เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'กฤชพล แสงสุนานนท์' อดีตปลัดเทศบาลตำบลสองชั้น อำเภอกระสัง บุรีรัมย์ กรณีทุจริตเบิกเงินค่าเช่าบ้านโดยไม่ได้พักอาศัยอยู่จริง ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 3 พิพากษาลงโทษ 'วินัย ประเสริฐศรี' ลูกจ้างประจำตำแหน่งนักพัฒนาชุมชน จำคุก 49 ปี 392 เดือน ติดจริง 50 ปี แต่ได้รอลงอาญา 2 ปี -ป.ป.ช.ขอ อสส. อุทธรณ์สู้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายกฤชพล แสงสุนานนท์ อดีตปลัดเทศบาลตำบลสองชั้น อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ กับพวก คือ นายวินัย ประเสริฐศรี นักพัฒนาชุมชน (ลูกจ้างประจำ) กรณีทุจริตในการเบิกเงินค่าเช่าบ้านโดยไม่ได้พักอาศัยอยู่จริง
ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตาม ป.อ.มาตรา 151, 157 มาตรา 162 (4) และ ตาม พ.ร.ป.ป.ป.ช. 2542 มาตรา 123 /1 ประกอบ ป.อ.มาตรา 86 และมาตรา 91 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 มีคำพิพากษาว่า นายวินัย ประเสริฐศรี จำเลยที่ 2 มีความผิดตาม ปอ.มาตรา 151, 162 (4) พ.ร.ป. ป.ป.ช. พ.ศ.2561 มาตรา 172 ประกอบ ป.อ. มาตรา 86 รวม 49 กระทง
ลงโทษตามมาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุด จำคุกกระทงละ 3 ปี 4 เดือน และปรับกระทงละ 2,000 บาท
นายวินัย ประเสริฐศรี รับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกกระทงละ 1 ปี 8 เดือน และปรับกระทงละ 1,000 บาท
รวม 49 กระทง เป็นจำคุก 49 ปี 392 เดือน และปรับ 49,000 บาท
เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว คงจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 50 ปี และปรับ 49,000 บาท
โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี และให้คุมความประพฤติจำเลยที่ 2 ไว้มีกำหนด 1 ปี
ส่วนนายกฤชพล แสงสุนานนท์ ปลัดเทศบาลตำบลสองชั้น จำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธ ศาลฯ จึงมีคำสั่งให้โจทก์แยกฟ้องจำเลยที่ 1 เป็นคดีใหม่ และจำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ 1 ออกจากสารบบความ
ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2565 คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติไม่เห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 และเห็นควรที่จะอุทธรณ์คำพิพากษาในการรอการลงโทษจำเลยที่ 2
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท
อ่านประกอบ
- พังงาโดนแล้ว! คุกยกชุด อดีตนายก อบต.ท้ายเหมือง-พวก13ราย คดีทุจริตไฟฟ้าส่องสว่างสาธารณะ
- คุก 5 ปี! อดีตนายกเทศฯ นาน้อย น่าน ทุจริตซื้อครุภัณฑ์ยานพาหนะขนส่งรถกู้ชีพ
- คดีสอบบรรจุพนง.ตำบลสารคาม 'อดีตนายก อบต.กู่สันตรัตน์-หน.ภาควิชาจุฬา' โดนคุกคนละ140 ปี
- คุก 5 ปี! อดีตผอ.สำนักจัดการป่าไม้ กระบี่ เอื้อประโยชน์เอกชนปลูกป่า 200 ไร่
- รอลงอาญาคุกคนละ 1 ปี! อดีตปลัดฯบางบัวทอง-พวก ใช้งบ อบต.ร่วมคณะเที่ยวลังกาวี
- กลุ่มที่ 2! คดีสอบบรรจุพนง.ตำบลสารคาม โดนคุกครบ29ราย อดีตนายกฯลาดพัฒนาอ่วม 21 ปี 6 ด.
- คุก 2 ปี 6 ด.! อดีตผอ.สถานพินิจฯ เพชรบูรณ์ เบียดบังงบพัฒนาเด็ก-หลังโดนโทษคดีใช้รถหลวง
- กลุ่ม3! คดีสอบบรรจุพนง.ตำบลสารคาม คุก100ปี อดีตนายกอบต.หนองกุง -พวกนับสิบโดนคนละหลายปี
- ป.ป.ช.ขออุทธรณ์สู้! รอลงอาญาคุก 2 ปี 6 ด.อดีตนายกเทศฯ จัตุรัส ทุจริตซื้อเสื้อกันหนาว
- คุก 2 ปี 12 ด.! อดีตนายกอบต.ดอนหว่าน สารคาม เรียกรับเงินช่วยผู้สมัครเลือกเป็นพนง.
- รอลงอาญา คุกคนละ 6 ด.! อดีตผอ.วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาฯเชียงราย-พวก แบ่งจ้างตัดสูทส่วนตัว
- คุก 2 ปี 6 ด.! นายกอบต.ศรีสุข สารคาม เบิกจ่ายเงินปรับปรุงภูมิทัศน์ศูนย์เด็กมิชอบ