
‘ธปท.’ เผยเครื่องชี้เศรษฐกิจ มิ.ย.68 ชะลอตัวจากเดือนก่อน จาก ‘ส่งออก-ภาคผลิต-ภาคบริโภค-ท่องเที่ยว’ ลดลง มอง ‘จีดีพี’ ไตรมาส 2/68 โตใกล้เคียง 3% ก่อนชะลอตัวในช่วงครึ่งปีหลังจนถึงปีหน้า จากผลกระทบมาตรการ ‘ภาษีสหรัฐฯ’
.......................................
เมื่อวันที่ 31 ก.ค. น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์ และโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงสรุปภาวะเศรษฐกิจและการเงินเดือน มิ.ย.2568 ว่า เศรษฐกิจไทยเดือน มิ.ย.2568 ชะลอลงจากเดือนก่อน โดยการส่งออกสินค้าและการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลง หลังจากที่เร่งไปช่วงก่อน สำหรับกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยวลดลง ตามจำนวนและรายรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนลดลง โดยระยะข้างหน้า การบริโภคมีแรงกดดันจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลงต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี การใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวจากทั้งการใช้จ่ายของรัฐบาลกลางและการลงทุนของรัฐวิสาหกิจ ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนขยายตัว ตามการลงทุนในหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์
น.ส.ชญาวดี กล่าวว่า ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบน้อยลงจากเดือนก่อน ตามอัตราเงินเฟ้อหมวดอาหารสดจากราคาผักที่ปรับสูงขึ้น ด้านอัตราเงินเฟ้อหมวดพลังงานติดลบน้อยลงตามราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศ สอดคล้องกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานทรงตัว โดยราคาเครื่องประกอบอาหารและอาหารสำเร็จรูปปรับลดลง แต่ราคาอาหารพร้อมทานปรับเพิ่มขึ้น
ส่วนดุลบัญชีเดินสะพัดกลับมาเกินดุลจากดุลบริการ รายได้ และเงินโอนที่ขาดดุลลดลง ขณะที่ตลาดแรงงานโดยรวมทรงตัวจากเดือนก่อน แต่ยังต้องติดตามสัดส่วนผู้ขอรับสิทธิว่างงานต่อผู้ประกันตนรวมที่เพิ่มขึ้น

น.ส.ชญาวดี ระบุว่า สำหรับเศรษฐกิจไทยโดยรวมในไตรมาสที่ 2/2568 ขยายตัวใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน โดยมีแรงส่งจากการส่งออกสินค้าที่เพิ่มขึ้นจากการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องจักร ตามแนวโน้มอุปสงค์สินค้าเทคโนโลยีของโลกและบางส่วนเป็นการเร่งส่งออกในช่วงที่ภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ยังอยู่ในช่วงผ่อนผัน สอดคล้องกับการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นในหมวดเซมิคอนดักเตอร์ รวมถึงการผลิตยานยนต์ที่เพิ่มขึ้นตามยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า
ด้านการใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวตามการเบิกจ่ายลงทุน และการลงทุนภาคเอกชนเพิ่มขึ้นตามการลงทุนในหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ อย่างไรก็ดี การบริโภคภาคเอกชนชะลอลง และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาคท่องเที่ยวชะลอลง ตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลงโดยเฉพาะกลุ่มตลาดระยะใกล้ (short haul) แม้ภาพรวมรายรับเพิ่มขึ้นตามการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มตลาดระยะไกล (long haul)
ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ไตรมาส 2/2568 ลดลงจากไตรมาสก่อน จากหมวดพลังงานที่ปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก และหมวดอาหารสดที่ปรับลดลงจากผลฐานสูงของราคาผักและผลไม้ในปีก่อน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากราคาในหมวดอาหาร สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลลดลงจากไตรมาสก่อนจากดุลบริการ รายได้ และเงินโอนที่ขาดดุลเพิ่มขึ้นตามการส่งกลับกำไรตามฤดูกาล ด้านตลาดแรงงานโดยรวมทรงตัวจากไตรมาสก่อน
น.ส.ชญาวดี กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป มีแนวโน้มชะลอตัวลง จากผลกระทบของนโยบายการค้าโลกต่อการส่งออกสินค้า การผลิตทั้งในภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งรายได้แรงงานที่เกี่ยวข้อง ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติมีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยประเด็นที่ต้องติดตาม ได้แก่ 1.ผลของการเจรจาการค้าของไทยและประเทศต่าง ๆ กับสหรัฐฯ 2.พัฒนาการภาคการท่องเที่ยว
3.สถานการณ์ไทย-กัมพูชา 4.ผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในภาคเหนือ และ 5.ผลจากมาตรการเศรษฐกิจของภาครัฐในระยะต่อไป
“ในแง่ไตรมาสที่ 2/2568 ตัวเลขที่ออกมาตามเครื่องชี้ ก็ถือว่าเป็นไปตามที่คาดไว้ แต่ถามว่ามีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นหรือไม่ เรามองว่าในเรื่องภาคท่องเที่ยวอาจมีความเสี่ยงด้าน downside มากขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์ในปัจจุบัน (สถานการณ์ไทย-กัมพูชา) ที่ต้องดูว่าจะความยืดเยื้อขนาดไหน เพราะอาจมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจทั้งปี 2568 จะอยู่ที่เท่าเดิม คือ ขยายตัว 2.3% ได้หรือเปล่านั้น ยังอยู่ระหว่างประเมิน
แต่ถ้าดู ล่าสุดกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับประมาณเศรษฐกิจไทยขึ้นจาก 1.8% เป็น 2% และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ก็ปรับจาก 2.1% เป็น 2.2% จะเห็นว่าค่อยๆเริ่มปรับเข้ามาใกล้ๆกัน อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นหน่วยไหน ก็ต้องคงต้องมองพัฒนาการต่อไป เพราะความไม่แน่นอนค่อนข้างสูง และเมื่อความเสี่ยงชัดเจนขึ้น ก็ต้องมีการปรับ ซึ่ง ธปท.จะประกาศตัวเลขทางการในช่วงเดือน ต.ค.นี้” น.ส.ชญาวดี ระบุ
น.ส.ชญาวดี กล่าวว่า คาดว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีแรก ไม่น่าจะผิดไปจากที่คาดไว้ โดยก่อนหน้านี้ ธปท.ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 จะขยายตัวที่ 2.9% ส่วนเศรษฐกิจไตรมาส 2/2568 คาดว่าจะขยายตัวในระดับใกล้เคียง หรือไม่แตกต่างจากไตรมาส 1/2568 ที่เศรษฐกิจขยายตัวได้ 3.1% มากนัก คือ น่าจะขยายตัวใกล้เคียง 3% ซึ่งเป็นผลมาจากความกังวล ทำให้คนเร่งทำธุรกิจและเร่งส่งออก ไม่ได้หมายความว่าเศรษฐกิจดี
น.ส.ชญาวดี ระบุว่า ที่ผ่านมา ธปท.มองอยู่แล้วว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 ไปจนถึงปีหน้า การส่งออกไทยจะได้รับผลกระทบจากมาตรภาษีของสหรัฐฯ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังไปจนถึงปีหน้าชะลอตัวลง และยังมีความเสี่ยงที่เพิ่มเติมเข้ามาอีก คือ สถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งจะทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในพื้นที่หายไป และอาจมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นด้วย
“ตัวเลขไตรมาส 2/2568 ที่ออกมาค่อนข้างโอเค ส่วนตัวเลขไตรมาส 3/2568 ความเสี่ยงมีมากขึ้นด้วยปัจจัยต่างๆ เช่น เรื่องน้ำท่วม สถานการณ์ชายแดน ก็เป็นไปได้ว่า ตัวเลขเทียบไตรมาสต่อไตรมาสอาจจะแย่ลงกว่าคาด นี่เป็นความเสี่ยงที่เรามองและติดตามใกล้ชิด ทิศทางไม่ได้เปลี่ยน แต่อยู่ที่ว่าความรุนแรงจะมากน้อยแค่ไหน” น.ส.ชญาวดี กล่าว
น.ส.ชญาวดี กล่าวด้วยว่า กรณีที่ ธปท. ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะขยายตัวที่ 2.3% นั้น มาจากสมมติฐานว่า ไทยถูกสหรัฐฯเรียกเก็บภาษี reciprocal tariffs ที่ 18% และอัตราภาษีที่ 18% ดังกล่าว เป็นสมมติฐานที่ ธปท. และหน่วยงานอื่นๆใช้ ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และ สศค. ซึ่งขณะนี้ทีมเจรจาด้านภาษีทำงานเต็มที่เพื่อให้ไทยได้ตัวเลขภาษีที่ดีที่สุด และหวังว่าตัวเลขจะไม่หนีไปจากเพื่อนเท่าไหร่
สำหรับรายละเอียดภาวะเศรษฐกิจและการเงินเดือน มิ.ย.2568 เมื่อเทียบกับเดือนก่อน มีดังนี้
การบริโภคภาคเอกชน
เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อน ตามการใช้จ่าย (1) หมวดบริการโดยเฉพาะโรงแรมและภัตตาคาร สอดคล้องกับการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง ขณะที่การใช้จ่ายของคนไทยยังเพิ่มขึ้น (2) หมวดสินค้าไม่คงทน ตามยอดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง และสินค้าอุปโภคบริโภค รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (3) หมวดสินค้าคงทน จากยอดจำหน่ายรถยนต์ที่ลดลง หลังมีการส่งมอบรถยนต์ไปมากในช่วงก่อนหน้า
อย่างไรก็ดี หมวดสินค้ากึ่งคงทน เพิ่มขึ้นจากปริมาณการนำเข้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ด้านความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงต่อเนื่อง จากความกังวลต่อความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าสหรัฐฯและเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวช้า รวมถึงปัญหาหนี้ครัวเรือนและธุรกิจที่ยังอยู่ในระดับสูง

การลงทุนภาคเอกชน
เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน จากหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ตามยอดจำหน่ายเครื่องจักรในประเทศ สอดคล้องกับการผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น สำหรับหมวดยานพาหนะทรงตัว โดยการนำเข้าเรือและยอดจดทะเบียนรถกระบะเพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดจดทะเบียนรถประเภทอื่นๆ อาทิ รถยนต์นั่ง และรถบรรทุกลดลง ด้านหมวดก่อสร้างทรงตัวเช่นกัน
โดยหมวดที่มิใช่ที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นตามพื้นที่ได้รับอนุญาตก่อสร้างโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม ขณะที่หมวดที่อยู่อาศัยลดลงตามพื้นที่ได้รับอนุญาตก่อสร้างบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ สอดคล้องกับอุปทานคงเหลือที่อยู่ในระดับสูง

จำนวนและรายรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
จำนวนและรายรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลลดลงจากเดือนก่อน ในหลายสัญชาติ โดยนักท่องเที่ยวตลาดระยะใกล้ (short haul) ลดลงจากนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ หลังจากเร่งไปในเดือนก่อน รวมทั้งนักท่องเที่ยวอินเดียที่ลดลง หลังเกิดอุบัติเหตุทางการบินของอินเดีย ขณะที่นักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัวอย่างช้าๆ สำหรับนักท่องเที่ยวตลาดระยะไกล (long haul) ลดลง โดยเฉพาะจากตะวันออกกลาง หลังมีการปิดน่านฟ้าและเหตุการณ์ความไม่สงบใoตะวันออกกลาง อย่างไรก็ดี นักท่องเที่ยวจากเยอรมนีและรัสเซียยังเพิ่มขึ้น

การส่งออกสินค้า
มูลค่าการส่งออกสินค้า (ไม่รวมทองคำ) ที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลลดลงจากเดือนก่อน หลังเร่งไปในช่วงก่อน ตามการส่งออกในหมวด (1) อิเล็กทรอนิกส์ ตามการส่งออกคอมพิวเตอร์ไปจีนและฮ่องกงที่เร่งสูงในเดือนก่อน (2) ยานยนต์ ตามการส่งออกรถกระบะและรถยนต์นั่งไปออสเตรเลียและตะวันออก ขณะที่การส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ทรงตัว และ (3) เกษตรและเกษตรแปรรูปตามการส่งออกทุเรียนและยางสังเคราะห์ไปจีน น้ำมันปาล์มไปอินเดีย รวมทั้งข้าวและปลากระป๋องไปสหรัฐฯ หลังเร่งไปในเดือนก่อน อย่างไรก็ตาม การส่งออกปิโตรเลียมไปอาเซียนปรับดีขึ้น
การนำเข้าสินค้า
มูลค่าการนำเข้าสินค้า (ไม่รวมทองคำ) ที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อน จากหมวดสินค้าทุนไม่รวมเครื่องบิน ตามการนำเข้าคอมพิวเตอร์จากไต้หวัน และหมวดสินค้าอุปโภคและบริโภค ตามการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีน สอดคล้องกับยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งในประเทศที่ลดลง อย่างไรก็ดี หมวดวัตถุดิบและชิ้นส่วน เพิ่มขึ้นตามการนำเข้าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จากจีนเป็นสำคัญ
การผลิตภาคอุตสาหกรรม
ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลลดลงจากเดือนก่อน ทั้งกลุ่มที่ผลิตเพื่อส่งออกและภายในประเทศ โดยกลุ่มที่ผลิตเพื่อส่งออกน้อยกว่าร้อยละ 30 ลดลงจากหมวดอาหารและเครื่องดื่มตามการผลิตน้ำมันปาล์มที่เร่งผลิตและส่งออกไปในเดือนก่อน รวมถึงหมวดเคมีภัณฑ์ตามการผลิตปุ๋ยเคมีที่อุปสงค์ชะลอลง
ด้านการผลิตเพื่อส่งออกในสัดส่วนร้อยละ 30-60 ลดลง จากหมวดยานยนต์ตามการผลิตรถยนต์นั่งและรถกระบะ สอดคล้องกับยอดขายรถยนต์ในประเทศและการส่งออกรถยนต์ที่ลดลง สำหรับกลุ่มที่ผลิตเพื่อส่งออกมากกว่าร้อยละ 60 ลดลงจากหมวดผลิตเครื่องปรับอากาศ และ อาหารทะเลแช่เย็นแช่แข็งเป็นสำคัญ อย่างไรก็ตาม การผลิตหมวดปิโตรเลียมปรับดีขึ้นจากการเร่งผลิตเพื่อสะสมสินค้าคงคลัง ก่อนการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นบางแห่งในเดือน ก.ค.

ภาคบริการ
เครื่องชี้ภาคบริการ (ไม่รวมการซื้อขายทองคำ) ที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลลดลงจากเดือนก่อนในเกือบทุกหมวด โดยกิจกรรมในภาคการค้าลดลงตามการผลิตภาคอุตสาหกรรมยอดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค และยอดขายรถยนต์ที่ลดลงส่งผลให้ปริมาณการขนส่งสินค้าลดลงด้วย อย่างไรก็ดี กิจกรรมบริการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวขยายตัวจากธุรกิจโรงแรมภัตตาคาร ตามการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวไทย ขณะที่การขนส่งผู้โดยสารลดลง
รายได้เกษตรกร
รายได้เกษตรกรหดตัวจากระยะเดียวกันปีก่อน ตามราคาสินค้าเกษตร ได้แก่ (1) ราคายางพารา จากผลของฐานสูงในปีก่อนที่มีปัญหาภัยแล้ง และอุปสงค์โลกที่ชะลอลงจากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าสหรัฐฯ (2) ราคาข้าวขาว จากอุปทานข้าวของไทยและโลกที่เพิ่มขึ้น และ (3) ราคาทุเรียนจากปริมาณผลผลิตที่มากกว่าปีก่อน และอุปสงค์รับซื้อที่ลดลงจากความกังวลต่อการตรวจสอบสารตกค้างที่อาจล่าช้า อย่างไรก็ดี ผลผลิตสินค้าเกษตรขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนจากทั้งข้าวขาว ยางพารา และทุเรียน ตามสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย
การใช้จ่ายภาครัฐ
การใช้จ่ายภาครัฐ (ไม่รวมเงินโอน) ขยายตัวเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน จากการใช้จ่ายของรัฐบาลกลางและรายจ่ายลงทุนของรัฐวิสาหกิจ โดยรายจ่ายประจำของรัฐบาลกลางขยายตัวตามการเบิกจ่ายเงินบำนาญ ค่าตอบแทนบุคลากรและค่ารักษาพยาบาลข้าราชการ ด้านรายจ่ายลงทุนของรัฐบาลกลางขยายตัวตามการเบิกจ่ายของหน่วยงานด้านคมนาคม สำหรับการลงทุนของรัฐวิสาหกิจขยายตัวตามการเบิกจ่ายโครงการลงทุนด้านการขนส่งทางราง

ภาวะการเงิน
การระดมทุนของภาคธุรกิจ โดยรวมปรับลดลงจากช่องทางตลาดตราสารหนี้และสินเชื่อ โดยการระดมทุนผ่านสินเชื่อลดลงจากธุรกิจในหมวดสาธารณูปโภค การผลิต การค้า และการก่อสร้าง สำหรับการระดมทุนผ่านตลาดตราสารหนี้ปรับลดลงในทุกสาขาธุรกิจ โดยเฉพาะภาคบริการและภาคการเงิน ส่วนหนึ่งจากปริมาณหุ้นกู้ออกใหม่ที่ลดลงและน้อยกว่าปริมาณหุ้นกู้ที่ครบกำหนด ประกอบกับผู้ออกตราสารหนี้รายใหญ่เปลี่ยนช่องทางระดมทุน
อย่างไรก็ดี การระดมทุนผ่านตลาดทุนปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยเป็นการเพิ่มทุนของบริษัทในภาคบริการและภาคการผลิตอาหารและเครื่องดื่มเป็นสำคัญ สำหรับต้นทุนการระดมทุนผ่านตราสารหนี้ ตั้งแต่ 1 มิ.ย. ถึง 24 ก.ค. อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยทั้งระยะสั้นและระยะยาวปรับลดลงจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยไทยที่ตลาดคาดว่าอยู่ในช่วงขาลง ตามแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำ
อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบกับดอลลาร์ สรอ. เดือน มิ.ย. เงินบาทเฉลี่ยปรับแข็งค่าขึ้น ตามการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ สรอ. หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาด ประกอบกับผู้ร่วมตลาดมีความกังวลต่อเสถียรภาพการคลังของสหรัฐฯ จากผลของการใช้มาตรการด้านภาษี สำหรับเดือน ก.ค. (ข้อมูลถึง 23 ก.ค. 68) เงินบาทปรับแข็งค่าขึ้นจากการลงทุนในหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติที่เพิ่มขึ้น
ด้านดัชนีค่าเงินบาท (NEER) เดือน มิ.ย. เฉลี่ยปรับแข็งค่าขึ้นจากเงินลงทุนต่างชาติที่ไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยมากขึ้น ส่วนหนึ่งจากราคาหุ้นไทยที่ปรับต่ำลงมากเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่น

อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบน้อยลงจากเดือนก่อน จากอัตราเงินเฟ้อหมวดอาหารสดตามราคาผักที่เพิ่มขึ้นหลังผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง และอัตราเงินเฟ้อหมวดพลังงานตามราคาน้ำมันเบนซินที่เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานใกล้เคียงกับเดือนก่อน โดยราคาเครื่องประกอบอาหารลดลงตามราคาน้ำมันพืช และราคาอาหารสำเร็จรูปลดลงตามการทำโปรโมชันอาหารโทรสั่ง (Delivery) ขณะที่ราคาอาหารพร้อมทานยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
สำหรับภาวะตลาดแรงงานโดยรวมทรงตัวจากเดือนก่อน สะท้อนจากจำนวนผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่เพิ่มขึ้นในภาคการผลิต ขณะที่การจ้างงานในภาคบริการลดลง อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามสัดส่วนผู้ขอสิทธิว่างงานรวมและรายใหม่ต่อผู้ประกันตนรวมที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในสาขาสิ่งทอเครื่องจักร ค้าปลีก และก่อสร้าง

ด้านดุลบัญชีเดินสะพัดกลับมาเกินดุลจากดุลบริการ รายได้ และเงินโอนที่ขาดดุลลดลง ตามการส่งกลับกำไรไปต่างประเทศที่ลดลงหลังพ้นฤดูกาลจ่ายปันผล ขณะที่ดุลการค้าเกินดุลใกล้เคียงกับเดือนก่อน

อ่านประกอบ :
ธปท.เผยเศรษฐกิจ พ.ค.68 ชะลอตัวจากเดือนก่อน-ชี้‘เงินบาท’เคลื่อนไหวสอดคล้องปัจจัยพื้นฐาน
ธปท.ชี้เศรษฐกิจ เม.ย.ดีขึ้น-มองเจรจาการค้า‘สหรัฐ-จีน’สัญญาณบวก ‘จีดีพี’ปีนี้อาจโตเกิน 2%
‘ธปท.’ชี้เศรษฐกิจ มี.ค.68 ชะลอตัวจากเดือนก่อน เผย‘ส่งออก-ท่องเที่ยว-บริโภค-ลงทุน’แผ่ว
‘ธปท.’ชี้‘ท่องเที่ยว-ส่งออก-บริโภคเอกชน’โต หนุนเศรษฐกิจ ม.ค.68 ปรับดีขึ้นจากเดือนก่อน
‘ธปท.’เผยเศรษฐกิจไทย ธ.ค.ชะลอตัว-หั่นคาดการณ์จีดีพีไตรมาส 4/67 เติบโตไม่ถึง 4%
‘ธปท.’ชี้เศรษฐกิจ พ.ย.ชะลอ หลังเร่งตัวจาก‘เงินโอน’-แนะรัฐบาล‘ลงทุน’ได้ผลดีกว่า‘แจกเงิน’
IMF มองจีดีพีไทยปีหน้าโต 2.9% แนะ‘กนง.’ลดดบ.อีก 1 ครั้ง-‘ธปท.’ชี้เศรษฐกิจ ต.ค.67 ดีขึ้น
‘ธปท.’เผยเศรษฐกิจไทย ก.ย.67 ชะลอลงจากเดือนก่อน-คาดจีดีพีไตรมาส 3 ขยายตัวใกล้ 3%

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา