เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'นงนชุ เครือศรี' พวก อดีตนายกเทศมนตรีตำบลท่าศาลา เชียงใหม่ รับเงินเอกชนเป็นค่าใช้จ่ายเดินทางไปศึกษาดูงานของผู้บริหารฯ ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 5 พิพากษาลงโทษจำคุก 8 เดือน แต่รอลงอาญา 2 ปี -ป.ป.ช.ขออทุธรณ์สู้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายศิริพัฒน์ กาวิละ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลท่าศาลา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่กับพวก รับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากบริษัทเอกชนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปศึกษาดูงานตามโครงการศึกษาดูงานพัฒนาการบริหารงานของผู้บริหารเทศบาลตำบลท่าศาลาเมื่อปี พ.ศ. 2556 ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตาม พ.ร.ป. ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 103 ประกอบ มาตรา 122 (ปัจจุบันเป็นความผิดตาม พ.ร.ป. ป.ป.ช.พ.ศ. 2561 มาตรา 128 ประกอบมาตรา 168) และประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรื่องหลักเกณฑ์การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด โดยธรรมจรรยาของเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ. 2543 ข้อ 5 (2) ตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 เม.ย.2565
โดยคดีนี้ ปรากฏชื่อ นางนงนชุ เครือศรี เป็นจำเลยเพียงรายเดียว
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 7 มี.ค.2567 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 มีคำพิพากษาว่า นางนงนชุ เครือศรี จำเลยมีความผิดตามกฎหมาย ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 8 เดือน ปรับ 8,000 บาท
รอการลงโทษมีกำหนด 2 ปี
อย่างไรก็ดี คดีนี้ยังไม่สิ้นสุดจำเลย มีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 27 พ.ค.2567 ได้พิจารณาแล้วมีมติให้อุทธรณ์คำพิพากษาประเด็นรอการลงโทษจำเลย
สำหรับ พ.ร.ป. ป.ป.ช.พ.ศ. 2561 มาตรา 128 ระบุว่า ห้ามมิให้เจ้าพนักงานของรัฐผู้ใดรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคํานวณเป็นเงินได้จากผู้ใด นอกเหนือจากทรัพย์สินหรือประโยชน์อันควรได้ตามกฎหมาย กฎ หรือข้อบังคับที่ออกโดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย เว้นแต่การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด โดยธรรมจรรยาตามหลักเกณฑ์และจํานวนที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กําหนด
ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับกับการรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากบุพการี ผู้สืบสันดานหรือญาติที่ให้ตามประเพณีหรือตามธรรมจรรยาตามฐานานุรูป
บทบัญญัติในวรรคหนึ่งให้ใช้บังคับกับการรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดของผู้ซึ่งพ้นจากการเปนเจ้าพนักงานของรัฐมาแล้วยังไม่ถึงสองปีด้วยโดยอนุโลม
ข่าวในหมวดเดียวกัน
- โทษหนัก! คุก 15 ปี 20 ด.อดีตผอ.กองสาธารณสุข เทศบาลฯ นครชุม เบิกค่าน้ำมันรถขยะเท็จ
- คดีทุจริตจีที 200 ระนอง คุก 2 ปี 5 ราย ยกฟ้อง 3 'ป.ป.ช.-อสส.' เห็นพ้องอุทธรณ์สู้
- ยกฟ้อง! 'โสฬส'อดีตเอ็มดี SME BANK ไม่ยุติโครงการชะลอเลิกจ้างแรงงาน-ป.ป.ช.ขออุทธรณ์สู้
- เป็นทางการ! แพร่มติ ป.ป.ช.เสียงเอกฉันท์ ไม่อุทธรณ์ คดี 'ยิ่งลักษณ์' โยกย้าย 'ถวิล'
- รอลงอาญา! คุก 2 ปี 6 ด. อดีตนายกเทศฯ หนองจิก ทุจริตซื้อถุงยังชีพโควิด
- คุก 168 ปี ลดเหลือ 50! อดีตผู้ว่าคดี รฟท.สารภาพไม่หักล้างส่งคืนเงินทดรองจ่ายตามระเบียบ
- คุก 3 ปี 4 ด.! อดีตนายกเทศฯโพนางดำออก-พวก เบิกจ่ายเงินโครงการทัศนศึกษาผู้บริหารฯ เท็จ
- พิพากษากลับ! ให้จำคุก 3 ปี 6 ด.36 วัน อดีตนายช่างรังวัดที่ดิน เรียกเงินแลกออกโฉนดเร็ว
- คุก10 ปี! ศาลตัดสินแล้วคดี วิศวกร สพฐ.ซี 9 โดนจับสดเรียกเงินใต้โต๊ะผู้รับเหมา 6 แสน