เจ้าหนี้ฯเตรียมยื่นคำร้อง ‘เจ้าพนักงานบังคับคดี’ ริบเงินมัดจำ 110 ล้านบาท เหตุ ‘บ.ลูก IFEC’ ไม่ยอมวางเงินซื้อค่าซื้อทรัพย์ ‘โรงแรมดาราเทวี’ 1.9 พันล้าน หลังพ้นกำหนดเส้นตาย 30 ก.ย.65
......................................
จากกรณีที่เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา ศาลแพ่งจังหวัดเชียงใหม่ มีคำสั่งขยายระยะเวลาการวางเงินค่าซื้อทรัพย์โรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่ ส่วนที่เหลือ 1,902.62 ล้านบาท และให้บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เทอมอล พาวเวอร์ จำกัด (I Thermal) ผู้ชนะประมูลซื้อทรัพย์สินโรงแรมดาราเทวีฯ นำเงินค่าซื้อทรัพย์ส่วนที่เหลือดังกล่าว มาชำระภายในวันที่ 30 ก.ย.2565 นั้น (อ่านประกอบ :ศาลฯขีดเส้น ‘บ.ลูก IFEC’ วางเงินค่าซื้อทรัพย์ ‘รร.ดาราเทวี’ 1.9 พันล. ภายใน 30 ก.ย.นี้)
เมื่อวันที่ 3 ต.ค. สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า หลังจากพ้นกำหนดเส้นตายที่ I Thermal จะต้องนำเงินค่าซื้อทรัพย์โรงแรมดาราเทวีฯ ส่วนที่เหลืออีก 1,902.62 ล้านบาท มาจ่ายให้กับเจ้าพนักงานบังคับคดีจังหวัดเชียงใหม่แล้ว ผลปรากฏว่า I Thermal ไม่ได้นำเงินค่าซื้อทรัพย์ฯส่วนที่เหลือดังกล่าวไปจ่ายให้กับเจ้าพนักงานบังคับคดีฯ แต่อย่างใด ส่งผลให้ I Thermal จะต้องถูกริบเงินค่ามัดจำที่วางไว้ก่อนหน้านี้เป็นเงิน 110 ล้านบาท
“วันพรุ่งนี้ (4 ต.ค.) เจ้าหนี้ฯจะเดินทางไปยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีจังหวัดเชียงใหม่ ให้ทำการริบค่ามัดจำ 110 ล้านบาท ที่ I Thermal วางไว้ในการซื้อทรัพย์สินโรงแรมดาราเทวี เนื่องจากเมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา I Thermal ไม่ได้นำเงินค่าซื้อทรัพย์ส่วนที่เหลืออีก 1,902.62 ล้านบาท ไปวางกับเจ้าพนักงานบังคับคดี พร้อมทั้งขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีฯเปิดประมูลขายทรัพย์โรงแรมดาราเทวีรอบใหม่” แหล่งข่าวจากเจ้าหนี้ของบริษัท โรงแรมดาราเทวี จำกัด ระบุ
สำนักข่าวอิศรารายงานเพิ่มเติมว่า ในช่วงปลายเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา I Thermal และพวก ได้ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งจังหวัดเชียงใหม่ โดยขอให้ศาลฯมีคำสั่งขยายระยะเวลาการวางเงินค่าซื้อทรัพย์โรงแรมดาราเทวีส่วนที่เหลือ 1,902.62 ออกจากไปอีก จากเดิมที่ศาลฯมีคำสั่งให้ขยายระยะเวลาการวางเงินค่าซื้อทรัพย์ฯไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย.2565 แต่ศาลฯไม่อนุญาตให้ขยายเวลา เนื่องจากข้ออ้างของ I Thermal ที่ว่าจะหาเงินค่าซื้อทรัพย์มาวางได้นั้น เป็นข้อกล่าวอ้างที่เลื่อนลอย
“พิเคราะห์คำร้องขอขยายระยะเวลาวางเงินของผู้ร้อง (I Thermal) และคำคัดค้านของผู้ซื้อทรัพย์แล้ว ผู้ร้องยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาวางเงินครั้งสุดท้ายอ้างเหตุว่า ผู้ร้องเร่งหาเงินมาชำระราคาส่วนที่เหลือคดีนี้ 709,720,000 บาท และคดีหมายเลขแดงที่ ผบ.2123/2561 อีก 1,192,900,000 บาท รวมเป็นเงิน 1,902,900,000 บาท
เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2565 ผู้ร้องให้นายทวิช ผู้ถือหุ้นของผู้ร้องเตรียมเงินได้ 320,876,389.99 บาท เพื่อชำระค่าซื้อทรัพย์ รวมที่ชำระแล้วคิดเป็นร้อยละ 22 ของค่าซื้อทรัพย์ทั้งหมด ส่วนที่เหลือประมาณ 1,600,000,000 บาท ประสานกับสถาบันการเงินแล้ว ต้องใช้ระยะเวลาประเมินราคาหลักประกัน จึงต้องใช้ระยะเวลาเพิ่มจนถึงวันที่ 24 ธันวาคม 2565
เห็นว่า ผู้ร้องเคยยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลามาแล้ว 2 ครั้ง โดยอ้างเหตุตามคำร้องขอขยายระยะเวลาวางเงินว่า บริษัท นิ่มซี่ เส็งลิสซิ่ง จำกัด ที่ผู้ร้องขอสินเชื่อยังพิจารณาสินเชื่อไม่แล้วเสร็จ และผู้ร้องให้บริษัท โจนส์แลง ลาชาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้จัดหานักลงทุน ซึ่งศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องขยายระยะเวลาการวางเงินตามคำร้องของผู้ร้องทั้ง 2 ครั้ง รวมเป็นระยะเวลา 6 เดือน เมื่อพิจารณาหนังสือสัญญาซื้อขาย ฉบับลงวันที่ 24 ธันวาคม 2564 แล้ว
ผู้ร้องประมูลซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดได้ตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2564 หลังจากนั้น ผู้ร้องขอขยายระยะเวลาการวางเงินค่าซื้อทรัพย์มาโดยตลอด ทั้งการยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาการวางเงินกับเจ้าพนักงานบังคับคดี เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่อนุญาต ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องขอต่อศาล และศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ขยายระยะเวลาการวางให้แล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งสุดท้ายให้จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2565
เมื่อเหตุในการยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาการวางเงินค่าซื้อทรัพย์ที่ผู้ร้องขอในครั้งแรกอ้าง ว่า อยู่ระหว่างการขอสินเชื่อจากบริษัท นิ่มซี่เส็งสิสซิ่ง จำกัด พิจารณาว่า จะให้สินเชื่อหรือไม่ และครั้งที่สอง อ้างเหตุว่า ให้บริษัท โจนส์แลง ลาชาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด สรรหานักลงทุนเพื่อชำระค่าซื้อทรัพย์
แสดงว่าขณะที่ผู้ร้องประมูลซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาด ผู้ร้องยังไม่มีเงินหรือทุนที่จะชำระได้ตามราคาที่ประมูลซื้อ เนื่องจากครบกำหนดชำระค่าซื้อทรัพย์ครั้งแรก ผู้ร้องยังคงขอสินเชื่อจากบริษัท นิ่มซี่เส็งลิสซิ่ง จำกัด อยู่ หลังจากนั้นก็ไม่ปรากฎว่าบริษัท นิ่มซี่เส็งลิสซิ่ง จำกัด ได้อนุมัติสินเชื่อตามที่ผู้ร้องขอหรือไม่
ผู้ร้องก็อ้างเหตุใหม่ว่า ให้บริษัทโจนส์แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด สรรหานักลงทุนเพื่อชำระค่าซื้อทรัพย์นั้นผู้ร้องเพิ่งจะดำเนินการให้บริษัท โจนส์แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ดำเนินการเรื่องดังกล่าว ภายหลังจากยื่นคำร้องในครั้งแรก ผู้ร้องจึงไม่ได้ตระเตรียมหรือดำเนินการหาเงินเพื่อมาชำระค่าซื้อทรัพย์มาก่อน และอยู่ระหว่างเร่งระดมเงินเพื่อมาชำระค่าซื้อเท่านั้น
ทั้งการยื่นคำร้องฉบับนี้ ผู้ร้องอ้างว่ามีเงินที่นายทวิช กรรมการผู้มีอำนาจผู้ร้อง มีอยู่กับธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เป็นเงิน 320,876,389.99 บาท ตามหนังสือรับรองยอดเงินฝากเอกสารท้ายคำร้องหมายเลข 3 ก็ตาม แต่ผู้ร้องก็ยังไม่ได้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปชำระแก่เจ้าพนักงานบังคับคดี อันจะถือได้ว่าหาเงินได้แล้วร้อยละ 22 ตามที่อ้าง ประกอบกับจำนวนเงินตามหนังสือรับรองดังกล่าวก็ยังไม่เพียงพอที่จะชำระค่าซื้อทรัพย์ในคดีนี้
ที่ผู้ร้องอ้างว่า อยู่ในระหว่างการประเมินราคาทรัพย์กับสถาบันการเงิน ก็ไม่ปรากฎว่าผู้ร้องได้ยื่นขอสินเชื่อต่อสถาบันการเงินหรือหาแหล่งเงินทุนจากที่อื่นได้อีกหรือไม่ รวมทั้งยังไม่มีหลักฐานมาแสดงว่าธนาคารหรือสถาบันการเงินอยู่ระหว่างการประเมินราคาทรัพย์ตามที่กล่าวอ้าง
พฤติการณ์ดังกล่าวของผู้ร้องที่ดำเนินการมาตั้งแต่ที่ประมูลทรัพย์ได้จากการขายทอดตลาดตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2564 และขอขยายระยะเวลาวางเงินค่าซื้อทรัพย์ด้วยเหตุดังกล่าวข้างต้น ซึ่งศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ขยายระยะเวลาวางเงินได้จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2565 เป็นเวลาถึง 9 เดือนเศษ หากผู้ร้องขวนขวายหรือขณะประมูลทรัพย์ มีเงินที่จะชำระราคาทรัพย์หรือมีวิธีการอื่นแล้ว ย่อมสามารถหาเงินมาวางได้ตามระยะเวลาที่ศาลมีคำสั่งอนุญาตได้อยู่แล้ว
การที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาวางเงินออกไปอีกถึงวันที่ 24 ธันวาคม 2565 โดยอ้างเหตุว่าติดการประเมินราคาหลักประกันใหม่ หรือบริษัท โจนส์แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด กำลังเร่งระดมทุนนั้น เป็นเรื่องที่ผู้ร้องต้องคาดหมายได้ว่าการดำเนินการดังกล่าวต้องใช้ระยะเวลาตั้งแต่แรก ทั้งข้ออ้างดังกล่าวยังเลื่อนลอยไม่แน่ว่าจะหาเงินได้ตามที่กล่างอ้างหรือไม่
กรณีจึงยังไม่มีพฤติการณ์พิเศษที่จะขยายระยะเวลาวางเงินให้กับผู้ร้องอีก จึงมีคำสั่งยกคำร้องของผู้ร้อง และให้ผู้ร้องวางเงินภายในระยะเวลาที่กำหนดเดิม คือ ภายในวันที่ 30 กันยายน 2565 ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็นพับ” คำสั่งศาลแพ่งจังหวัดเชียงใหม่ ระบุ
สำหรับบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เทอมอล พาวเวอร์ จำกัด (I Thermal) เป็นบริษัทลูกของ บมจ.อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น หรือ IFEC ในขณะที่ IFEC เป็นบริษัทแม่ของ บริษัท โรงแรมดาราเทวี จำกัด ซึ่งเดิมเป็นเจ้าของกิจการโรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่
อ่านประกอบ :
ศาลฯขีดเส้น ‘บ.ลูก IFEC’ วางเงินค่าซื้อทรัพย์ ‘รร.ดาราเทวี’ 1.9 พันล. ภายใน 30 ก.ย.นี้
‘บ.ลูก IFEC’ ยื่นศาลแพ่งฯ ขอยืดเวลาวางเงินซื้อ ‘รร.ดาราเทวี’ 1.9 พันล. เป็นครั้งที่ 3
‘เจ้าพนักงานบังคับคดี’สั่งไม่อนุญาต‘บ.ลูก IFEC’ยืดเวลาวางเงิน‘รร.ดาราเทวี’ 1.9 พันล.
อดีตพนง.‘ดาราเทวี’ร้อง ยังไม่ได้‘เงินเดือนค้างจ่าย-ชดเชยเลิกจ้าง’ หลังปิด‘รร.’ปีครึ่ง
พลิกแฟ้ม 3 คดีพิพาท ปมร้อง 'ก.ต.'-ทนาย 'โรงแรมดาราเทวี' โต้ 'ไม่มีการแทรกแซง'
ฟ้องอย่างน้อย 73 คดี! เจ้าหนี้เอาผิด‘บ.โรงแรมดาราเทวี’-เผยภาพ‘รร.’หลังถูกทิ้งร้าง 2 ปี
ร้อง 'ก.ต.' ตรวจสอบ 'สนง.อธิบดีผู้พิพากษาภาค 5' แทรกแซงสั่งคดีโกงเจ้าหนี้ 'ดาราเทวี'
ใกล้ถึงเส้นตาย! ‘บ.ลูก IFEC’ วางเงินค่าซื้อ ‘โรงแรมดาราเทวี’ ส่วนที่เหลือ 1.9 พันล้าน
‘เจ้าหนี้’ยื่นศาลฯค้าน‘บ.ลูก IFEC’ขอขยายเวลาวางเงินซื้อ‘ดาราเทวี’-อ้าง'เสี่ยงล้มละลาย'
นัดใหม่! ขายทอดตลาด‘ดาราเทวี’ หลังเอกชน‘รายเดียว’ที่ร่วมประมูลฯ ไม่รับราคา 2.1 พันล.
รับคดีไว้พิจารณา!‘ศาลคดีทุจริตฯ’นัดไต่สวนมูลฟ้อง คดีขายทอดตลาด‘ดาราเทวี’ 20 ธ.ค.นี้
โชว์คำสั่งย้ายด่วน 'ผอ.บังคับคดีฯ' จ.เชียงใหม่ หลังถูกร้องปมขายทอดตลาด ‘รร.ดาราเทวี’
ขายทอดตลาด‘ดาราเทวี’ 3 ธ.ค.นี้ หลังศาลฯเพิกถอนคำสั่ง‘เจ้าพนักงานบังคับคดีฯ’ยกเลิกนัด
ฟ้องศาลคดีทุจริตฯ! 'เจ้าพนักงานบังคับคดีฯ'ขัดขวางขายทอดตลาด‘รร.ดาราเทวี’ 2.6 พันล้าน