ขยายผลตรวจสอบจัดซื้อทุ่นดักขยะทะเล คนในศูนย์วิจัยฯ รับผิดชอบงานช่วงปี 63 ให้ข้อมูลกรมทรัพยากรทางทะเลฯ แบ่งจัดประกวดราคาหลายสัญญา -เอกชนเจ้าเดียวได้รับงานเพียบหลักสิบล้าน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าการขยายผลตรวจสอบข้อมูลการดำเนินงานติดตั้งทุ่นดักขยะทะเลบริเวณภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ซึ่งเป็นโครงการภายใต้ประเด็นการพัฒนาสู่การเป็นเมืองสีเขียวและสังคมคุณภาพ กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ที่ถูกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบพบมีข้อบกพร่องการโอนครุภัณฑ์ทุ่นดักขยะให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทุ่นดักขยะบางส่วนไม่ได้ใช้ประโยชน์ สูญหาย บางแห่งมีชาวบ้านเข้ามาทำลาย ลักขโมย ทำให้เกิดความเสียหาย พร้อมแจ้งข้อสังเกตให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปแก้ไขปัญหา
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับการเปิดเผยข้อมูลจากแหล่งข่าวในศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง (สงขลา) ที่รับผิดชอบการดำเนินงานในช่วงแรกปี 2563 ว่า ในขั้นตอนการดำเนินงานติดตั้งทุ่นดักขยะทะเลนั้น กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้มีการประกวดราคาจัดจ้างครุภัณฑ์ทุ่นดักขยะหลายสัญญาวงเงินหลายสิบล้านบาทเพื่อนำมาให้ ศูนย์วิจัยฯ ดำเนินงาน
แหล่งข่าวกล่าวว่า อย่างไรก็ดี ผลการประกวดราคาหลายสัญญานั้น ปรากฏว่า มีบริษัทเอกชนรายเดียวเป็นผู้ได้รับงาน ซึ่งบริษัทเอกชนรายนี้มีชื่อเสียงประสบการณ์ในการผลิตสินค้าเกี่ยวกับเรื่องการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม มายาวนานลูกค้ามีทั้งในส่วนของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้พยายามติดต่อไปยัง ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง (สงขลา) เพื่อสอบถามข้อมูลเรื่องการจัดซื้อจัดทุ่นดักขยะเพิ่มเติม แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้ เจ้าหน้ทที่ศูนย์ฯ แจ้งว่า ผู้อำนวยการศูนย์ฯ ติดภารกิจเดินทางไปประชุมที่กรุงเทพฯ และไม่สามารถให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อได้
ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายวิชัย สมรูป ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 ให้ข้อมูลยืนยันสำนักข่าวอิศราว่า การดำเนินงานติดตั้งทุ่นดักขยะทะเลบริเวณภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยนั้น มีวัตถุประสงค์สำคัญในการแก้ไขปัญหาขยะในบริเวณปากแม่น้ำและทะเลของประเทศไทย ซึ่งพบว่ามีปัญหาเป็นอันดับ 8 ของโลก การดำเนินการมี 2 ช่วง คือ ปี 2563 ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง (สงขลา) เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ ติดตั้งทุ่นดักขยะตามบริเวณปากแม่น้ำสำคัญต่างๆ ตามเงื่อนไขโครงการหลังเสร็จสิ้นจะต้องมีการโอนครุภัณฑ์ทุ่นดักขยะให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แต่เนื่องจากทุ่นฯ เหล่านี้ ผ่านการใช้งานมาแล้ว บางจุดมีการชำรุด จึงทำให้ อปท.ไม่กล้าที่จะรับโอน ต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาเรื่องนี้ร่วมกัน ปัจจุบัน อปท.ส่วนใหญ่รับโอนไปแล้ว เหลืออปท.ไม่กี่แห่งที่ยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินงาน แต่คาดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร
ส่วนการดำเนินงานในปี 2564 อยู่ภายใต้การดูแลสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 ที่เข้ามารับดูแลงานต่อ หลังจากที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง (สงขลา) แจ้งหน่วยงานส่วนกลางว่า มีปัญหาในขั้นตอนการดำเนินงาน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่เป็นนักวิชาการไม่ถนัดงานด้านนี้มากนัก
สำหรับปัญหาในช่วงปี 2564 นั้น สตง.แจ้งมา 3 ประเด็นหลัก คือ 1. ความล่าช้าในการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างไม่แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ จุดนี้ได้ชี้แจงกับสตง.ไปแล้วว่า เกิดขึ้นจากปัญหาการอุทธรณ์ผลการประกวดราคาของเอกชนบางราย มีการส่งเรื่องไปยังกรมบัญชีกลางให้พิจารณาแต่ก็มีปัญหาความล่าช้าจากสถานการณ์โควิด ก่อนที่เรื่องจะถูกตีตกไปเพราะเอกชนรายนี้ตกคุณสมบัติ 2. ข้อสังเกตเรื่องความยาวของทุ่น 100 เมตร ที่น่าจะยาวไปสำหรับการนำไปติดตั้งบางจุด กรณีนี้ก็ได้ชี้แจงไปเช่นกันว่า ตามเงื่อนไขโครงการจะต้องดำเนินการจัดตั้งทุ่นฯ ความยาวประมาณ 100 เมตร หน่วยงานไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ ซึ่งสตง.ก็ไม่ได้ติดใจอะไร และ 3. กรณีทุ่นบางจุดความยาวขาดหายไปประมาณ 15 เมตร ก็เป็นผลมาจากถูกเรือประมงทำให้เสียหาย ไม่มีปัญหามาจากเรื่องการทุจริตแต่อย่างใด" นายวิชัย ระบุ
นายวิชัย ยังกล่าวย้ำว่า หลังจากที่หน่วยงานฯ ทำเรื่องชี้แจงไปแล้ว สตง.ก็รับทราบ ไม่ได้มีปัญหาอะไร ขณะที่วัตถุประสงค์สำคัญในการติดตามตรวจสอบเรื่องนี้ของ สตง. ก็เป็นการติดตามผลสัมฤทธิ์การใช้จ่ายเงินงบประมาณให้เกิดความคุ้มค่าในการดำเนินงานโครงการต่างๆ ของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ในภาพรวมทั้งหมด
อ่านข่าวเรื่องเดียวกัน
- หาย-ถูกทำลาย-โดนขโมย! สตง.สอบจัดซื้อทุ่นดักขยะทะเลกลุ่มจว.ใต้อ่าวไทย ปัญหาเพียบ (1)
- เคลียร์ทุกปม! ผอ.สนง.ทรัพยากรทะเล 4 ยันแจง สตง.สอบทุ่นดักขยะทะเลจว.ใต้อ่าวไทยหมดแล้ว (2)