‘ก.ล.ต.’ ตั้งคณะทำงานฯตรวจสอบกรณีซื้อขายหุ้น MORE เข้าข่ายเป็นการกระทำที่ไม่เป็นธรรมตาม 'พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ' หรือไม่ พร้อมให้โอกาส ‘เอเชีย เวลท์’ หาเงินคืนลูกค้าภายใน 20 พ.ย.นี้
.....................................
เมื่อวันที่ 18 พ.ย. น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า สำนักงาน ก.ล.ต. มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบกรณีการซื้อขายหลักทรัพย์บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE ว่า มีการกระทำที่ไม่เป็นธรรมตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 หรือไม่ เนื่องจากกรณีดังกล่าวมีผลกระทบทั้งในเชิงกว้างและเชิงลึก
ทั้งนี้ คณะทำงานฯชุดดังกล่าว มีนายเอนก อยู่ยืน ผู้ช่วยเลขาธิการ สายบังคับใช้กฎหมาย ก.ล.ต. เป็นประธานคณะทำงาน และมีการเชิญผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ เช่น กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ,กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาร่วมทำงานฯด้วย เพื่อทำให้การตรวจสอบเป็นไปอย่างรวดเร็ว และคงไม่น่าจะรอเป็นปีเหมือนกรณีอื่นๆ
“เราได้มีคำสั่งตั้งคณะทำงานฯเพื่อรวบรวมงาน ไม่อย่างนั้น ก็หล่นไปฝ่ายนี้ที ฝ่ายนั้นที มันเอาไม่อยู่หรอก ดังนั้น ในบ้านของ ก.ล.ต. เราจึงปรับการทำงานให้เป็นลักษณะ one unit one point ในส่วนนี้” น.ส.รื่นวดี กล่าวและว่า “เรื่องการตรวจสอบการกระทำที่ไม่เป็นธรรม ต้องไว ไม่อย่างนั้น เดี๋ยวหลักฐานหายหมด”
น.ส.รื่นวดี ยังกล่าวถึงกรณีที่ ก.ล.ต. แจ้งให้บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด หรือ AWS หยุดการประกอบธุรกิจเป็นการชั่วคราว เนื่องจากบริษัทฯนำเงินของลูกค้าที่อยู่ในความครอบครองของบริษัทไปชำระเป็นค่าซื้อหลักทรัพย์กับสำนักหักบัญชี โดยลูกค้าไม่ได้มีคำสั่งหรือยินยอม เป็นจำนวนเงิน 157.99 ล้านบาท ว่า หลังมีคำสั่งออกไป สำนักงาน ก.ล.ต.ได้หารือกับ AWS คู่ขนานกันไปด้วย ซึ่งเท่าที่ฟังมาบริษัทฯระบุว่า มีหลายแนวทางที่จะนำเงินมาคืนลูกค้า
“จากฟังมาเขา (AWS) มีแผนของเขา มีหลายออฟชั่น ซึ่งยังมีเวลาอีก 2 วันครึ่ง จึงขอให้ถึงวันนั้นก่อน” น.ส.รื่นวดี ตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ถามว่า หากในวันที่ 20 พ.ย. ทาง AWS ไม่สามารถนำเงิน 157 ล้านบาท มาคืนลูกค้าได้ ก.ล.ต.จะดำเนินการต่อไปอย่างไร
น.ส.รื่นวดี กล่าวด้วยว่า กรณีที่ AWS นำเงินของลูกค้าออกไปนั้น เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทธ. 43/2552 เรื่อง การดูแลรักษาทรัพย์สินของลูกค้าของบริษัทหลักทรัพย์ ส่วนจะเข้าข่ายว่าเป็นการกระทำที่ไม่เป็นธรรมหรือไม่ อย่างไร สำนักงาน ก.ล.ต.จะพิจารณาในข้อกฎหมายและดำเนินการต่อไป ขณะที่เราเองไม่ทราบว่า AWS มีมูลเหตุจูงใจอะไรที่ทำให้ต้องหยิบเงินของลูกค้าออกไป ส่วนจะเกี่ยวกับหุ้น MORE หรือไม่ คงตอบไม่ได้
“กรณีสั่งระงับการประกอบธุรกิจของ AWS เป็นเหตุจากพฤติกรรมที่หยิบเงินลูกค้าออกไป เป็นเรื่องของ Market Conduct (การให้บริการลูกค้าอย่างเป็นธรรม) เป็นการทำผิดกติกา เรายังไม่ได้พูดถึงฐานะของบริษัทฯเลย” น.ส.รื่นวดี ย้ำ
นางณัฐญา นิยมานุสร ผู้ช่วยเลขาธิการ สายธุรกิจตัวกลางและตลาด ก.ล.ต. กล่าวว่า กรณีที่มีการตรวจสอบพบว่า AWS นำเงินลูกค้าออกไปส่วนหนึ่งไปชำระค่าซื้อหลักทรัพย์กับสำนักหักบัญชี โดยลูกค้าไม่ได้มีคำสั่งหรือยินยอม นั้น มาจากการตรวจสอบ 2 ทาง คือ มีหนังสือจาก AWS แจ้งมาที่ ก.ล.ต.ว่ามีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้น และสำนักงาน ก.ล.ต. เป็นฝ่ายตรวจสอบพบเองด้วย
นายเอนก อยู่ยืน ผู้ช่วยเลขาธิการ สายบังคับใช้กฎหมาย ก.ล.ต. ในฐานะประธานคณะทำงานฯตรวจสอบกรณีหุ้น MORE กล่าวว่า คณะทำงานฯจะพยายามตรวจสอบกรณีหุ้น MORE ว่า มีการกระทำที่ไม่เป็นธรรมตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯหรือไม่ ให้เร็วที่สุด และเนื่องจากเรื่องนี้เป็นกรณีเร่งด่วน จึงมีการบูรณาการการทำงานร่วมกับตำรวจสอบสวนกลาง ปอศ. และมีการประสานขอข้อมูลในระดับเจ้าหน้าที่ของ ตลท. มาก่อนหน้านี้แล้ว
“เรื่องการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆมีขั้นตอน และใช้เวลา ซึ่งข้อมูลส่วนหนึ่งจะมาจากโบรกเกอร์ ถ้าโบรกเกอร์ให้ข้อมูลได้เร็ว เราก็เดินได้เร็ว ส่วน Timeline คงยังสามารถกำหนดได้อย่างชัดเจนว่าใช้เวลาเท่าไหร่” นายอเนก กล่าว และว่า ส่วนการตรวจสอบว่า มีการสร้างราคาหุ้น MORE หรือไม่นั้น การพิสูจน์ว่ามีการรู้เห็นว่ามีการสร้างราคาหรือไม่ คงต้องค่อยๆเก็บข้อมูล เพราะหากจะมีการดำเนินการใดๆกับผู้กระทำผิด ข้อมูลต่างๆต้องชัดเจน
อ่านประกอบ :
‘ตลท.’คุ้ยหลักฐานสอบปั่นหุ้น MORE-แจงวิธีโอนหลักทรัพย์ หลัง‘ก.ล.ต.’สั่งปิด‘เอเชีย เวลท์’
'บช.ก.-ปอศ.'หารือ'ก.ล.ต.'ปมซื้อขายหุ้น MORE ผิดปกติ-จ่อเรียก'เสี่ย ม.-เสี่ย ป.'ให้ปากคำ
ระงับโอนธุรกรรมน่าสงสัย! 'ตลท.'สอบสายสัมพันธ์หุ้น MORE ย้อนหลัง-โบรกฯร้องเสียหาย 4 พันล.
‘ตลท.’ ประสานตำรวจ ‘ปอศ.’ เร่งสืบสวนหาผู้กระทำผิด ปมซื้อขายหุ้น MORE ผิดปกติ
‘ตลท.’ เดินหน้าตรวจสอบกรณีซื้อขายหุ้น MORE ผิดปกติ-ยันไม่กระทบเสถียรภาพตลาด