‘คมนาคม’ เผย 6 โปรเจ็กต์ใหญ่ มูลค่ารวม 102,981 ล้านบาท ยังค้างที่ ครม. หลังปรากฎชัดไทม์ไลน์ยุบสภาเกิดในเดือน มี.ค. 2566 เล็งหารือปลัดทำแผนผลักดันกรณีรัฐบาลรักษาการ ‘ศักดิ์สยาม’เผยมีหลายโครงการรอคิวอนุมัติ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 จากกรณีที่นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2566 ถึงไทม์ไลน์การเลือกตั้งและการได้มาซึ่งรัฐบาลใหม่
โดยตอนหนึ่งของการแถลงระบุว่า อำนาจหน้าที่ของรัฐบาลรักษาการ ข้าราชการการเมืองยังทำงานตามปกติ จะพ้นตำแหน่งเมื่อมีการถวานสัตย์แล้วเท่านั้น หากมีการลาออกก่อน ก็ไม่กระทบกับการทำงาน การประชุม ครม. ยังสามารถทำได้ และยังปรับ ครม.รักษาการได้
แต่ ครม.รักษาการ จะไม่สามารถอนุมัติโครงการที่ผูกพันไปยังรัฐบาลต่อไปได้ เว้นแต่เป็นโครงการที่อยู่ในปีงบประมาณ, ไม่สามารถแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการได้ จะต้องเสนอให้ กกต. พิจารณา, ไม่สามารถอนุมัติงบกลางได้ เว้นแต่ กกต.อนุมัติ และไม่สามารถใช้ทรัพยากร บุคลากรของรัฐที่มีผลต่อกาสรเลือกตั้ง เช่น การจัดประชุมครม.สัญจร หรือการโอนงบแจกในโครงการต่างๆ เป็นต้นนั้น
ผู้สื่อข่าวสอบถามนายอนุชาว่า ขณะนี้มีวาระที่ค้างอยู่ในการพิจารณาของ ครม.อยู่กี่เรื่อง นายอนุชา ตอบว่า ไม่ทราบ เนื่องจากส่วนนี้เป็นอำนาจหน้าที่ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขอให้สอบถามไปทางนั้นจะดีกว่า
@ศักดิ์สยาม เผยมีหลายโครงการต่อคิว
ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในส่วนของกระทรวงมีหลายเรื่องที่ยังอยู่ในวาระ ครม. และมีอีกหลายเรื่องที่กำลังจะเสนอเข้าไป ตัวอย่างโครงการที่จะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เช่น ส่วนต่อขยายรถไฟชานเมืองสายสีแดง 3 เส้นทาง ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในฐานะหน่วยงานเจ้าของโครงการได้เสนอเรื่องมาที่กระทรวงคมนาคมแล้ว ปัจจุบัน กระทรวงกำลังรวบรวมความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงบประมาณ, สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) , สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นต้น
หรือโครงการของ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) ก็มีโครงการเปิดประมูลบริษัทให้บริการภาคพื้น (Ground Service) ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รายที่ 3 ซึ่งหากนำเสนอไม่ทันในวาระรัฐบาลชุดนี้ ต้องว่ากันไปตามระเบียบกฎหมาย โดยในประเด็นนี้ได้เสนอ ครม.ไปแล้ว อยู่ระหว่างรอความเห็นจากสภาพัฒน์
ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
@6 โครงการ 1.02 แสนล้าน ยังค้างในครม.
ด้านแหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยสำนักข่าวอิศราว่า ปัจจุบันมีแผนงานโครงการลงทุนสำคัญที่เสนอไปถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแล้ว 6 โครงการ วงเงินรวม 102,981.32 ล้านบาท ประกอบด้วย
1.โครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงรังสิต-ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ระยะทาง 8.84 กม. วงเงิน 6,468.69 ล้านบาท
2.โครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ระยะทาง 14.80 กม. วงเงิน 10,670.27 ล้านบาท
3.โครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช ระยะทาง 5.70 กม. วงเงิน 4,694.36 ล้านบาท
โครงข่ายรถไฟชานเมืองสายสีแดง ที่มาภาพ: การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)
4.โครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 เส้นทางขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 167 กม. มูลค่าโครงการ 29,748 ล้านบาท
แนวเส้นทางรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น - หนองคาย ที่มาภาพ: การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)
5.โครงการทางพิเศษสายฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี ช่วงจตุโชติ-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร รอบที่ 3 (MR 10) ระยะทาง 11.3 กม. วงเงิน 33,400 ล้านบาท
แนวเส้นทางโครงการทางพิเศษสายฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี ช่วงจตุโชติ-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร รอบที่ 3 ที่มาภาพ: การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.)
และ 6. โครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือตอน N2 ระยะทาง 11.3 กม. วงเงิน 18,000 ล้านบาท
ที่มาภาพ: กระทรวงคมนาคม
ขณะนี้ทั้ง 6 โครงการมีทั้งบรรจุอยู่ในวาระ ครม.แล้ว และอยู่ระหว่างขอความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ แต่ทั้งหมดได้เสนอไปถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแล้ว ส่วนหากรัฐบาลหมดวาระ เป็นรัฐบาลรักษาการนั้น ทางกระทรวงจะมีการหารือกันอีกครั้งถึงแผนที่จะผลักดันโครงการเหล่านี้ เพราะตามกฎหมาย การเสนอโครงการเหล่านี้จะต้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาให้ความเห็นชอบ เพราะเกี่ยวกับการใช้งบประมาณ โดยจะต้องหารือกับนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคมต่อไป
ที่มาภาพปก
- ตึกแดง 1 ที่ทำการสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่มา: สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
-ตรากระทรวงคมนาคม ที่มา: กระทรวงคมนาคม
อ่านประกอบ