‘ธรรมนัส’ สั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงประเด็น ‘โคบาลชายแดนใต้’ ชี้หากประชาชนมีคามเดือดร้อนแจ้งมาได้ ด้าน ‘ปศุสัตว์’ แจงกรณีแม่โคผอมโซ เพราะขนส่งช่วงหน้าฝนทำแม่โคเครียดจนผอม
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 25 มกราคม 2567 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กรณีมีการนำเสนอข่าว โครงการโคบาลชายแดนใต้ พบแม่พันธุ์วัวไม่ตรงกับสัญญาและคุณลักษณะเฉพาะ ไม่ตรงตามที่กำหนด จึงทำให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการโคบาลชายแดนใต้ในโครงการนำร่อง เริ่มกังวลใจ บางรายจำเป็นต้องขายวัวสภาพที่ไม่สมบูรณ์ ดีกว่าปล่อยให้ตายก็จะขาดทุน ทำให้ได้ราคาต่ำกว่าเกณฑ์ อีกทั้งยังมีปัญหาต้นทุนเลี้ยงวัวสูง ทั้งอาหารและยารักษาโรค เพราะแม่พันธุ์วัวที่ได้รับการส่งมอบ 50 ตัวต่อกลุ่ม น้ำหนักไม่ได้ตามเกณฑ์ที่สัญญาไว้ และบางตัวติดโรค ทำให้ขณะนี้มีผลกระทบให้เกษตรกรที่จะเข้าร่วมโครงการฯ ในระยะที่ 2 ซึ่งมีเป้าหมายจะขยายเป็น 400 กลุ่ม เริ่มไม่มั่นใจจะเข้าร่วมโครงการดังกล่าวนั้น ในเรื่องนี้เมื่อทราบเรื่อง ตนเองไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะถือเป็นความเดือดร้อนของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการโดยตรง
ดังนั้น จึงได้สั่งการให้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการโคบาลชายแดนใต้อย่างเร่งด่วน โดยมีนายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธาน และให้รายงานผลการตรวจสอบต่อตนเองอย่างต่อเนื่องโดยเร็ว
สำหรับโครงการนี้ เท่าที่ตนเองได้รับรายงานเบื้องต้น ทางศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ กพต.มีข้อเสนอการดำเนินการกิจกรรมโคบาลชายแดนใต้ ภายใต้โครงการเมืองปศุสัตว์ภายใต้กรอบระเบียบเศรษฐกิจฮาลาลจังหวัดชายแดนภาคใต้ ระยะ 7 ปี (พ.ศ. 2565-2571) ระยะที่ 2 เพื่อพิจารณามอบหมายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ปรับปรุงคู่มือการดำเนินงานให้สอดรับวิถีชีวิตการประกอบอาชีพของประชาชนในพื้นที่ และดำเนินการในระยะนำร่องตั้งแต่เมษายน 2566
"ผมได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว และได้ตระหนักถึงความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกรที่ร่วมโครงการ จึงต้องรีบตั้งกรรมการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน เพื่อหาข้อเท็จจริงและแก้ปัญหา หากเกษตรกร หรือประชาชนท่านใดมีข้อมูลหรือได้รับความเดือดร้อนขอให้แจ้งมาที่คณะกรรมการตรวจสอบของกระทรวงเกษตรฯ เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาให้ทันท่วงที"ร.อ.ธรรมนัส กล่าวย้ำ
นายสัตวแพทย์ประภาส ภิญโญชีพ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์
@ปศุสัตว์ ตั้งกก.สอบ
ด้านนายสัตวแพทย์ประภาส ภิญโญชีพ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า กรมปศุสัตว์จะตั้งคณะกรรมการไปตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่ปรากฏข่าวว่า การจัดหาแม่โคในโครงการ “โคบาลชายแดนใต้” ไม่ตรงกับที่กำหนดในคุณลักษณะเฉพาะของแม่โคเนื้อในโครงการ โดยมีลักษณะซูบผอม เพื่อให้ทราบว่า การจัดหาพันธุ์สัตว์ในโครงการมีปัญหาอุปสรรคใด หรือมีข้อบกพร่องตรงไหน ตามข้อสั่งการของร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตรวจติดตามและประเมินผลทุกโครงการที่ดำเนินงานเพื่อเร่งแก้ปัญหาให้เกษตรกรอย่างทันท่วงที อีกทั้งเพื่อให้เกษตรกรได้รับประโยชน์สูงสุดตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
สำหรับโครงการ “โคบาลชายแดนใต้” กรมปศุสัตว์ดำเนินการร่วมกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และกระทรวงมหาดไทย ภายใต้โครงการเมืองปศุสัตว์ตามกรอบระเบียงเศรษฐกิจ ฮาลาลจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อสร้างรายได้และชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยยืมเงินจากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร กรอบวงเงิน 1,566.20 ล้านบาท การดำเนินงานแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ปัจจุบันอยู่ในระยะนำร่อง เกษตรกร 60 กลุ่ม แม่โคพื้นเมือง 3,000 ตัว เงินกู้ยืม 93 ล้านบาท และเงินจ่ายขาด 1.20 ล้านบาท
สำหรับกิจกรรมที่สำคัญในโครงการ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนในหมู่บ้านจะได้รับการสนับสนุนเงินกู้ยืมจากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรเพื่อจัดหาปัจจัยการผลิตในระดับต้นน้ำ กลุ่มละ 1.55 ล้านบาท เพื่อดำเนินกิจกรรม 4 กิจกรรม ดังนี้
1. จัดทำแปลงพืชอาหารสัตว์ กลุ่มละไม่น้อยกว่า 20 ไร่ เงินกู้ยืม 100,000 บาท
2. ก่อสร้างโรงเรือนเลี้ยงโคเนื้อ (คอกกลาง) จำนวน 1 โรงเรือน เงินกู้ยืม 350,000 บาท
3. จัดหาแม่โคพื้นเมือง จำนวน 50 ตัว ตัวละไม่เกิน 17,000 บาท เงินกู้ยืม 850,000 บาท
4. การจ้างเจ้าหน้าที่ฟาร์ม จำนวนไม่เกิน 3 คน เงินกู้ยืม 250,000 บาท
สำหรับกรณีกลุ่มเกษตรกรจังหวัดปัตตานีบางกลุ่มร้องเรียนว่า “แม่โคพื้นเมืองที่ส่งมอบให้กลุ่มมีลักษณะซูบผอม น้ำหนักไม่ตรงกับที่กำหนดในคุณลักษณะเฉพาะของแม่โคเนื้อในโครงการ” กรมปศุสัตว์ขอชี้แจงว่า การจัดหาพันธุ์สัตว์ในโครงการที่ใช้เงินนอกงบประมาณกล่าวคือ เป็นเงินกู้ของเกษตรกรจากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร ได้ดำเนินการตามหลักการที่สำคัญคือ การให้กลุ่มเกษตรกรเป็นผู้จัดหาพันธุ์สัตว์เองตามคุณลักษณะเฉพาะที่กรมปศุสัตว์กำหนด โดยกำหนดสายพันธุ์ อายุ น้ำหนักตัว สุขภาพสัตว์ การได้รับวัคซีน และการตรวจโรคที่สำคัญ พร้อมเงื่อนไขการรับประกันหากไม่ถูกต้องตามที่กำหนดผู้ขายจะต้องเปลี่ยนตัวสัตว์ใหม่ให้แก่เกษตรกร
@แม่โคผอม เพราะส่งมอบช่วงหน้าฝน
ส่วนข้อร้องเรียนของเกษตรกรตามที่ปรากฏข่าว กรมปศุสัตว์ได้ให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ตรวจสอบสาเหตุเบื้องต้น พบว่า ช่วงระยะเวลาที่ได้ทยอยส่งมอบและตรวจรับแม่โคตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2566 ถึงเดือนมกราคม พ.ศ. 2567 เป็นช่วงเวลาที่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ประสบสภาวะฝนตกอย่างต่อเนื่องและมีน้ำท่วมขังซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์บางส่วนของโครงการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยแม่โคมีความเครียด ได้รับอาหารไม่เพียงพอ และบางตัวป่วย
กรมปศุสัตว์ได้ช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยเร่งฟื้นฟูสุขภาพแม่โคเนื้อที่ได้รับผลกระทบตามหลักวิชาการ ให้วิตามิน และอาหารเสริมแก่แม่โคพื้นเมืองเพื่อให้มีสุขภาพสมบูรณ์โดยเร็ว กรณีที่กลุ่มเกษตรกรมีความประสงค์ขอเปลี่ยนตัวสัตว์ตามเงื่อนไขข้อกำหนดของโครงการ กรมปศุสัตว์ได้แจ้งให้ผู้ประกอบการหรือผู้ขายดำเนินการเปลี่ยนตัวสัตว์ให้ใหม่ซึ่งได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดปัตตานีเรียบร้อยแล้ว สำหรับกลุ่มเกษตรกรระยะนำร่องในจังหวัดอื่นจะได้ตรวจสอบ หากพบปัญหาลักษณะเดียวกัน จะช่วยเหลือฟื้นฟูสุขภาพสัตว์โดยเร่งด่วนต่อไป
รองอธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า กรมปศุสัตว์จะตั้งคณะกรรมการไปตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยร่วมกับศอ.บต. และกระทรวงมหาดไทยเพื่อให้ทราบแน่ชัดว่า มีปัญหาอุปสรรคอื่นใดอีกหรือไม่ หากกรณีที่เกิดขึ้น มาจากความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด อีกทั้งจะร่วมกับหน่วยงานต่างๆ จัดตั้งคณะกรรมการตรวจติดตามและประเมินผลโครงการเป็นระยะๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อเกษตรกรตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
อ่านประกอบ