3 กรรมการ กสทช. “ธนพันธุ์-ศุภัช-พิรงรอง’ ส่งหนังสือถึง ‘ประธาน กสทช.’ ค้านประกาศรับสมัคร ‘เลขาธิการ กสทช.’ ชี้เป็นการออกประกาศโดยไม่ชอบ ระบุให้อำนาจ 'ประธานฯ' คัดเลือกเพียงคนเดียว อาจทำให้เกิดการใช้ดุลพินิจตามอำเภอใจ
.....................................
จากกรณีที่ นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ลงนามประกาศประธาน กสทช. เรื่อง รับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กสทช. โดยให้ผู้สนใจยื่นใบสมัครเพื่อเข้ารับการคัดเลือกเป็นเลขาธิการ กสทช. ตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค.-7 เม.ย.2566 นั้น (อ่านประกอบ : เมินเสียงค้าน! 'กสทช.'เปิดรับสมัคร'เลขาธิการ'คนใหม่ 20 มี.ค.-7 เม.ย.-'ประธาน'คัดเลือกเอง)
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา กรรมการ กสทช. 3 ราย ได้แก่ พล.อ.ท.ดร.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ ,รศ.ดร.ศุภัช ศุภชลาศัย และศ.ดร.พิรงรอง รามสูต ได้ทำหนังสือถึง นพ.สรณ ในฐานะประธาน กสทช. โดยแสดงความเห็นว่า ประกาศประธาน กสทช. เรื่อง รับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กสทช. ดังกล่าว เป็นประกาศที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ทั้งนี้ เนื่องจากในการออกประกาศประธาน กสทช. เรื่อง การรับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กสทช. ซึ่งได้อ้างถึงมาตรา 61 แห่ง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ และมติที่ประชุม กสทช. นัดพิเศษ ครั้งที่ 5/2566 นั้น เป็นการอ้างที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะมติที่ประชุม กสทช. นัดพิเศษ ครั้งที่ 5/2566 ยังมีประเด็นที่ยังไม่ได้ข้อยุติ เพราะมีกรรมการ กสทช. คัดค้านตั้งแต่การเสนอระเบียบวาระไปจนถึงการบันทึกมติที่ประชุมว่าดำเนินการไม่ถูกต้อง
ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาเนื้อหาของประกาศฯแล้ว เชื่อว่าอาจทำให้กระบวนการสรรหาเลขาธิการ กสทช. ไม่โปร่งใส ไม่เป็นธรรม และไม่สามารถตรวจสอบการใช้ดุลพินิจได้ เพราะในข้อ 9 ของประกาศฯ ที่กำหนดเรื่อง “หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกและการประกาศผลการคัดเลือก” นั้น ไม่ได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์และกรอบการให้คะแนนไว้ และยังให้ประธาน กสทช. มีอำนาจในการดำเนินการคัดเลือกเพียงคนเดียว จึงอาจส่งผลให้เกิดการใช้ดุลพินิจตามอำเภอใจได้
นอกจากนี้ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ มาตรา 61 ได้บัญญัติว่า ให้ประธาน กสทช. โดยความเห็นของ กสทช. เป็นผู้แต่งตั้งและถอดถอนเลขาธิการ กสทช. เท่านั้น โดยไม่ได้ให้อำนาจประธาน กสทช. ในการออกประกาศหรือระเบียบเกี่ยวกับการสรรหาเลขาธิการ กสทช. แต่อย่างใด ดังนั้น การที่ประธาน กสทช. ออกประกาศ เรื่อง การรับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กสทช. จึงเป็นการดำเนินการที่ไม่มีอำนาจและไม่ชอบด้วยกฎหมาย
หนังสือของกรรมการ กสทช. ทั้ง 3 ราย ยังระบุด้วยว่า เนื่องจากเมื่อวันที่ 19 มี.ค.2566 ที่ผ่านมา ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง รศ.สมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ ให้ดำรงตำแหน่ง กสทช. ตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค.2566 ดังนั้น รศ.สมภพ จึงควรมีสิทธิในการกำหนดหลักเกณฑ์และกระบวนการสรรหาเลขาธิการ กสทช. รวมถึงคุณสมบัติอื่นของผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กสทช.ด้วย
สำนักข่าวอิศรารายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา นายอิทธิพล แสงสุรินทร์ หัวหน้าสำนักงาน ส.ปิยะธรรม ทนายความ เข้ายื่นหนังสือถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของ นพ.สรณ ในฐานะประธาน กสทช. ที่กำหนดวิธีการสรรหาเลขาธิการ กสทช. คนใหม่ อย่างไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่โปร่งใส ขัดต่อหลักกฎหมายและระเบียบปฏิบัติที่ต้องมีธรรมาภิบาลที่ดีขององค์กรอิสระ
โดยหนังสือของนายอิทธิพลได้อ้างถึงพฤติการณ์ของ นพ.สรณ ว่า นพ.สรณ ในฐานะประธาน กสทช. ได้ออกประกาศเรื่องการเปิดรับสมัครเลขาธิการ กสทช. โดยให้ประธาน กสทช. มีอำนาจในการคัดเลือกเลขาธิการ กสทช.แต่เพียงผู้เดียว และให้บอร์ด กสทช. มีหน้าที่เพียงเห็นชอบเท่านั้น ซึ่งแตกต่างจากสรรหาเลขาธิการ กสทช. เมื่อปี 2554 ที่ กรรมการ กสทช. ทุกคนมีสิทธิ์และมีส่วนร่วมในกระบวนการอย่างเท่าเทียมกัน
อีกทั้งในการประชุม กสทช. นัดพิเศษ ครั้งที่ 5/2566 เรื่อง พิจารณากำหนดคุณสมบัติอื่นของผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กสทช. นั้น นพ.สรณ ได้เสนอต่อที่ประชุมว่า ประธาน กสทช. จะเป็นผู้เสนอชื่อผู้ที่ผ่านคุณสมบัติในการสมัครเลขาธิการแต่เพียงผู้เดียว โดยอ้างอิงถึง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ มาตรา 61 ที่ว่า ให้ประธานกรรมการ โดยความเห็นชอบของ กสทช. เป็นผู้แต่งตั้งและถอดถอนเลขาธิการ กสทช.
อย่างไรก็ตาม เมื่อที่ประชุมมีความเห็นไม่ตรงกันและต้องใช้วิธีการโหวตลงคะแนนเสียง ซึ่งในการลงคะแนนของคณะกรรมการ กสทช. ในเรื่องดังกล่าว ปรากฏว่าคะแนนเสียงเท่ากันที่ 3:3 แต่ประธาน กสทช. ได้ออกเสียงซ้ำอีกครั้ง ส่งผลให้คะแนนโหวตกลายเป็น 4:3 เพื่อให้ตนเองสามารถคัดเลือกและเสนอชื่อผู้ที่จะเป็นเลขาธิการ กสทช. ได้แต่เพียงผู้เดียว
อ่านประกอบ :
โปรดเกล้าฯแต่งตั้ง ‘รศ.สมภพ ภูริวิกรัยพงศ์’ เป็น ‘กรรมการ กสทช.’ คนที่ 7
เมินเสียงค้าน! 'กสทช.'เปิดรับสมัคร'เลขาธิการ'คนใหม่ 20 มี.ค.-7 เม.ย.-'ประธาน'คัดเลือกเอง
ให้ไปทำข้อมูลใหม่! ‘บอร์ด กสทช.’ตีกลับล้วงเงิน ‘กทปส.’ 3.5 พันล.หนุน‘โทรเวชกรรมถ้วนหน้า’
ฉบับเต็ม! เปิดหนังสือ 3 กสทช. ยก 3 ประเด็น ไม่รับ‘มติ’ให้‘ปธ.’ยึดอำนาจเลือก‘เลขาธิการฯ’
ส่อขัดกม.-มีโทษอาญา! 3 กสทช.แจ้ง‘นพ.สรณ’ ไม่รับ‘มติ’ยกอำนาจให้‘ประธาน’เลือกเลขาธิการฯ
มติบอร์ด 4:3! ‘นพ.สรณ’โหวตซ้ำคุมเบ็ดเสร็จเลือก‘เลขาฯกสทช.’-‘พิรงรอง’ชี้ส่อขัดรธน.
พิรงรอง รามสูต : ตั้งคำถามถึงความโปร่งใสในสรรหา เลขาธิการ กสทช.
197 ต่อ 9 เสียง! ‘วุฒิสภา’โหวต‘รศ.สมภพ ภูริวิกรัยพงศ์’นั่งเก้าอี้‘กรรมการ กสทช.’คนที่ 7