‘รถไฟ’ เริ่มสรรหา ผู้ว่าคนใหม่แทน ‘นิรุฒ มณีพันธ์’ แล้ว เปิดรับสมัคร 29 เม.ย. - 28 พ.ค. 67 ส่องคุณสมบัติอายุไม่เกิน 58 ปี, จบป.ตรีขึ้นไป, ต้องมีประสบการณ์บริหารองค์กรรัฐ-รัฐวิสาหกิจ-เอกชนรายได้ไม่ต่ำกว่า 7,000 ล้านบาท เป็นต้น ก่อนเผยที่ประชุมบอร์ดรถไฟให้ ‘จเร’ นั่งรักษาการณ์ไปจนกว่าจะได้คนใหม่
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 30 เมษายน 2567 นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) และกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานกรรมการสรรหาผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ลงนามในประกาศคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ฉบับที 1/2567 เรื่อง รับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ความว่า
ด้วยการรถไฟแห่งประเทศไทย มีความประสงค์จะรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามพระราขบัญญัติ (พ.ร.บ.)คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ 2518 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และพ.ร.บ.การรถไฟแห่งประเทศไทย 2494 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
โดยผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย มีอำนาจและหน้าที่บริหารกิจการของการรถไฟแห่งประเทศไทยให้เป็นไปตามนโยบายที่คณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทยกำหนดภายใต้กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และการควบคุมของรัฐบาลและมีอำนาจบังคับบัญขาพนักงานของการรถไฟแห่งประเทศไทยทุกตำแหน่งนอกจากนี้ยังต้องรับผิดขอบต่อคณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย ในการจัดการและดำเนินงานของการรถไฟแห่งประเทศไทยตามที่บัญญัติไวในกฎหมายที่เกี่ยวข้องและให้เป็นไปตามสัญญาจ้างผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย
โดยคุณสมบัติของผู้ว่าฯ มีดังนี้
คุณสมบัติทั่วไป
1.มีสัญชาติไทย
2.มีอายุไม่เกิน 58 ปีบริบูรณ์ในวันยื่นใบสมัคร
3.สามารถทำงานให้แก่การรถไฟแห่งประเทศไทยได้เต็มเวลา
4.ไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟ้่นเฟือนไม่สมประกอบ
5.ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย หรือไม่เคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต
6.ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ
7.ไม่เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะรํ่ารวยผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ
8.ไม่เป็นข้าราชการการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) สมาชิกวุฒิสภา (สว.) สมาขิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น
9.ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ของพรรคการเมือง
10.ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากงาน เพราะทุจริตต่อหน้าที่
11.ไม่เป็นหรือภายในระยะเวลา 3 ปีก่อนวันได้รับแต่งตั้ง ไม่เคยเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร หรือผู้มีอำนาจในการจัดการหรือมีส่วนได้เสียในนิติบุคคล ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทาน ผู้ร่วมทุน หรือมีประโยชน์ได้เสียเกี่ยวข้องกับกิจการของการรถไฟแห่งประเทศไทย เว้นแต่การเป็นประธานกรรมการหรือกรรมการในนิติบุคคลดังกล่าวโดยการมอบหมายของการรถไฟแห่งประเทศไทย
12.ไม่ประกอบกิจการอันมีสภาพอย่างเดียวกันและเป็นการแข่งขันกับกิจการของการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือเข้าเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือเป็นหุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิดในห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือเป็นผู้ถือหุ้น หรือเป็นกรรมการของบริษัทจำกัด หรือบริษัทมหาซนจำกัดที่ประกอบกิจการอันมืสภาพอย่างเดียวกัน และเป็นการแข่งขันกับกิจการของการรถไฟแห่งประเทศไทย ไม่ว่าจะทำเพื่อประโยชน์ตนหรือประโยชน์ผู้อื่น หรือมีส่วนได้เสียในสัญญากับการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือในกิจการที่กระทำให้แก่การรถไฟแห่งประเทศไทย ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม เว้นแต่เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วน หรือเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทเช่นว่านั้นโดยสุจริต และได้แจ้งให้คณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทยทราบก่อนที่จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย
13.ไม่เป็นกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย เว้นแต่ เป็นผู้บริหารซึ่งเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง
คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง
1.มีคุณวุฒิการศึกษาไม่ตํ่ากว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่าจากสถานศึกษาที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) รับรอง
2.เป็นผู้ที่มีความรอบรู้ ความชำนาญ และประสบการณ์ในด้านการบริหารองค์กรขนาดใหญ่ ดังนี้
-กรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารจากหน่วยงานภาคเอกชน ต้องดำรงตำแหน่งไม่ตํ่ากว่าระดับรองผู้บริหารระดับสูงสุดของหน่วยงานที่มีรายไดไม่ตํ่ากว่า 7,000 ล้านบาท/ปี
-กรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารส่วนราชการ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐต้องดำรงตำแหน่งไม่ตํ่ากว่ารองอธิบดี หรือรองหัวหน้าส่วนราชการ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ที่เทียบเท่ารองอธิบดี
-กรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ ต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับรองผู้บริหารระดับสูงสุดขององค์กร ที่มีรายได้ต่ำกว่า 7,000 ล้านบาท/ปี
3.มีความรู้และจัดเจนเกี่ยวกับการรถไฟ การขนส่ง วิศวกรรม พาณิชยกรรม การเศรษฐกิจ หรือการเงิน
4.มีวิสัยทัศน์และแนวคิดในการพัฒนากิจการรถไฟ และการบริหารสินทรัพย์ให้เจริญก้าวหน้า มีความทันสมัย สามารถตอบสนองความต้องการขนส่งระบบรางทั้งภายในและระหว่างประเทศเพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่สะดวก ตรงต่อเวลา และปลอดภัย รวมถึงมีวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการบริหารจัดการและกำกับดูแลกิจการที่ดี ให้บรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ขององค์กร
5.มีแนวคิดในการจัดโครงสร้างองค์กรยุคใหม่ให้สามารถปฏิบัติงานตอบสนองนโยบายของรัฐบาลอย่างมีประสิทธิภาพและให้เกิดประสิทธิผลมีคุณธรรม และจริยธรรมของนักบริหาร และมีประสบการณ์และแนวคิดในการบริหารบุคลากรในองค์กรขนาดใหญ่
6.มีบุคลิกภาพดี มีภาวะผู้นำ มีความรอบรู้ ไหวพริบ ปฏิภาณและมีความสามารถสูงในการตัดสินใจ สั่งการ และบริหารตามนโยบายที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทยได้เป็นอย่างดีและมีประสิทธิภาพ มีมนุษย์สัมพันธ์อันดี สามารถติดต่อประสานงานได้ดีทั้งในประเทศและต่างประเทศ
สำหรับตำแหน่งผู้ว่ารฟท. มีวาระการดำรงตำแหน่งตามสัญญาจ้างคราวละไม่เกิน 4 ปีและอยู่ในวาระได้ไม่เกินอายุ 60 ปีบริบูรณ์ แล้วแต่กรณีใดจะถึงก่อน ระหว่างดำรงตำแหน่งจะมีการประเมินผลการทำงานอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือตามที่กำหนดไวิในสัญญาจ้าง ทั้งนี้ ผลการประเมินการทำงานของผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยทุกครั้งถือเป็นเด็ดขาด
ทั้งนี้ หากผู้สมัครที่ได้รับการคัดเลือกเป็นผู้ว่ารฟท.ยังคงดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารหรือพนักงานของรัฐวิสาหกิจ หรือผู้บริหารภาคเอกชน หรือเป็นข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้าง ซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำของราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถิ่น หรือหน่วยงานอื่นของรัฐผู้นั้นต้องลาออกจากตำแหน่งหน้าที่ดังกล่าวให้เสร็จสิ้นภายใน 14 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากการรถไฟแห่งประเทศไทย มิฉะนั้นจะถือว่าผู้นั้นสละสิทธึ๋ในการทำสัญญาจ้างกับการรถไฟแห่งประเทศไทย
ผู้สมัครสามารถ Download แบบฟอร์มใบสมัคร ใบรับรองคุณสมบัติของตนเองและหนังสือยินยอมการตรวจสอบประวัติบุคคได้ที่ www.railway.co.th หรือติดต่อขอรับแบบฟอร์มใบสมัคร ใบรับรองคุณสมบัติของตนเอง และหนังสือยินยอมการตรวจสอบประวัติบุคคล หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กองการบุคคล ฝ่ายทรัพยากรบุคคล การรถไฟแห่งประเทศไทย เลขที่ 1 ถนนรองเมือง เขตปทุมวัน กทม. 10330 โทรสายตรง 089-427-4764
ในการยื่นใบสมัคร ใบรับรองคุณสมบัติ เอกสารหลักฐานอื่น ๆ ในการสมัคร ให้ยื่นจำนวน 6 ชุด แบ่งเป็นด้นฉบับ 1 ชุด พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง 4 ชุด) และหนังสือให้ความยินยอมการตรวจสอบประวัติบุคคลพร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประซาซน จำนวน 4 ชุด ใส่ในซองต้นฉบับ ให้ครบถ้วน โดยมาสมัครด้วยตนเองหรือจัดส่งเอกสารการสมัครทางไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS โดยใส่ซองปิดผนึกและลงซื่อกำกับด้วย ถึงประธานกรรมการสรรหาผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย. - 28 พ.ค. 2567 ในวันและเวลาราชการระหว่างเวลา 08.30 - 16.30 น.
@ตั้ง ‘จเร’ รักษาการผู้ว่ารถไฟ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบัน นายนิรุฒ มณีพันธ์ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่ารฟท.ไปเมื่อวันที่ 23 เม.ย. 2567 ที่ผ่านมา โดยที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.ได้พิจารณาให้นายจเร รุ่งฐานีย รองผู้ว่าการ รฟท. ทำหน้าที่รักษาการผู้ว่าการ รฟท. แทน โดยนายจเรจะรักษาการผู้ว่าการ รฟท.ตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย. 2567 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีผู้ว่าการ รฟท.คนใหม่
เนื่องจาก นายจเร ถือเป็นรองผู้ว่าฯ รฟท.ที่มีอาวุโสสูงสุด และเป็นผู้มีความเหมาะสมในภาวะที่ รฟท.มีโครงการเร่งด่วนที่ต้องผลักดันให้เดินหน้าไปตามแผนงานและนโยบาย ซึ่งงานเร่งด่วนส่วนใหญ่อยู่ภายใต้การกำกับของนายจเร ในฐานะรองผู้ว่าฯรฟท.อยู่แล้ว
จเร รุ่งฐานีย รองผู้ว่าการ รฟท. ทำหน้าที่รักษาการผู้ว่าการ รฟท. แทน
ที่มาภาพ: Facebookรถไฟทางคู่ เด่นชัย เชียงราย เชียงของ