เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'ณรงค์ เดชบุรัมย์' อดีตนายก อบต.ดอนหว่าน มหาสารคาม เรียกรับเงินจากผู้สมัครช่วยเหลือให้ได้รับเลือกเป็นพนักงานจ้าง ล่าสุด ศาลศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 4 พิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปี 12 เดือน -พวก 1 ราย โดน 6 เดือน ปรับ 5,000 บาท แต่ได้รอลงอาญา
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายณรงค์ เดชบุรัมย์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ดอนหว่าน อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม กับพวก คือ นางสาวสุกัญญา สุขชารี เรียกรับเงินจากผู้สมัครเข้ารับการสรรหาและเลือกสรรเพื่อช่วยเหลือให้ได้รับเลือกเป็นพนักงานจ้าง
ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตาม ป.อ.มาตรา 149, 157 และมาตรา 162 (1) (4) ตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 พิพากษาว่า นายณรงค์ เดชบุรัมย์ จำเลยที่ 1 มีความผิดตามมาตรา 149, 157 และ 162 (1) (4) การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้เรียงกระทงลงโทษตามมาตรา 91
ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกกระทงแรก 2 ปี 6 เดือน กระทงที่สอง 6 เดือน รวมแล้ว คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 2 ปี 12 เดือนโดยไม่รอการลงโทษ
นางสาวสุกัญญา สุขชารี จำเลยที่ 2 มีความผิดตามมาตรา 157 และมาตรา 162 (1) (4) การกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 157 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตามมาตรา 90
ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 6 เดือน และปรับ 5,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปีและให้คุ้มประพฤติมีกำหนด 1 ปี
ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งสอง มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2565 คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือประหารชีวิต
มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อ่านประกอบ
- พังงาโดนแล้ว! คุกยกชุด อดีตนายก อบต.ท้ายเหมือง-พวก13ราย คดีทุจริตไฟฟ้าส่องสว่างสาธารณะ
- คุก 5 ปี! อดีตนายกเทศฯ นาน้อย น่าน ทุจริตซื้อครุภัณฑ์ยานพาหนะขนส่งรถกู้ชีพ
- คดีสอบบรรจุพนง.ตำบลสารคาม 'อดีตนายก อบต.กู่สันตรัตน์-หน.ภาควิชาจุฬา' โดนคุกคนละ140 ปี
- คุก 5 ปี! อดีตผอ.สำนักจัดการป่าไม้ กระบี่ เอื้อประโยชน์เอกชนปลูกป่า 200 ไร่
- รอลงอาญาคุกคนละ 1 ปี! อดีตปลัดฯบางบัวทอง-พวก ใช้งบ อบต.ร่วมคณะเที่ยวลังกาวี
- กลุ่มที่ 2! คดีสอบบรรจุพนง.ตำบลสารคาม โดนคุกครบ29ราย อดีตนายกฯลาดพัฒนาอ่วม 21 ปี 6 ด.
- คุก 2 ปี 6 ด.! อดีตผอ.สถานพินิจฯ เพชรบูรณ์ เบียดบังงบพัฒนาเด็ก-หลังโดนโทษคดีใช้รถหลวง
- กลุ่ม3! คดีสอบบรรจุพนง.ตำบลสารคาม คุก100ปี อดีตนายกอบต.หนองกุง -พวกนับสิบโดนคนละหลายปี
- ป.ป.ช.ขออุทธรณ์สู้! รอลงอาญาคุก 2 ปี 6 ด.อดีตนายกเทศฯ จัตุรัส ทุจริตซื้อเสื้อกันหนาว