เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'สันติ ไชยยศ' อดีตรองนายก อบจ.สกลนคร มีส่วนได้เสียดำเนินโครงการฯ ตั้งแต่ปี 2552 - 2556 ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 4 พิพากษาลงโทษจำคุก 30 ปี -พวก 1 ราย โดน 20 ปี หลังรับสารภาพ แต่ได้รอลงอาญา -ป.ป.ช.ขออุทธรณ์สู้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายสันติ ไชยยศ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สกลนคร กับพวก คือ นางสาวปวีณา ว่านสุวรรณา หรือนางปวีณา ไชยยศ มีส่วนได้เสียในการดำเนินโครงการของ อบจ.สกลนคร ตั้งแต่ปี 2552 - 2556 ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา 152, 157 ประกอบมาตรา 86 มาตรา 90 และ 91 พ.ร.ป.ป.ป.ช. มาตรา 100 วรรคหนึ่ง (1) (2) และ (4) ประกอบมาตรา 103/1 และ 122 พ.ร.ป.ป.ป.ช. มาตรา 123/1 , 192 ประกอบ มาตรา 90 และมาตรา 91 และพ.ร.บ.อ.บ.จ. มาตรา 44/3 (3) ตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 2564
ล่าสุด เมื่อวันที่ 20 ม.ค.2566 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 มีคำพิพากษาว่า นายสันติ ไชยยศ จำเลยที่ 1 และ นางสาวปวีณา ว่านสุวรรณา หรือนางปวีณา ไชยยศ จำเลยที่ 2 มีความผิดตามกฎหมาย เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรม
ลงโทษ นายสันติ ไชยยศ จำเลยที่ 1 จำคุก 3 ปี และปรับ 18,000 บาท รวม 20 กระทง เป็นจำคุก 60 ปี และปรับ 360,000 บาท
ลงโทษ นางสาวปวีณา ว่านสุวรรณา หรือนางปวีณา ไชยยศ จำเลยที่ 2 จำคุก 2 ปี และปรับ 12,000 บาท รวม 20 กระทง เป็นจำคุก 40 ปี และปรับ 240,000 บาท
จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษกึ่งหนึ่งตาม ป.อ.มาตรา 78
คงลงโทษ จำเลยที่ 1 จำคุก 30 ปี และปรับ 180,000 บาท
คงลงโทษ จำเลยที่ 2 จำคุก 20 ปี และปรับ 120,000 บาท
โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี
ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งสอง มีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 12 ก.ค.2566 ได้พิจารณาแล้วมีมติเห็นควรอุทธรณ์คำพิพากษา
สำหรับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท
มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2566 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง พิพากษาลงโทษ นายสันติ ไชยยศ รองนายก อบจ.สกลนคร จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไป และลงโทษจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษเหลือจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท
ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยรับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สั่งจำคุก 5 ปี อดีตผอ.คุมประพฤติชลบุรี เรียกรับเงินอนุญาตยื่นคำร้องปล่อยตัวผู้กระทำผิด
- สั่งจำคุก 2 ปี 16 ด. อดีตนายก อบต.บางประแดง ใช้อำนาจบังคับพนง.ลาออกราชการโดยมิชอบ
- ไม่รอลงอาญา! คุกคนละ 2 ปี 'อยุทธ์' อดีตอธิบดีปศุสัตว์-พวก เสนอชื่อแต่งตั้งขรก.มิชอบ
- คดีที่ 3 รอด! ป.ป.ช.ตีตกข้อกล่าวหา อดีตนายก อบต.อมก๋อย เอื้อลูกได้งานสร้างศูนย์เด็ก
- โดนคุกอีก 5 ปี! คดีที่ 3 อดีตผอ.สนง.ทรัพยากรฯยะลา เรียกเงินค่าคุ้มครองผู้ประกอบ
- รายล่าสุด! คดีรถหลวง รอลงอาญา คุก 2 ปี 6 ด. อดีตปศุสัตว์ศรีสะเกษ -พ่วงย้ายลูกจ้างมิชอบ
- สั่งจำคุก 1 ปี อดีตนายกเทศฯ แก่งเสือเต้น ช่วยเหลือพวกพ้องแต่งตั้งเป็นพนง.จ้าง มิชอบ
- ยืนโทษ! คุก 2 ปี 6 ด. อดีตนายก อบต.ไทยเจริญ บุรีรัมย์ ทุจริตซื้อปุ๋ยอินทรีย์ สกสค.