มีกำหนด 3 ปี รายงานตัวทุก 3 เดือน ทำงานบริการสังคม 72 ชั่วโมง ละเว้นการกระทำความผิดในทำนองเดียวกัน ผิดเงื่อนให้รายงานศาลเปลี่ยนโทษจำคุกที่รอไว้เป็นจำโทษทันที

อ่านประกอบ :
- ป.ป.ช.ชี้มูล อดีตนายก อบต.ตะขบ-พวก เชิดคนใกล้ชิดคู่สัญญาจัดแข่งโมโตครอส
- คดีที่ 2! ป.ป.ช.ชี้มูลทุจริตคืนเงินเบี้ยยังชีพ อบต.ตะขบ อดีตนายกฯ โดนวินัย-'พวก' อาญา
- พฤติการณ์อดีตนายกเทศฯ โคกสูง! ป.ป.ช.ชี้มูลไม่จัดการผู้รับเหมาส่อทิ้งงาน-แถมจ้างต่อ
- ไส้ในบิ๊กลอตโคราช! ป.ป.ช.ชี้มูลอดีตนายก อบต.โตนด อำพราง หจก. รับงานรัฐ 13 โครงการ
- ไส้ในบิ๊กลอตโคราช! ป.ป.ช.ชี้มูลอดีตนายก อบต.บ้านแปรง-พวก หาปย.จัดซื้อที่ดินมิชอบ
- ไส้ในบิ๊กลอตโคราช! ป.ป.ช.ชี้มูลอดีตนายกเทศฯจอหอ-พวก ทุจริตฮั้วซื้อเครื่องออกกำลังกาย
- ไส้ในบิ๊กลอตโคราช! ป.ป.ช.ชี้มูลอดีตนายก อบต.ด่านขุนทด -พวก ไม่แพร่ประกาศจ้างงานโครงการฯ

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา