โดนคดีที่ 3 ! ป.ป.ช. เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'สมาน สะแต' อดีตผอ.สนง.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ยะลา เรียกเงินค่าคุ้มครองจากผู้ประกอบรายเดือน ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 9 พิพากษาลงโทษจำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา นับโทษต่อคดีเดิมด้วย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายสมาน สะแต เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดยะลา เรียกรับเงินในลักษณะเป็นค่าดูแลหรือค่าคุ้มครองจากผู้ประกอบกิจการค้าไม้เป็นรายเดือน ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 , 157 และตาม พ.ร.บ. ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 มาตรา 123/1 ประกอบ พ.ร.บ. ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 มาตรา 192 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 2563
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2566 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 มีคำพิพากษาว่า นายสมาน สะแต จำเลยมีความผิดตาม มาตรา 148 (เดิม) พ.ร.ป. ป.ป.ช. พ.ศ.2542 มาตรา 123/1
การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 148 (เดิม) ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตาม มาตรา 90
จำคุก 5 ปี
ให้นับโทษต่อจากโทษจำคุกของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำ ที่ อท 56/2563 หมายเลขแดงที่ 6/2565 และคดีอาญาหมายเลขดำที่ อท 57/2563 หมายเลขแดงที่ 9/2565 ของศาลนี้ตามลำดับ
ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 5 ก.ค.2566 ได้พิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบตามที่อัยการสูงสุด (อสส.) หารือไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 เห็นควรไม่อุทธรณ์คำพิพากษา
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือประหารชีวิต
คดีนี้ นับเป็นคดีที่ 3 ของ นายสมาน สะแต ที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดทางอาญา และส่งเรื่อง อสส.ฟ้องร้องดำเนินคดีตามขั้นตอนทางกฎหมาย
คดีแรก เรียกรับสินบนเพื่อแลกกับการออกหรือต่อใบอนุญาตโรงงานแปรรูปไม้ในยะลา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 มีคำพิพากษาจำคุกนายสมาน สะแต 83 กรรม จำคุกรวมสูงถึง 415 ปี แต่กำหนดโทษจริง 50 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
คดีสอง ต่อใบอนุญาตตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยใช้เครื่องจักร โดยมิชอบ ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 ให้จำคุก 2 ปี
เท่ากับว่า นายสมาน สะแต โดนโทษ 3 คดี คดีแรก 415 ปี (ติดจริง 50 ปี) คดีสอง 2 ปี และคดีสาม 5 ปี)
ขณะที่ จำเลย มีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สั่งจำคุก 5 ปี อดีตผอ.คุมประพฤติชลบุรี เรียกรับเงินอนุญาตยื่นคำร้องปล่อยตัวผู้กระทำผิด
- สั่งจำคุก 2 ปี 16 ด. อดีตนายก อบต.บางประแดง ใช้อำนาจบังคับพนง.ลาออกราชการโดยมิชอบ
- ไม่รอลงอาญา! คุกคนละ 2 ปี 'อยุทธ์' อดีตอธิบดีปศุสัตว์-พวก เสนอชื่อแต่งตั้งขรก.มิชอบ
- คดีที่ 3 รอด! ป.ป.ช.ตีตกข้อกล่าวหา อดีตนายก อบต.อมก๋อย เอื้อลูกได้งานสร้างศูนย์เด็ก