'ประเสริฐ จันทรรวงทอง' รมว.ดีอี แจงกรณี ‘ศาลฎีกา’ สั่ง ‘สุธรรม-อดีตกรรมการ ทศท. 7 ราย’ เอื้อประโยชน์ AIS ชดใช้เงิน 6.6 หมื่นล้าน ให้ บมจ.โทรคมมาคมฯ สรุปข้อมูลให้ดูแล้วเรื่องเป็นอย่างไร ทำอะไรได้บ้าง เผยเป็นเรื่องใหญ่ผ่านมานานแล้ว ขอดูผลคำวินิจฉัยก่อน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้ากรณีการบังคับคดีตามคำพิพากษาศาลฎีกา 3483/2563 ลงโทษจำคุกนายสุธรรม มลิลา อดีตผู้อำนวยการองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (ทศท.) เป็นเวลา 6 ปี และให้ชดใช้เงินจำนวน 46,855,463,990.92 บาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี ของเงินต้น 33,030,343,367.97 บาท ในคดีแก้ไขสัมปทาน (ครั้งที่ 6) เพื่อลดอัตราส่วนแบ่งรายได้จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบใช้บัตรจ่ายเงินล่วงหน้าให้ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (AIS) มิชอบ
โดยคำพิพากษาศาลฎีกา กำหนดให้กรรมการ ทศท. จำนวน 7 ราย ที่เข้าร่วมประชุมในคดีแก้ไขสัมปทาน (ครั้งที่ 6) ต้องร่วมรับผิดในความเสียหายที่องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยต้องสูญเสียรายได้จากการที่คณะกรรมการองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย อนุมัติให้ลดอัตราส่วนแบ่งรายได้ให้แก่ AIS ดังกล่าว เป็นเงินจำนวน 66,060,686,735.94 บาท ด้วย
ล่าสุด นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา ถึงกรณีนี้ว่า "เรื่องนี้ผ่านมาค่อนข้างนานแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการให้ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (บริษัท NT) สรุปข้อมูลว่าเรื่องเป็นอย่างไร"
เมื่อถามว่า อดีตกรรมการ ทศท. จำนวน 7 ราย ในปัจจุบันบางรายอยู่ในตำแหน่งสำคัญ จะมีการดำเนินการอย่างไรกับบุคคลเหล่านี้บ้าง?
นายประเสริฐ ตอบว่า "ขอดูว่าผลคำวินิจฉัยของศาลเป็นอย่างไร กระทบกับอะไรบ้าง ส่งผลต่อคนหรือองค์กร ถ้าเป็นองค์กรต้องมาดูบ้างว่าจะทำอย่างไร ขอสรุปคำวินิจฉัยก่อน เพราะเท่าที่ดูตามข่าวที่อิศรานำเสนอเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องใหญ่ ขอเวลานิดหนึ่ง"
อนึ่งก่อนหน้านี้ แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยสำนักข่าวอิศราว่า เกี่ยวกับกรณีนี้ กระทรวงการคลังได้รายงานความคืบหน้าการปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3483/2563 ต่อ สำนักงาน ป.ป.ช. ว่า กระทรวงการคลังได้ดำเนินการแจ้งให้ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ ในฐานะคู่ความในคดี ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในการบังคับคดีตามคำพิพากษา และให้รายงานความคืบหน้าและผลการบังคับคดีให้กระทรวงการคลังทราบ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการบังคับคดี
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังได้แจ้งให้กรรมการผู้แทนกระทรวงการคลัง ในคณะกรรมการ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะกระทรวงเจ้าสังกัด ทราบและให้พิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในการกำกับและติดตามการบังคับคดีตามคำพิพากษาอีกชั้นหนึ่งด้วย
สำหรับรายชื่อประธานและกรรมการในคณะกรรมการ ทศท. ในช่วงที่เวลาที่มีการอนุมัติให้แก้ไขสัมปทาน (ครั้งที่ 6) เพื่อลดอัตราส่วนแบ่งรายได้จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบใช้บัตรจ่ายเงินล่วงหน้าให้ AIS เช่น นายศุภชัย พิศิษฐวานิช เป็นประธานกรรมการ (เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2559) ,พลเอก ชูชาติ พรหมพระสิทธิ์ เป็นรองประธานกรรมการ ,นายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม เป็นกรรมการ
นายวันชัย ศารทูลทัต เป็นกรรมการ ,พลตำรวจเอก บุญฤทธิ์ รัตนะพร เป็นกรรมการ ,นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ผู้แทนกระทรวงการคลัง เป็นกรรมการ และนายสุรินทร์ ตุลย์วัฒนจิต เป็นกรรมการ เป็นต้น
ในส่วนของ นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ เป็นอดีตปลัดกระทรวงการคลัง ปัจจุบันมีตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมการคัดเลือกประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
อ่านประกอบ :
- ฉบับเต็ม! คำพิพากษาคดี 'สุธรรม' เอื้อ AIS ศาลฎีกา สั่งกก.ทศท.7 คน ร่วมชดใช้ 6.6 หมื่นล.
- ใคร คือ กก.ทศท.7 ราย ศาลฎีกา สั่งชดใช้ 6.6 หมื่นล. คดี 'สุธรรม' เอื้อปย. AIS
- คดี 'สุธรรม' เอื้อ AIS ศาลฎีกา ชี้ กก.ทศท. 7 ราย บกพร่องด้วย ต้องร่วมชดใช้ 6.6 หมื่นล.
- ศาลฎีกา ยืนโทษคุก 6 ปี 'สุธรรม มลิลา' เอื้อปย.เอไอเอส -ชดใช้ 4.6 หมื่นล.