‘ตลท.’ สั่งพักการซื้อขายหุ้น MORE พร้อมเดินหน้าตรวจสอบกรณีซื้อขายที่ผิดปกติ ยืนยันไม่กระทบเสถียรภาพของตลาดฯ ขอนักลงทุนเชื่อมั่น
........................................
เมื่อวันที่ 14 พ.ย. นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ พบว่าหลักทรัพย์บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) (MORE) มีการซื้อขายที่ผิดปกติไปจากช่วงก่อนหน้า และได้ติดตามให้ MORE ชี้แจงข้อมูล รวมทั้งได้แจ้งเตือนให้ผู้ลงทุนใช้ความระมัดระวังในการซื้อขายตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 10 พ.ย.2565 ที่ผ่านมา รวมถึงขอให้บริษัทสมาชิกเพิ่มมาตรการในการกำกับดูแลการซื้อขายในหลักทรัพย์ดังกล่าว นั้น
ต่อมา ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้หารือร่วมกับบริษัทสมาชิก สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อตรวจสอบธุรกรรมเกี่ยวกับหลักทรัพย์ MORE ที่อาจเข้าข่ายเป็นรายการที่ผิดปกติ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อบริษัทสมาชิกบางรายในระดับที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับขนาดของบริษัทสมาชิกและปริมาณธุรกรรมที่เกิดขึ้นผ่านบริษัทสมาชิกรายนั้น โดยปัจจุบันบริษัทสมาชิกทุกรายยังสามารถให้บริการกับผู้ลงทุนได้ตามปกติ
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอเรียนว่า แม้จะมีเหตุการณ์ผิดปกติดังกล่าว แต่การชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ทุกหลักทรัพย์ ระหว่างบริษัทสมาชิกและสำนักหักบัญชี (TCH) ยังคงดำเนินการไปตามปกติ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ มีข่าวเกี่ยวกับหลักทรัพย์ MORE เป็นจำนวนมาก และมีความคลาดเคลื่อนมาก จนอาจทำให้เกิดความสับสนในกลุ่มผู้ลงทุน ดังนั้น เพื่อให้ผู้ลงทุนได้มีโอกาสรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับหลักทรัพย์ MORE จากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้องและครบถ้วน ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงเห็นควรหยุดพักการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE ในวันนี้ (14 พ.ย.)
นายภากร กล่าวว่า ขณะนี้ ตลท.ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดกรณีหลักทรัพย์ MORE ได้ เนื่องจากข้อมูลดังกล่าวจะต้องนำมาใช้ในการสืบสวนต่างๆ และกรณีนี้ ตลท.สงสัยว่า เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ จึงไม่อยากเปิดเผยข้อมูลออกไป เพราะยิ่งข้อมูลออกไปเท่าไหร่ การตรวจสอบจะยิ่งยากขึ้นเรื่อยๆ
“เรากำลังสุ่มตรวจสอบเรื่องทุกอย่างอยู่ เราสงสัยว่ามีเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ ส่วนเรื่องตัวเลขทุกอย่าง เราขอยังไม่พูดถึง เพราะเป็นตัวเลขที่เราต้องนำมาใช้ในการสืบสวนต่างๆ และเคสนี้ จะเป็นเคสที่เราจะต้องหาทางป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเคสอย่างนี้อีกต่อไป ดังนั้น ข้อมูลอะไรที่ยังไม่ถูกต้อง ยังไม่ชัดเจน ยังไม่แน่นอน ขอร้องว่าอย่าออกไปพูด อย่าออกไปใช้” นายภากร กล่าว
นายภากร ยืนยันว่า กรณีหลักทรัพย์ MORE จะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เนื่องจากมูลค่าตลาดของหลักทรัพย์ MORE อยู่ที่ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท มี Free Float ประมาณ 50% หรือประมาณ 5,000 ล้านบาท ในขณะที่ขนาดของตลาดหลักทรัพย์ไทยมีมูลค่าประมาณ 20 ล้านล้านบาท และหลังจากมีการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE ที่ผิดปกติตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย. ตลท.ได้เข้าไปตรวจสอบ และตรวจสอบต่อเนื่องในวันที่ 11 พ.ย. รวมทั้งมีการปรึกษาหารือกันมาตลอดว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร เพื่อให้กระทบต่อความมั่นใจของนักลงทุนในระบบให้ดีที่สุด
“เราพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด และเราก็สรุปกันแล้วว่าวิธีที่เราทำวันนี้ คือ วิธีที่ดีที่สุดที่เราจะทำได้” นายภากร กล่าว
นายภากร ย้ำว่า “ตลาดยังมีเสถียรภาพ Transaction (ธุรกรรม) ทุกอย่างยังทำได้เหมือนเดิมตั้งแต่วันพฤหัส (10 พ.ย.) แต่วันนี้ (14 พ.ย.) จะไม่มีการ Transaction ของบริษัทดังกล่าว ส่วนหุ้นตัวอื่นทุกตัวยังมี Transaction ตามปกติ ดังนั้น ขออย่ากังวล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการชำระเงิน การส่งมอบหลักทรัพย์ หรือเรื่อง TCH (สำนักหักบัญชี) กับโบรกเกอร์ จึงอยากให้มีความมั่นใจตรงนี้ ส่วนผลการตรวจสอบจะมีการอัพเดทเป็นระยะๆ ว่าได้ผลเป็นอย่างไรบ้าง”
นายภากร ระบุว่า สำหรับความเชื่อมั่นของระบบ คือ ระหว่างโบรกเกอร์กับ TCH หรือตลาดหลักทรัพย์ฯนั้น ตรงนี้ไม่มีปัญหาอะไรเลย นักลงทุนจึงไม่ต้องไปกังวลว่าโบรกเกอร์ จะมีปัญหาส่งมอบหลักทรัพย์ไม่ได้หรือจ่ายเงินไม่ได้ แต่ในส่วนที่มีปัญหา คือ การซื้อขายของนักลงทุนกับโบรกเกอร์ว่ามีปัญหาหรือไม่นั้น สำนักงานที่เกี่ยวข้องและหน่วยงานกำกับดูแลกำลังตรวจสอบอยู่ และอยู่ในอำนาจของสถาบันการเงินที่จะตรวจสอบรายการดังกล่าวได้
นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย กล่าวว่า เหตุการณ์การซื้อขายหลักทรัพย์ MORE ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งมีปริมาณการซื้อขายเป็นจำนวนมาก และส่งผลให้ราคาลดต่ำลงอย่างมีนัยสำคัญทั้งในวันที่ 10 พ.ย.2565 และในวันที่ 11 พ.ย.2565 นั้น จากการพิจารณาพบว่า อาจเข้าข่ายผิดปกติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งทำให้เกิดความกังวลในการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯและการใช้บริการบริษัทหลักทรัพย์ ทางสมาชิกของสมาคมฯได้หารือกัน รวมทั้งหารือกับหน่วยงานกำกับ เช่น ตลท. ก.ล.ต. และ ปปง. เพื่อหาแนวทางตรวจสอบธุรกรรมที่เกิดขึ้น
“เรามีการพูดกันแล้ว และขอยืนยันว่าสมาชิกทุกรายยังสามารถให้บริการลูกค้าได้ตามปกติ โดยสมาชิกทุกรายอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์การกำกับดูแลเดียวกัน และทุกรายพร้อมให้ความร่วมมือในการตรวจสอบธุรกรรมที่เกิดขึ้นว่า มีการทำธุรกรรมอย่างไร เป็นไปตามกฎหมายหรือกฎเกณฑ์ของหน่วยงานกำกับหรือไม่ ซึ่งหากมีธุรกรรมใดผิดปกติ ก็ต้องมีการดำเนินการตามข้อกฎหมาย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนการปรับปรุงแก้ไขในเรื่องต่างๆจะมีการดำเนินการต่อไป” นายพิเชษฐ กล่าว
นายพิเชษฐ กล่าวว่า สมาคมฯเชื่อว่ากรณีธุรกรรมซื้อขายหลักทรัพย์ MORE จะไม่มีผลกระทบต่อธุรกรรมทั้งหมดในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพราะเป็นแค่หลักทรัพย์เดียว และมีมูลค่าตลาดไม่ใหญ่มาก ซึ่งแม้ว่าจะมีความกังวลกันบ้าง แต่ทุกอย่างน่าจะกลับสู่สภาพปกติได้ ส่วนกรณีที่ผู้ซื้อไม่ชำระราคาหลักทรัพย์ให้กับโบรกเกอร์ ก็ว่ากันตามกระบวนการปกติ และหากไม่ชำระเงินก็ต้องฟ้องร้องกันต่อไป ซึ่งรายการที่ลูกค้าไม่จ่ายเงินให้โบรกเกอร์มีทุกวันอยู่แล้ว เพียงแต่กรณีหลักทรัพย์ MORE เป็นกรณีที่มีขนาดใหญ่