ป.ป.ช.เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'ชัชวาล แสงสุข' อดีตผู้ว่าคดี รฟท. เบิกเงินทดรองจ่ายใช้ในการดำเนินคดีแล้วไม่ทำการหักล้างส่งคืนภายในเวลาตามระเบียบ ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบกลาง พิพากษาลงโทษจำคุก 168 ปี รับสารภาพ ลดเหลือ 50 ปี ชดใช้เงินคืน 746,412 บาท
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายชัชวาล แสงสุข เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าคดีผู้ช่วยและผู้ว่าคดีการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เบิกเงินทดรองจ่ายเพื่อใช้ในการดำเนินคดีแล้วไม่ทำการหักล้างหรือส่งคืนเงินทดรองที่ยืมไป ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับเงินยืมทดรองไป ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 157 และ ตาม พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตาม พ.ร.ป. ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 มาตรา 172) ประกอบ ป.อ. มาตรา 91 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 มี.ค.2565
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 15 มี.ค.2567 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษา ว่า นายชัชวาล แสงสุข จำเลย มีความผิดตามกฏหมาย รวม 36 กระทง ลงโทษจำคุก 168 ปี
จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 เมื่อรวมโทษจำคุกจำเลยทุกกระทงแล้ว ให้จำคุก 50 ปี
ให้คืนหรือใช้เงินจำนวน 746,412 บาท แก่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ผู้เสียหาย
อย่างไรก็ดี คดีนี้ยังไม่สิ้นสุดจำเลย มีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 27 พ.ค.2567 ได้พิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบตามที่อัยการสูงสุด (อสส.) หารือไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เห็นควรไม่อุทธรณ์คำพิพากษา
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท
มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข่าวในหมวดเดียวกัน
- โทษหนัก! คุก 15 ปี 20 ด.อดีตผอ.กองสาธารณสุข เทศบาลฯ นครชุม เบิกค่าน้ำมันรถขยะเท็จ
- คดีทุจริตจีที 200 ระนอง คุก 2 ปี 5 ราย ยกฟ้อง 3 'ป.ป.ช.-อสส.' เห็นพ้องอุทธรณ์สู้
- ยกฟ้อง! 'โสฬส'อดีตเอ็มดี SME BANK ไม่ยุติโครงการชะลอเลิกจ้างแรงงาน-ป.ป.ช.ขออุทธรณ์สู้
- เป็นทางการ! แพร่มติ ป.ป.ช.เสียงเอกฉันท์ ไม่อุทธรณ์ คดี 'ยิ่งลักษณ์' โยกย้าย 'ถวิล'
- รอลงอาญา! คุก 2 ปี 6 ด. อดีตนายกเทศฯ หนองจิก ทุจริตซื้อถุงยังชีพโควิด