"...กรณีการทุจริตคดีนี้ ในส่วนของ นายทองใบ บาระพรม อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ลาดพัฒนา อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม และพวก จำนวน 28 ราย ก็ถูกศาลตัดสินลงโทษไปแล้วเช่นกัน โดยจำเลยคนสำคัญในคดีส่วนนี้ อาทิ นายทองใบ บาระพรม อดีตนายก อบต. ลาดพัฒนา ถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุกเป็นเวลา 21 ปี 6 เดือน , นายสมคิด มะธิปะโน จำเลยที่ 2 ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนแก่งนาจารย์พิทยาคม จ.กาฬสินธุ์ จำคุก 10 ปี , นายสิทธิ์ พิพัฒน์ชัยกร อดีตนายอำเภอเมืองมหาสารคาม ถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุกเป็นเวลา 4 ปี 4 เดือน..."
กรณีทุจริตในการสอบแข่งขันบุคคลเพื่อบรรจุเป็นพนักงานส่วนตำบลในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม เมื่อปี 2557 ซึ่งนับเป็นคดีทุจริตใหญ่ในเกิดขึ้นพื้นที่ภาคอีสาน นั้น
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าล่าสุด ไปแล้วว่า เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ได้มีคำพิพากษาตัดสินลงโทษจำคุก จำเลยจำนวนมากนับสิบราย บทลงโทษจำคุกนับร้อยนับสิบปี อาทิ นายวรวิทย์ ปักกาโล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) กู่สันตรัตน์ อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม และนายอร่าม ศิริพันธุ์ หัวหน้าภาควิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดนโทษจำคุก คนละ 140 ปี แต่ติดจริง 50 ปี
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา สืบค้นฐานข้อมูลคดีในเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พบว่า กรณีทุจริตคดีนี้ ในส่วนของ นายทองใบ บาระพรม อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ลาดพัฒนา อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม และพวก จำนวน 28 ราย ก็ถูกศาลตัดสินลงโทษไปแล้วเช่นกัน
โดยจำเลยคนสำคัญในคดีส่วนนี้ อาทิ นายทองใบ บาระพรม อดีตนายก อบต. ลาดพัฒนา ถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุกเป็นเวลา 21 ปี 6 เดือน , นายสมคิด มะธิปะโน จำเลยที่ 2 ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนแก่งนาจารย์พิทยาคม จ.กาฬสินธุ์ ถูกศาลตัดสินลงโทษ จำคุก 10 ปี , นายสิทธิ์ พิพัฒน์ชัยกร อดีตนายอำเภอเมืองมหาสารคาม ถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุก เป็นเวลา 4 ปี 4 เดือน
ปรากฏรายละเอียดดังนี้
@ ข้อมูลทางคดี
เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2562 คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิด นายทองใบ บาระพรม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ลาดพัฒนา อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม และพวก จำนวน 28 ราย ในกรณีทุจริตในการสอบแข่งขันบุคคลเพื่อบรรจุเป็นพนักงานส่วนตำบลในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม เมื่อปี 2557 โดยแก้ไขเปลี่ยนแปลงผลคะแนนสอบ
มีมูลความผิดทางอาญา ตาม ป.อ.มาตรา 149, มาตรา 151, มาตรา 157, มาตรา 161 และมาตรา 162 (1) (4) ประกอบมาตรา 83, 86 และตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 มาตรา 123/1 ประกอบ พ.ร.บ.ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 มาตรา 192
@ รายชื่อผู้ถูกกล่าวหา
มีจำนวน 29 ราย ได้แก่
นายทองใบ บาระพรม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ลาดพัฒนา อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม จำเลยที่ 1
นายสมคิด มะธิปะโน จำเลยที่ 2 (ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนแก่งนาจารย์พิทยาคม จ.กาฬสินธุ์)
นายสิทธิ์ พิพัฒน์ชัยกร จำเลยที่ 3 (นายอำเภอเมืองมหาสารคาม)
นายสุธรรม วงศ์แก้ว จำเลยที่ 4
นายกิตติกร ศิลป์อ่อน จำเลยที่ 5 (พนักงานตรวจโรคสัตว์ สังกัดสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดกาฬสินธุ์)
นายอดิศักดิ์ อำไพศรี จำเลยที่ 6 (เจ้าพนักงานประปา ระดับ 5 เทศบาลตำบลห้วยผึ้ง อำเภอห้วยผึ้ง จังหวัดกาฬสินธุ์)
นางสาวสุวิญญา ฤทธิศรี จำเลยที่ 7
นางสาวอาทิตยา ศรีปัญญา จำเลยที่ 8
นางสาวขวัญชนก หรือธัญญลักษ์ อุตริ จำเลยที่ 9
นางสาวไพรินทร์ สีจันลา จำเลยที่ 10
นางสาวกนกวรรณ คุณยศยิ่ง จำเลยที่ 11
นางสาวนันทิยา อุทัยเรือง จำเลยที่ 12
นาวสาวนริศรา โททำ จำเลยที่ 13
นางสาวอภิญญา ภิโญ จำเลยที่ 14
นายภูริณัฐ บุญตก จำเลยที่ 15
นางสาวกนกกาญจน์ จำนงพิศ จำเลยที่ 16 (ผู้ดูแลเด็ก อ.บ.ต.โนนรัง)
นางสาวสุนิสา ทศภานนท์ จำเลยที่ 17
นางสาวกฤตญา คำมี จำเลยที่ 18
นางศุภัชยาหรือกานต์พิชญา สินเธาว์ จำเลยที่ 19
นายกฤษณะ วรรณศรี จำเลยที่ 20
นางสาวขนิษฐา น้อยสุวรรณา จำเลยที่ 21
นางสาวเกศรินทร์ แฝงเมืองคุก จำเลยที่ 22 ( ครู ศรช.บ้านวังไผ่)
นายวิทยา เสนานิคม จำเลยที่ 23
นายสุรศักดิ์ นันทะเสน จำเลยที่ 24
นายสถาพร วรรณทอง จำเลยที่ 25
นายสุทธิศักดิ์ ศรีสุภักดิ์ จำเลยที่ 26
นายวิจักร์ มหาโคตร จำเลยที่ 27
นายปรีชา แก้วลี จำเลยที่ 28
นายอัฐพงษ์ จันทะปิตตา จำเลยที่ 29
@ ผลการพิจารณาของศาล
เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2564 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 มีคำพิพากษาดังนี้
นายทองใบ บาระพรม อดีตนายก อบต.ลาดพัฒนา อำเภอเมืองมหาสารคาม จำเลยที่ 1 มีความผิดตามมาตรา 149 , 151 , 157 , 161 , 162 (1) (4) และ พ.ร.บ.ป.ป.ช. พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 การกระทำเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามมาตรา 91
รวมลงโทษจำเลยที่ 1 จำคุก 21 ปี 6 เดือน
นายสมคิด มะธิปะโน จำเลยที่ 2 (ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนแก่งนาจารย์พิทยาคม จ.กาฬสินธุ์) มีความผิดตามมาตรา 149, 157, 161, 162 (1) (4) ประกอบมาตรา 86 การ กระทำเป็นกรรมเดียว เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท
ลงโทษจำเลยที่ 2 จำคุก 10 ปี
นายสิทธิ์ พิพัฒน์ชัยกร จำเลยที่ 3 อดีตนายอำเภอเมืองมหาสารคาม มีความผิดตามมาตรา 157, 161, 162 (1) (4) และมาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 การกระทำเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามมาตรา 91
รวมลงโทษจำเลยที่ 3 จำคุก 4 ปี 4 เดือน
นายสุธรรม วงศ์แก้ว จำเลยที่ 4 มีความผิดตามมาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 และมาตรา 157, 161, 162 (1) (4) และ พ.ร.บ.ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 การกระทำเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามมาตรา 91
รวมลงโทษจำเลยที่ 4 จำคุก 4 ปี 4 เดือน
นายกิตติกร ศิลป์อ่อน จำเลยที่ 5 (พนักงานตรวจโรคสัตว์ สังกัดสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดกาฬสินธุ์) มีความผิดตามมาตรา 157 , 161 , 162 (1) (4) ประกอบมาตรา 86 การกระทำเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท
ลงโทษจำเลยที่ 5 จำคุก 12 เดือน
นายอดิศักดิ์ อำไพศรี จำเลยที่ 6 (เจ้าพนักงานประปา ระดับ 5 เทศบาลตำบลห้วยผึ้ง อำเภอห้วยผึ้ง จังหวัดกาฬสินธุ์) มีความผิดตามมาตรา 157, 161, 162 (1) (4) ประกอบมาตรา 86 การกระทำเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท
ลงโทษจำเลยที่ 6 จำคุก 12 เดือน
จำเลยที่ 7 ถึงจำเลยที่ 29 (ดูชื่อประกอบด้านบน) มีความผิดตามมาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 ลงโทษจำคุกคนละ 12 เดือน และปรับคนละ 10,000 บาท
จำเลยที่ 5 จำเลยที่ 7 ถึงจำเลยที่ 27 และจำเลยที่ 24 ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพีจารณามีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้คนละกึ่งหนึ่งดามมาตรา 78
คงลงโทษจำคุกจำเลยที่ 5 จำคุก 6 เดือน
จำเลยที่ 7 ถึงจำเลยที่ 27 และจำเลยที่ 29 จำคุก คนละ 6 เดือน และปรับคนละ 5,000 บาท
พิเคราะห์รายงานการสืบเสาะและพินิจ จำเลยที่ 7 ถึงจำเลยที่ 29 ประกอบพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว
โทษจำคุกจำเลยที่ 7 ถึง จำเลยที่ 29 ไห้รอการลงโทษ ไว้มีกำหนด 2 ปี ตามมาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามมาตรา 29, 30
@ มติ ป.ป.ช.
เบื้องต้น เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2564 คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเห็นว่า กรณีศาลพิพากษาลงโทษจำคุก จำเลยที่ 1 ถึงจำเลยที่ 6 ไม่รอการลงโทษ และจำคุกจำเลยที่ 7 ถึง จำเลยที่ 29 โดยโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี นั้น เห็นว่าการลงโทษดังกล่าวเป็นไปตามฐานความผิดที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ชี้มูลความผิดอีกทั้งโทษที่ลงแก่จำเลยที่ 1 ถึงจำเลยที่ 29 เหมาะสมแก้พฤติการณ์แห่งคดีนี้ จึงไม่มีเหตุอันควรที่จะคำพิพากษาอุทธรณ์ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมชิอบภาค 4 ในประเด็นนี้แต่ประการใด และเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาในประเด็นดังกล่าว
ส่วนกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาว่า พฤติการณ์การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นกรรมเดียว แม้จะเรียก รับหรือ ยอมจะรับจากบุคคลหลายคนตามคำฟ้อง ก็ไม่ใช่ความผิดต่างกรรมต่างวาระไม่ เมื่อเห็นว่า การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นกรรมเดียว ทำให้การสนับสนุนการกระทำดังกล่าวของจำเลยที่ 2 เป็นการสนับสนุนการกระทำในความผิดกรรมเดียวเช่นเดียวกัน นั้น ขอความอนุเคราะห์ไปยังอัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลในคดีอื่นต่อไป
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือประหารชีวิต
มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อย่างไรก็ดี คดียังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งหมด มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
แต่ผลการพิจารณาคดีของศาลที่ออกมา นับเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า กรณีทุจริตในการสอบแข่งขันบุคคลเพื่อบรรจุเป็นพนักงานส่วนตำบล เป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาสำคัญ ของเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ให้ใครเดินซ้ำรอยเอาเป็นเยี่ยงอย่างชัดเจนมากขึ้น
อ่านประกอบ
- พังงาโดนแล้ว! คุกยกชุด อดีตนายก อบต.ท้ายเหมือง-พวก13ราย คดีทุจริตไฟฟ้าส่องสว่างสาธารณะ
- คุก 5 ปี! อดีตนายกเทศฯ นาน้อย น่าน ทุจริตซื้อครุภัณฑ์ยานพาหนะขนส่งรถกู้ชีพ
- คดีสอบบรรจุพนง.ตำบลสารคาม 'อดีตนายก อบต.กู่สันตรัตน์-หน.ภาควิชาจุฬา' โดนคุกคนละ140 ปี
- คุก 5 ปี! อดีตผอ.สำนักจัดการป่าไม้ กระบี่ เอื้อประโยชน์เอกชนปลูกป่า 200 ไร่
- รอลงอาญาคุกคนละ 1 ปี! อดีตปลัดฯบางบัวทอง-พวก ใช้งบ อบต.ร่วมคณะเที่ยวลังกาวี