‘ตลท.’ เผย ‘ปปง.’ มีคำสั่ง ‘อายัดทรัพย์’ ที่เกี่ยวกับการกระทำผิดกรณีซื้อขายหุ้น MORE 34 รายการ 5.3 พันล้าน เป็นเวลาไม่เกิน 90 วัน พร้อมเผยส่งข้อมูลให้ ‘ก.ล.ต.’ ตรวจสอบกรณีการปั่นหุ้นแล้ว ขณะที่ราคาหุ้นดิ่งฟลอร์ทันที หลังตลาดฯปลดเครื่องหมาย SP
.........................................
เมื่อวันที่ 21 พ.ย. นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีการตรวจสอบการซื้อขายหลักทรัพย์ บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE ที่ผิดปกติ ว่า ล่าสุดวันนี้ (21 พ.ย.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีคำสั่งอายัดทรัพย์ที่เกี่ยวกับการกระทำผิดกรณีหลักทรัพย์ MORE จำนวน 34 รายการพร้อมดอกผล ไว้เป็นการชั่วคราว หรือเป็นเวลาไม่เกิน 90 วัน นับแต่วันที่มีคำสั่ง
“ล่าสุด ปปง. มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด (กรณีหุ้น MORE) จำนวน 34 รายการ พร้อมดอกผล มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน นับแต่วันออกคำสั่ง ส่วนรายละเอียดนั้น ต้องไปสอบถามจาก ปปง. และผู้ได้รับคำสั่งโดยตรง เพราะคำสั่งดังกล่าวส่งไปยังบริษัทหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการ” นายภากร กล่าว
นายภากร กล่าวด้วยว่า วันนี้ (21 พ.ย.) ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ปลดเครื่องหมาย SP หลักทรัพย์ MORE ซึ่งทำให้หลักทรัพย์ MORE สามารถซื้อขายได้ตามปกติ หลังหยุดการซื้อขายมาแล้ว 5 วัน ส่วนความเสียหายจะเป็นอย่างไร ยังบอกไม่ได้ เพราะต้องรอผลการเปิดซื้อขายหลักทรัพย์ MORE ก่อนว่าเป็นอย่างไร และหากเปิดการซื้อขายแล้วหลักทรัพย์ MORE ลงไปที่ Floor หรือลดลง 30% ก็เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร หรือกรณีเลวร้ายที่สุด เงินกองทุน (NCR) ก็มีเพียงพอ
นายภากร ย้ำว่า “เรายังไม่เห็นความเสียหาย ที่จะทำให้บริษัทหลักทรัพย์ปฏิบัติงานไม่ได้ เราค่อนข้างมั่นใจจากที่ได้ดูข้อมูลต่างๆแล้ว”
ส่วนความคืบหน้าการส่งหลักฐานกรณีการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE ที่ผิดปกติให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ นั้น นายภากร ระบุว่า ตลท.ได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจครบถ้วนแล้ว และคงต้องรอดูว่าตำรวจกับ ปปง. จะมีการดำเนินการอย่างไรต่อ พร้อมกันนั้น ตลท.ได้ส่งข้อมูลหลักฐานทั้งหมดไปให้กับหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องด้วย และหากจะมีผู้เข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติม ทาง ตลท.ยินดีรับข้อมูล
“ได้ส่งข้อมูลครบแล้ว และนอกจากข้อมูลที่เราส่งไปแล้ว ทางสำนักงาน ก.ล.ต. สามารถดึงข้อมูลไปได้เองด้วย ซึ่งทางเรากับ ก.ล.ต. ได้มีการปรึกษากันตลอด ข้อมูลใดที่ต้องไปส่งให้ตำรวจ เราก็ส่งให้ ก.ล.ต.ด้วย ขณะที่ฐานข้อมูลของเรา ก็เป็นฐานข้อมูลเดียวกันกับ ก.ล.ต. ซึ่งสามารถดูเรื่องซื้อขายได้อยู่แล้ว” นายภากรตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่สอบถามถึงความคืบหน้าการส่งข้อมูลย้อนหลังให้ ก.ล.ต. เพื่อตรวจสอบกรณีการสร้างราคาหลักทรัพย์ หรือการปั่นหุ้น MORE
นายภากร กล่าวต่อว่า ขณะนี้ ตลท.อยู่ระหว่างหารือกับหน่วยงานกำกับอื่น และบริษัทหลักทรัพย์ เพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์ต่างๆ เช่น หลักเกณฑ์การนำหลักทรัพย์มาค้ำประกันวงเงินมาร์จิ้น และการกำหนดรายชื่อหุ้นต่างๆจะต้องมีการปรับ collateral level haircut level เป็นต้น ซึ่งจะมีความชัดเจนในเรื่องเหล่านี้ในระยะต่อไป
ด้าน นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทหลักทรัพย์ที่ได้รับความเสียหายกรณีหลักทรัพย์ MORE ได้มีการรวบรวมหลักฐานส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินการแล้ว และเข้าใจว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสอบสวนและประสานข้อมูลกับ ปปง. ด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า ทันทีที่เปิดตลาด ราคาหลักทรัพย์ MORE ปรับตัวลดลง 29.93% โดยราคาหุ้นลดลงมาอยู่ที่ 0.96 บาท/หุ้น หรือลดลง 0.41 บาท/หุ้น จากราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายที่อยู่ที่ 1.37 บาท/หุ้น
วันเดียวกัน คณะกรรมการกำกับตลาดทุน (ก.ต.ท.) ในการประชุมครั้งที่ 13/2565 เมื่อวันที่ 21 พ.ย.2565 มีมติไม่ขยายระยะเวลาการดำเนินการของบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเชีย เวลท์ ตามที่บริษัทขอมา เนื่องจากการสั่งการของ ก.ต.ท.ในครั้งก่อน เกี่ยวกับระยะเวลาในการนำทรัพย์สินมาคืนให้ลูกค้าได้คำนึงถึงความเป็นไปได้ของการดำเนินการ รวมทั้งความเหมาะสมและการป้องกันผลกระทบต่อทรัพย์สินของลูกค้าแล้ว อนึ่ง บล. เอเชีย เวลท์ ยังไม่ได้คืนเงินลูกค้าอย่างครบถ้วน
ก่อนหน้านี้ บล.เอเชีย เวลท์ จำกัด มีการนำเงินของลูกค้าไปชำระค่าซื้อหลักทรัพย์กับสำนักหักบัญชี โดยที่ลูกค้าไม่ได้อนุญาต และ ก.ต.ท. ในการประชุมครั้งที่ 12/2565 เมื่อวันที่ 17 พ.ย.2565 เห็นว่าการดำเนินงานของบริษัทอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ประโยชน์ของประชาชนได้ จึงมีมติโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 143 แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ) ให้ บล.เอเชีย เวลท์ จำกัด นำเงินของลูกค้าที่บริษัทนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์โดยที่ลูกค้าไม่ได้อนุญาต มาคืนภายในวันอาทิตย์ที่ 20 พ.ย.2565 และระงับการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์เป็นการชั่วคราว
ด้าน นายเทพสุ บวรโชติดารา รองเลขาธิการ ปปง. รักษาราชการ แทนเลขาธิการ ปปง. กล่าวว่า สำนักงาน ปปง. ได้ดำเนินการอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว รายนายอภิมุข บํารุงวงศ์ กับพวก ซึ่งมีพฤติการณ์กระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ อันเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (18) แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 จำนวน 34 รายการ (เงินหรือหลักทรัพย์ที่ซื้อต่อเนื่องจากเงินที่ได้จากการขายหุ้น MORE หรือ MORE-R) รวมมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 5,300 ล้านบาท พร้อมดอกผล มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน คือ นับตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย.2565 ถึงวันที่ 18 ก.พ.2566
นายเทพสุ ระบุว่า สำนักงาน ปปง. มุ่งเน้นการสืบสวนขยายผลเพื่อนำไปสู่การยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในรายคดีดังกล่าว รวมทั้งรายคดีอื่น โดยการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อันเป็นการตัดวงจรอาชญากรรมเกี่ยวกับการกระทำความผิดมูลฐานและตัดเส้นทางการเงินของผู้กระทำความผิด ในขณะเดียวกัน ถ้าปรากฎข้อเท็จจริงว่ามีผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน สำนักงาน ปปง. ก็จะพิจารณาดำเนินการคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหายด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับมาตรฐานสากลด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย
อ่านประกอบ :
‘ก.ล.ต.’ตั้ง‘คณะทำงานฯ’ตรวจสอบซื้อขายหุ้น MORE-ให้โอกาส‘เอเชีย เวลท์’หาเงินคืนลูกค้า
‘ตลท.’คุ้ยหลักฐานสอบปั่นหุ้น MORE-แจงวิธีโอนหลักทรัพย์ หลัง‘ก.ล.ต.’สั่งปิด‘เอเชีย เวลท์’
'บช.ก.-ปอศ.'หารือ'ก.ล.ต.'ปมซื้อขายหุ้น MORE ผิดปกติ-จ่อเรียก'เสี่ย ม.-เสี่ย ป.'ให้ปากคำ
ระงับโอนธุรกรรมน่าสงสัย! 'ตลท.'สอบสายสัมพันธ์หุ้น MORE ย้อนหลัง-โบรกฯร้องเสียหาย 4 พันล.
‘ตลท.’ ประสานตำรวจ ‘ปอศ.’ เร่งสืบสวนหาผู้กระทำผิด ปมซื้อขายหุ้น MORE ผิดปกติ
‘ตลท.’ เดินหน้าตรวจสอบกรณีซื้อขายหุ้น MORE ผิดปกติ-ยันไม่กระทบเสถียรภาพตลาด