ศาลอุทธรณ์ ยืนรอลงอาญาคุก 9 ปี 12 ด.อดีตผอ.สนง.อธิการม.อุบลฯ ทำหลักฐานเท็จเบิกงบ

เขียนวันที่

วันเสาร์ ที่ 14 พฤษภาคม 2565 เวลา 10:09 น.

เขียนโดย

isranews

Hits

2572 views

picppckedsaasssss5 14 65

เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'นลินี ธนสันติ' อดีตผอ.กองกลาง สำนักงานอธิการบดี ม.อุบลฯ จัดทำหลักฐานเท็จเบิกจ่ายงบประมาณโครงการจัดแสดง แสง เสียง ประวัติ ปี 2545,งานปีใหม่ปี 2546 ทุจริตเบิกค่าล่วงเวลาจัดงานวันเด็กแห่งชาติ ปี 2546 ล่าสุด อุทธรณ์พิพากษายืน ลงโทษจำคุกคุก 9 ปี 12 เดือน แต่รอลงอาญา -ป.ป.ช.ค้านอสส.ไม่ยื่นฎีกาสู้ต่อ

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นางนลินี ธนสันติ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองกลาง สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จัดทำหลักฐานเท็จในการเบิกจ่ายงบประมาณโครงการจัดแสดง แสง เสียง ประวัติ เมืองอุบลราชธานี ประจำปี 2545 โครงการจัดงานปีใหม่ปี 2546 และทุจริตในการเบิกค่าล่วงเวลาในโครงการจัดงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2546

ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตาม ป.อ.มาตรา 147, 151 ,157 , 161 และ 162 (4) และ 268 ประกอบมาตรา 90 และ 91 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา

ล่าสุด เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2564 ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษายืนตามศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 ที่พิพากษาตัดสินว่า นางนลินี ธนสันติ จำเลยมีความผิดตามมาตรา 147 , 151 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามมาตรา 91 ตามมาตรา 147 , 151 เป็นการกระทำกรรมเดียว ผิดต่อกฎหมายหลายบท แต่ละบทมีอัตราโทษเท่ากัน ให้ลงโทษฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำจัดการ หรือรักษาทรัพย์ใดเบียดบังทรัพย์นั้น ตามมาตรา 147 ตามมาตรา 90

จำคุกกระทงละ 5 ปี และปรับกระทงละ 15,000 บาท รวม 3 กระทง

ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษกระทงละหนึ่งในสาม ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้น

จำคุกกระทงละ 3 ปี 4 เดือน และปรับกระทงละ 10,000 บาท รวม 3 กระทง เป็นจำคุก 9 ปี 12 เดือน และปรับ 30,000 บาท

โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ตามมาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามมาตรา 29,30 ให้จำเลยคืนเงินจำนวน 47,950 บาท แก่ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้

เบื้องต้น เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2565 คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติไม่เห็นชอบด้วยในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่ฎีกาคำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 และมีเหตุอันควรที่จะฎีกาคำพิพากษาในส่วนที่ไม่รอการลงลงโทษจำคุกจำเลย

สำหรับประมวลกฎหมายอาญา 147 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท

มาตรา 151 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท

picppckedsadffddfdfdfdf5 14 65

อ่านประกอบ

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage