‘วีริศ อัมระปาล’ เข้ารับตำแหน่งผู้ว่าฯรฟท.ใหม่แล้ว ขอเวลาศึกษางาน 1 เดือน เผยเรื่องเร่งด่วนจัดการปัญหา PPP ยกเรื่องไอซีดีลาดกระบังประเด็นด่วน ปัดฝุ่นแผนฟื้นฟู ก่อนบอกไม่ใช่เด็กสุริยะ ยืนยันคุณสมบัติไม่มีปัญหา
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 19 กันยายน 2567 นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ให้การต้องรับนายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่ารฟท.คนใหม่ โดยมีการลงนามในสัญญาจ้างเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
@ขอศึกษางาน 1 เดือน - PPP เรื่องด่วน
นายวีริศกล่าวว่า การมาดำรงตำแหน่งครั้งนี้ จะขอเวลาศึกษางานอย่างเร่งด่วนก่อน โดยจะใช้เวฃาประมาณ 1 เดือน เพราะที่ผ่านมารับรู้ปัญหาต่างๆเฉพาะตามที่เสนอผ่านหน้าสื่อ และจะพูดคุยกับทุกๆฝ่ายด้วย จะเป็นสิ่งหลักที่จะทำตอนนี้ โดยใน 3 เดือนแรก อาจจะจัดการเกี่ยวกับระบบระเบียบที่เกี่ยวกับการทำงานก่อน การแบ่งงานต้องชัดเจน และโครงสร้างอง๕ืกรต้องมีประสิทธิภาพ
ส่วนปัญหาเร่งด่วนที่จะต้องเร่งดำเนินการ นายวีริศกล่าวว่า โครงการที่เร่งด่วนมีปัญหาติดขัดในบางจุดทั้งการส่งมอบพื้นที่ การต่อรองสัญญา และอื่นๆ คงต้องไปดูกันในรายละเอียดในประเด็นเหล่านั้น ให้เดินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะประสานรองผู้ว่าฯ ผู้ช่วยฝ่ายต่างๆไปก่อน แต่สิ่งที่มองไว้ว่าจะมาทำคือ การแก้ปัญหาที่เกี่ยวกับโครงการเอกชนร่วมลงทุนต่างๆ (PPP) จากการศึกษาโครงการสรรหาเอกชนเพื่อร่วมลงทุนเป็นผู้ประกอบการสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ที่ลาดกระบังก็ช้ามานานแล้ว ส่วนโครงการอื่นๆก็ต้องเร่งทำตั้งแต่ตอนนี้ เพราะขั้นตอน PPP ใช้เวลา 2-3 ปีกว่าจะสำเร็จ
“วิสัยทัศน์แนวทางต่างๆ ได้นำเสนอในการแสดงวิสัยทัศน์ไปแล้วในช่วงที่สมัครเข้ามา โดยวิสัยทัศน์ที่ได้แสดงไว้ สอดคล้องกับสิ่งที่ต้องทำทั้งลดภาระหนี้ เพิ่มรายได้ เพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มความพอใจในการให้บริการ แต่สิ่งเหล่านี้จะทำได้มากแค่ไหน ต้องอาศัยการร่วมมือร่วมใจ และต้องลงลึกปัญหาจริงๆก่อน โดยอาจจะขอเวลา 20-30 วันในการทำความรู้จักกับอะไรต่างๆมากขึ้น เพื่อกำหนดนโยบายที่เหมาะสมต่อไป” นายวีริศกล่าว
@แย้มพัฒนาที่ดิน ปั๊มรายได้ใช้หนี้แสนล. - ฟื้นแผนฟื้นฟู
นายวีริศกล่าวต่อว่า แนวทางการแก้ปัญหาหนี้สินของ รฟท. ที่มีหนั้สะสมกว่า 200,000 ล้านบาท ความจริงเป็นหนี้ผูกพันของรัฐบาลที่ช่วยอุดหนุนด้วย ต้องแยกกับหนี้จริงที่มีอีก และมีบางสื่อเสนอว่า รฟท.มีที่ดินที่สามารถสร้างรายได้ ก็ต้องไปดูว่าติดขัดปัญหาอะไร ทำไมยังเดินไปไม่ได้ ก็ต้องคุยกับ บจ.เอสอาร์ที แอสเสท (SRT Asset) ด้วย
อีกด้านหนึ่งก็หารือกับอดีตผู้ว่ารฟท.คนก่อนๆไว้แล้วว่า มีอะไรต้องทำต่อหรือไม่ โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับแผนฟื้นฟูกิจการที่ริเริ่มมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็จะมีการทบทวนและผลักดันด้วย ส่วนหนี้สะสมทั้งหมดจะจบลงในยุคนี้หรือไม่ ก็จะพยายามให้เต็มที่
@เตรียมนัดสหภาพฯพูดคุย
ขณะที่การเร่งโครงการสำคัญของรัฐบาลทั้งโครงการรถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูงไทย-จีนตามนโยบายของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมนั้น นายวีริศระบุว่า สิ่งที่นายสุริยะแถลงก็คงได้รับรู้แผนของ รฟท.อยู่แล้ว ส่วนโครงการที่รอเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็คงต้องขอศึกษาและเอากลับมาดูก่อน ส่วนอนาคตของ รฟท.ก็คงเป็นไปตามนโยบายของรัฐมนตรีและประธานบอร์ด รฟท. คือ การเดินด้วยรถไฟต้องเป็นการเดินทางหลัก ต้องทำให้คนขับรถส่วนตัวหันกลับมาใช้รถไฟ ซึ่งจะทำให้ลดการผลิตคาร์บอน และทำให้คนใช้รถสาธารณะมากขึ้น
ส่วนการทำงานกับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) นายวีริศกล่าวว่า ยังไม่ได้พบเจอกัน เดี๋ยวคงนัดหมายกันเร็วๆนี้ แต่ส่วนตัวไม่ได้มีประเด็นอะไร และไม่ได้มีธงอะไรมา เรื่องผลประโยชน์แะสวัสดิการก็เห็นว่าสำคัญ แต่ต้องดูว่าอะไรดี อะไรเหมาะสม อะไรทำได้ ในฐานะคนนอกก็หวังว่า สวัสดิการจะได้รับกันอย่างดีที่สุด แต่ต้องไม่เกินลิมิตที่ให้ได้
@ไม่ได้มาเพราะ ‘สุริยะ’ เลือก - ยันคุณสมบัติไร้ข้อกังขา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการมาดำรงตำแหน่งครั้งนี้ มีกระแสข่าวว่ามาเพราะนายสุริยะเลือกมา จะทำให้มั่นใจได้หรือไม่ว่า การมาครั้งนี้มาเพื่อทำงานจริงๆ ไม่เกี่ยวกับนายสุริยะ นายวีริศกล่าวว่า สิ่งที่สื่อมวลชนวิเคราะห์กันนั้น ขอตอบว่าตลอดชีวิตการทำงาน ทำงานที่แรกที่มูลนิธิชัยพัฒนา ก็มีความตั้งใตที่จะทำงานเพื่อพัฒนาประเทศจริงๆ เพราะประเทศเราถ้ามองจากข้างนอก ยังมีอะไรต้องพัฒนา ต้องก้าวไป เมื่อได้มาทำงานจริงๆแล้ว ชีวิตก็พลิกผันไปในหลายๆที่ ในการทำงานก็พยายามทำหน้าที่ของตัวเองในการพัฒนาประเทศ และได้มีโอกาสไปศึกษาในต่างประเทศ ก็ได้นำความรู้เหล่านั้นมาช่วยพัฒนาประเทศ
“เพราะฉะนั้น ประเด็นที่เกี่ยวกับท่านสมศักดิ์ (สมศักดิ์ เทพสุทิน) และท่านสุริยะ และท่านอื่นๆ จริงๆแล้วก่อนหน้านี้ก็ทำหน้าที่ที่ปรึกษาในกรรมาธิการต่างๆ ผมก็พยายามที่จะทำหน้าที่ของผมเพื่อพัฒนาประเทศ การมาเป็นผู้ว่ารฟท.ก็เป็นจังหวะหนึ่งที่ผมเห็นว่า ผมสามารถทำได้ ผมก็สมัครเข้ามา เพราะฉะนั้น ถ้าถามว่าผมสมัครด้วยตัวเอง หรือท่านสุริยะเลือกมา ถ้าท่านสุริยะจิ้มมา ผมไม่มานะครับ เพราะฉะนั้น ผมบอกได้ครับว่าเป็นความตั้งใจของผม” นายวีริศกล่าว
เมื่อถามต่อว่า แล้วกรณีที่มีข่าวว่า มีคุณสมบัติบางประการที่ขัดต่อประกาศการรับสมัครนั้น จะชี้แจงอย่างไร นายวีริศกล่าวว่า มาตามกระบวนการ ได้ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และฝ่ายกฎหมายแล้ว ยืนยันว่าเจตนารมณ์ไม่ได้หมายถึงรัฐวิสาหกิจต่อรัฐวิสาหกิจ เจตนารมณ์เพื่อมาหาประโยชน์ ไม่มีแน่นอน หน่วยงานรัฐต้องการให้บูรณาการช่วยเหลือกัน ในประเทศเจริญแล้วในพื้นที่อุตสาหกรรม ต้นทุนการขนส่งต่ำ เพราะมีการลากรางรถไฟเข้าไปเชื่อมต่อการเดินทางโหมดอื่นเลย ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อน ซึ่งรู้โจทย์นี้มานาน และขออาสาเข้ามาช่วยทำงานตรงนี้
อ่านประกอบ
- ครม.อนุมัติ ‘วีริศ อัมระปาล’ นั่งผู้ว่าฯรถไฟคนใหม่ คาด 19 ก.ย.นี้เซ็นสัญญาจ้าง
- สหภาพฯรถไฟ ยื่นหนังสือปธ.บอร์ด ต้องสแกนเข้มคุณสมบัติผู้สมัครผู้ว่าฯใหม่
- นัด 2 ผู้สมัครชิงผู้ว่าฯรถไฟ แสดงวิสัยทัศน์ 24 ก.ค.นี้ - สหภาพฯ จ่อยื่นหนังสือบอร์ด
- ส่อง 4 ผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่ารถไฟ ‘อดีตผู้บริหาร VOICE-ผู้ว่ากนอ.’ โดดร่วมวง
- ‘รถไฟ’ เปิดรับสมัครผู้ว่าคนใหม่ ปิดรับ 28 พ.ค. 2567