ไส้ในบิ๊กลอตโคราช! ป.ป.ช.ชี้มูลอาญา 'วราภรณ์ ลิมปะพันธุ์' อดีตนายก อบต.โตนด อำเภอโนนสูง นครราชสีมา-พวก อำพรางหจก.ตัวเอง เข้ามีส่วนได้เสียงานก่อสร้าง 13 โครงการ ปี 2552 มิชอบ ส่งสำนวนอสส.ฟ้องร้องดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายแล้ว - ยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
จากกรณี เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2568 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดนครราชสีมา แถลงผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยเผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดคดีทุจริตของอดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) อดีตนายกเทศมนตรีตำบล ข้าราชการ ในจังหวัดนครราชสีมา จำนวนหลายคดี

ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบยืนยันข้อมูล พบว่ามติคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดคดีทุจริตของอดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) อดีตนายกเทศมนตรีตำบล ข้าราชการ ในจังหวัดนครราชสีมา ดังกล่าว มีกรณีกล่าวหา นางวราภรณ์ ลิมปะพันธุ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลโตนด อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา กับพวก เข้ามีส่วนได้เสียในโครงการก่อสร้างขององค์การบริหารส่วนตำบลโตนด จำนวน 13 โครงการ เมื่อปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 มิชอบ รวมอยู่ด้วย
โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาสำนวนไต่สวนคดีแล้ว เห็นว่า นางวราภรณ์ ลิมปะพันธุ์ มีมูลความผิดทางอาญา พร้อมให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีกับนางวราภรณ์ ลิมปะพันธุ์ และพวกอีก 1 ราย คือ นางเครือฟ้า โจกกลาง
ข้อเท็จจริงจาการไต่สวนปรากฏว่า เมื่อปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ระหว่างที่นางวราภรณ์ ลิมปะพันธุ์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลโตนดอยู่นั้น องค์การบริหารส่วนตำบลโตนดได้กำหนดข้อบัญญัติ เรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ในหมวดที่ดินและสิ่งก่อสร้าง จำนวน 13 โครงการ โดยจากทั้ง 13 โครงการตามข้อบัญญัติดังกล่าว พบว่าห้างหุ้นส่วนจำกัด โนนสูงการโยธา ได้เข้าเป็นคู่สัญญากับองค์การบริหารส่วนตำบลโตนด จำนวน 7 โครงการ
ห้างดังกล่าว มีผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 เป็นผู้ยื่นคำขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนในวันที่ 26 สิงหาคม 2539 และผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้าง สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 129 หมู่ 8 ถนนมิตรภาพ - ทุ่งมน ตำบลโตนด อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นบ้านของนายประพัฒวงศ์ ลิมปะพันธุ์ พี่น้องร่วมบิดามารดากับนายประพงวิชญ์ ลิมปะพันธุ์ คู่สมรสของผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ประกอบกิจการค้าหิน ดิน ทราย ดินลูกรัง ยางมะตอย และรับจ้างถามดิน ปรับหน้าดิน พร้อมทั้งบริการรับจ้างขนส่งสินค้าดังกล่าว และรับเหมาก่อสร้างอาคาร อาคารพานิชย์ อาคารที่พักอาศัย สถานที่ทำการ ถนน สะพาน เขื่อน อุโมงค์และงานก่อสร้างอื่นทุกชนิด
จากนั้นวันที่ 18 ธันวาคม 2544 ได้ยื่นคำขอแก้ไขเพิ่มเติมผู้เป็นหุ้นส่วน โดยให้นางเครือฟ้า โจกกลาง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 เข้ามาเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการแทนตนเอง โดยผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 มีอาชีพเป็นผู้ประกอบอาชีพขายอาหาร ไม่ได้เป็นผู้ประกอบอาชีพเกี่ยวกับรับเหมาก่อสร้างหรือมีความรู้ความสามารถ และไม่มีอุปกรณ์เครื่องจักรที่ใช้ในการรับเหมาก่อสร้างแต่อย่างใด
ประกอบกับในการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัด โนนสูงการโยธา มีผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 เป็นผู้ยื่นคำขอจะทะเบียนจัดตั้งห้าง ทั้งในการเปลี่ยนแปลงตัวหุ้นส่วนของห้างมีผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 และสามีของผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 กลับเข้ามาเป็นหุ้นส่วนของห้าง ในขณะที่ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหลายครั้ง
อีกทั้งเมื่อห้างหุ้นส่วนจำกัด โนนสูงการโยธาได้ทำการเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งห้าง สถานที่ตั้งห้างไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการแต่อย่างใด
แต่กลับมีความเกี่ยวพันกับผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 และสามีของผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 และในการดำเนินการก่อสร้างในโครงการก่อสร้างขององค์การบริหารส่วนตำบลโตนดทั้ง 7 โครงการข้างต้น ที่มีห้างหุ้นส่วนจำกัด โนนสูงการโยธา เป็นคู่สัญญาจะมีการนำเครื่องจักรที่ใช้ในการก่อสร้างมากจากบริษัท ป.ไทยนำโชค จำกัด ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 79 หมู่ 8 บ้านทุ่งมน ซึ่งเป็นบ้านของผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 และหลังจากมีการเบิกจ่ายเงินค่าจ้างทั้ง 7 โครงการข้างต้นจากองค์การบริหารส่วนตำบลโตนดให้แก่ห้างหุ้นส่วนจำกัด โนนสูงการโยธา เรียบร้อยแล้ว ในวันที่ 29 กันยายน 2552 ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ก็ได้ยื่นคำขอเปลี่ยนแปลงหุ้นส่วนของห้าง โดยให้สามีของผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 กลับเข้าเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างอีกครั้ง
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว มีมติดังนี้
1. การกระทำของนางวราภรณ์ ลิมปะพันธุ์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาล หรือเจ้าของทรัพย์นั้น ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นเนื่องด้วยกิจการนั้น และฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 152 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 91 และมีมูลความผิด ฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92
2.การกระทำของนางเครือฟ้า โจกกลาง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาล หรือเจ้าของทรัพย์นั้น ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นเนื่องด้วยกิจการนั้น และฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 152 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 และมาตรา 91 แต่ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 ได้ขาดอายุความแล้วสิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (6) จึงให้ยุติการดำเนินคดีอาญากับนางเครือฟ้า โจกกลาง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ในความผิดฐานนี้
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีกับนางวราภรณ์ ลิมปะพันธุ์ และนางเครือฟ้า โจกกลาง และส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการทางวินัย กับนางวราภรณ์ ลิมปะพันธุ์ ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 91 (1) และ (2) และมาตรา 98 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 98 วรรคสี่ แล้วแต่กรณีต่อไป และให้แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งทราบด้วย
ทั้งนี้ ให้แจ้งองค์การบริหารส่วนตำบลโตนด อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ เพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหายต่อไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 82 วรรคสอง
รวมทั้งแจ้งข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับการกระทำของนางเครือฟ้า โจกกลาง หุ้นส่วนผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โนนสูงการโยธาให้กรมบัญชีกลาง เพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจให้เป็นผู้มีลักษณะเป็นผู้ทิ้งงาน ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
อย่างไรก็ดี การชี้มูลของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
อ่านประกอบ :
- ป.ป.ช.ชี้มูล อดีตนายก อบต.ตะขบ-พวก เชิดคนใกล้ชิดคู่สัญญาจัดแข่งโมโตครอส
- คดีที่ 2! ป.ป.ช.ชี้มูลทุจริตคืนเงินเบี้ยยังชีพ อบต.ตะขบ อดีตนายกฯ โดนวินัย-'พวก' อาญา

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา