คุ้ยฐานข้อมูลจัดซื้อจ้างภาครัฐ พบ บมจ.สยามพันธุ์ฯ คู่สัญญาทำโครงการน้ำปี้ 1.6 พันล. ถูก ก.คลังแจ้งเวียนรายชื่อเป็นผู้ทิ้งงานทำถนน กรมทางหลวงชนบท วงเงิน 41.6 ล้าน ตั้งแต่ช่วงเดือน มี.ค.65 แล้ว -ด้านฝ่ายกม.บริษัทฯ ยันมีปัญหาแบบเดียวกับกรมชลฯ เตรียมดำเนินการทางกฎหมายกับหน่วยงานรัฐแล้ว
สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำเสนอข่าวกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับคดีโครงการก่อสร้างเขื่อนหัวนาและอาคารประกอบอื่นในโครงการอ่างเก็บน้ำ น้ำปี้ จ.พะเยา อันเนื่องมาจากพระราชดำริ วงเงิน 2,589 ล้านบาท แต่เอกชนคู่สัญญาเสนอราคางานอยู่ที่ 1,650 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 939 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 57 ของราคากลาง ต่อมามีปัญหาเอกชนคู่สัญญาไม่สามารถดำเนินการงานได้แล้วเสร็จตามสัญญา แต่มีการเบิกจ่ายเงินงวดตามสัญญาไปแล้ว 505 ล้านบาท เมื่อสิ้นสุดสัญญากลับดำเนินงานก่อสร้างได้เพียงร้อยละ 20 และทิ้งงานในที่สุด อันเป็นเหตุให้รัฐเกิดความเสียหาย เป็นคดีพิเศษ
ขณะที่บริษัท สยามพันธุ์วัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ บมจ.สยามพันธุ์ฯ เอกชนคู่สัญญาก่อสร้างงานโครงการฯ นี้ ชี้แจงข้อมูลอีกด้านหนึ่งว่า สาเหตุของปัญหามาจากการที่กรมชลประทานไม่ยอมอนุมัติการเปลี่ยนแปลงแบบให้เหมาะสม ทั้ง ๆ ที่ในเอกสารเงื่อนไขการจัดซื้อจัดจ้าง (TOR) สามารถทำได้ นอกจากนี้ทาง บมจ.สยามพันธุ์ฯ ยังได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้เอาผิดกับเจ้าหน้าที่กรมชลประทานระดับสูงที่เกี่ยวข้องแล้วเช่นกัน ซึ่งมีกรณีการถูกเรียกรับเงินจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกรมชลประทานด้วย
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา สืบค้นฐานข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างหน่วยงานภาครัฐ พบว่า ในช่วงเดือน มี.ค.2565 บมจ.สยามพันธุ์ฯ ได้ถูกขึ้นทะเบียนรายชื่อเป็นผู้ทิ้งงาน จากการดำเนินงานโครงการก่อสร้างถนน วงเงิน 41.6 ล้านบาท ของ กรมทางหลวงชนบทไปแล้ว
โดยในหนังสือแจ้งเวียนรายชื่อเอกชน ผู้ทิ้งงานของ กระทรวงการคลัง ลงวันที่ 21 มีนาคม 2565 ระบุรายชื่อ บริษัท สยามพันธุ์วัฒนา จํากัด (มหาชน) ทะเบียนนิติบุคคลเลขที่ 0107547000923 (เดิมเลขที่ 0107574700923) และนายธีระพล หวังมนตรี กรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่
ระบุเหตุผลว่า ด้วยกรมทางหลวงชนบท แจ้งชื่อ บริษัท สยามพันธุ์วัฒนา จํากัด (มหาชน) ทะเบียนนิติบุคคล เลขที่ 0107547000923 (เดิมเลขที่ 0107574700923) เป็นผู้ทิ้งงานของกรมทางหลวงชนบท โดยสํานักงานทางหลวงชนบทที่ (เชียงใหม่) ในงานจ้างก่อสร้างถนนสายแยก ทล.1150 - บ้านแม่แวนน้อย ตําบลแวนน้อย อําเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเงินจํานวน 41,600,000 บาท ตามสัญญาเลขที่ สทช.ที่ 10/48/2560 ลงวันที่ 15 ธันวาคม 2559 เนื่องจากบริษัทฯ เป็นคู่สัญญาของหน่วยงานของรัฐ ไม่ปฏิบัติตามสัญญาโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
ปลัดกระทรวงการคลัง อาศัยอํานาจตามมาตรา 109 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติ การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหา การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ตามมาตรา 29 วรรคหนึ่ง (5) แห่งพระราชบัญญัติฯ เห็นว่า กรณีนี้ภายหลังลงนามในสัญญา บริษัท สยามพันธุ์วัฒนา จํากัด (มหาชน) ได้ลงนามในสัญญาแก้ไขเพิ่มเติม เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงเนื้องานบางส่วน
โดยปรับลดวงเงินค่าจ้างและปรับลดระยะเวลาก่อสร้าง ต่อมา บริษัทฯ ได้รับการขยายระยะเวลาจํานวน 7 วัน เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ เมื่อครบกําหนดส่งมอบงาน ตามสัญญา บริษัทฯ เพิกเฉยไม่ได้ส่งมอบงานแต่อย่างใด สํานักงานทางหลวงชนบทที่ 10 (เชียงใหม่) ได้มีหนังสือ แจ้งสิทธิการปรับและแจ้งเร่งรัดงานจ้างจํานวนหลายฉบับ ซึ่งบริษัทฯ ได้มีหนังสือแจ้งยินยอมชําระค่าปรับ และนําส่งแผนงาน แต่บริษัทฯ ยังคงเพิกเฉยไม่ได้เร่งดําเนินการแต่อย่างใด สํานักงานฯ ได้มีหนังสือแจ้งสิทธิการปรับและแจ้งเร่งรัดงานจ้าง พร้อมทั้งได้มีหนังสือเชิญประชุม แต่บริษัทฯ เพิกเฉยไม่ได้เข้าร่วมประชุม ต่อมาบริษัทฯ ได้มีหนังสือแจ้งขอขยายระยะเวลาดําเนินการอีกจํานวน 2 ครั้ง เนื่องจากติดช่วงเทศกาลปีใหม่ และเทศกาลสงกรานต์
แต่สํานักงานฯ ไม่อนุมัติตามคําร้องขอ เนื่องจากบริษัทฯ ไม่ได้เข้าดําเนินการ อย่างต่อเนื่อง และได้หยุดงานโดยไม่ชี้แจงสาเหตุจนเป็นเหตุให้เกิดความล่าช้า เมื่อบริษัทฯ ไม่สามารถ ดําเนินการให้แล้วเสร็จได้ สํานักงานฯ จึงแจ้งบอกเลิกสัญญา เมื่อเปิดโอกาสให้ชี้แจงเหตุผล บริษัทฯ ได้ชี้แจงว่า สาเหตุของความล่าช้าไม่ได้เกิดจากความผิดของบริษัทฯ แต่เนื่องจากงานก่อสร้างอยู่ในเขตพื้นที่อุทยาน แห่งชาติศรีลานนา และงานก่อสร้างท่อระบายน้ำได้ปิดกั้นเส้นทางสัญจรของชาวบ้าน ทําให้ชาวบ้านต่อต้าน ไม่ให้บริษัทฯ เข้าพื้นที่ก่อสร้าง ประกอบกับบริษัทฯ ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน เนื่องจาก มีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจํานวนมาก
บริษัทฯ จึงไม่สามารถดําเนินการให้แล้วเสร็จได้ ซึ่งข้อชี้แจงของบริษัทฯ เนื่องจากกรมทางหลวงชนบทได้ดําเนินการขออนุญาตเข้าใช้พื้นที่ในเขตอุทยานแห่งชาติ ศรีลานนาแล้ว แม้ว่ากรมฯ จะส่งมอบพื้นที่ล่าช้า แต่กรมฯ ได้มีการขยายระยะเวลาส่งมอบงานให้กับบริษัทฯ ตามเหตุที่เกิดขึ้นแล้ว
ส่วนกรณีที่บริษัทฯ กล่าวอ้างว่าถูกชาวบ้านต่อต้านไม่ให้เข้าพื้นที่ก่อสร้างไม่เป็นความจริง ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างท่อระบายน้ำมีเพียง 4 หลังคาเรือน และชาวบ้านได้ยินยอมให้บริษัทฯ ดําเนินการก่อสร้างได้ โดยไม่จําเป็นต้องแก้ไขแบบแปลน ความล่าช้าที่เกิดขึ้นเกิดจากบริษัทฯ เอง ส่วนกรณี ที่บริษัทฯ กล่าวอ้างว่าขาดสภาพคล่องทางการเงิน กรณีนี้ถือเป็นการบริหารจัดการภายในกิจการของบริษัทฯ เอง
ดังนั้น พฤติการณ์ของบริษัทฯ จึงถือได้ว่าเป็นคู่สัญญาของหน่วยงานของรัฐไม่ปฏิบัติตามสัญญาโดยไม่มีเหตุผล อันสมควร อยู่ในหลักเกณฑ์การลงโทษให้เป็นผู้ทิ้งงาน ตามมาตรา 109 วรรคหนึ่ง (2) แห่งพระราชบัญญัติฯ จึงมีคําสั่งให้บริษัท สยามพันธุ์วัฒนา จํากัด (มหาชน) เป็นผู้ทิ้งงาน
ทั้งนี้ บริษัท สยามพันธุ์วัฒนา จํากัด (มหาชน) มีสิทธิอุทธรณ์ต่อปลัดกระทรวงการคลัง โดยให้ทําเป็นหนังสือระบุข้อโต้แย้งและข้อเท็จจริง หรือข้อกฎหมายที่อ้างอิงประกอบด้วย ส่งไปยังกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ถนนพระรามที่ 6 แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400 ทางไปรษณีย์ลงทะเบียน หรือยื่นด้วยตนเอง ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่บริษัทฯ ได้รับแจ้งคําสั่ง ตามมาตรา 44 แห่งพระราชบัญญัติ วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539
@คำชี้แจงของ บมจ.สยามพันธุ์ฯ
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ได้ติดต่อไปยัง บมจ.สยามพันธุ์ฯ เพื่อขอให้ชี้แจงในกรณีที่มีการถูกขึ้นทะเบียนเป็นผู้ทิ้งงานดังกล่าว
ฝ่ายกฎหมาย บมจ.สยามพันธุ์ฯ ยืนยันว่า "สิ่งที่บริษัทเจอนั้นแท้จริงแล้วคล้ายกับที่บริษัทเจอเมื่อตอนทำสัญญากับกรมชลประทาน ก็คือว่าบริษัทต้องการที่ให้มีการเปลี่ยนแปลงแบบให้เหมาะสมกับการก่อสร้าง แต่ก็ไม่ได้มีการอนุมัติมาจากกรมทางหลวง ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ ได้มีการเตรียมการที่จะดำเนินการทางกฎหมายกับกรมทางหลวงต่อไป"
อ่านประกอบ:
- ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ! บ.รับเหมาใหญ่ทิ้งงานโครงการสร้างเขื่อน กรมชลฯ เบิก 505 ล. (1)
- เจาะลึก! ปัญหาสร้างอ่างเก็บน้ำ 'น้ำปี้' ก่อนDSIรับคดีพิเศษสอบปมทิ้งงาน-เบิกเงิน 505 ล. (2)
- กรมชลฯ แจงไล่ทวงเงิน บ.ทิ้งงานอ่างเก็บน้ำ 'น้ำปี้' 200 ล. ตามหักได้แล้ว 40 ล้าน (3)
- กรมชลฯไม่อนุมัติแบบก่อสร้าง! บ.สยามพันธุ์วัฒนา แจงต้นเหตุถูกเลิกสัญญาเขื่อน 1.65 พัน ล. (4)
- อ้างมีเรียกเงิน! สยามพันธุ์ฯ ร้อง ป.ป.ช.สอบจนท.กรมชลฯ ทำโครงการน้ำปี้ 1.6 พันล.(5)