‘จุรินทร์’ กราบขอโทษกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น กรณี ‘ปริญญ์ พานิชภักดิ์’ พร้อมลาออก 2 เก้าอี้ประธานนโยบายสตรีแห่งชาติ – ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ตั้ง ‘รัชดา ธนาดิเรก’ วางมาตรการป้องกัน เยียวยา รวมถึงกำหนดคุณสมบัติคนเข้าพรรคในอนาคต มอบหมาย 'นราพัฒน์ แก้วทอง' สอบไลน์กลุ่มพรรคหลุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 เม.ย.2565 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมกรรมการบริหารพรรค แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงกรณีที่เกี่ยวข้องกับ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถูกกล่าวหาในคดีที่เกี่ยวกับการอนาจารและข่มขืน ที่ล่าสุดมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้ว 14 คน
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งและต้องขอถือโอกาสนี้กราบขอโทษกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ในฐานะหัวหน้าพรรคขอเรียนว่า ตนมีส่วนสำคัญในการนำนายปริญญ์เข้าพรรค แม้ว่ากระบวนการจะต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการบริหารพรรค และการดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคจะต้องผ่านการลงคะแนนให้ความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่ก็ตาม หรือแม้แต่กรณีที่เราไม่อาจจะทราบการณ์ล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้นอย่างไร แต่เมื่อเกิดเหตุขึ้นมาในฐานะหัวหน้าพรรคก็หนีไม่พ้นที่จะต้องรับผิดชอบ ต้องร่วมกับคณะกรรมการบริหารพรรคแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้ดีที่สุด
สิ่งที่เป็นจุดยืนของพรรคก็คือ 1.พรรคมีจุดยืนชัดเจนในการต่อต้านการคุกคามทางเพศ 2.พรรคมีความชัดเจนในการต่อต้านการใช้ความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว 3.ต่อต้านการเลือกปฏิบัติ เพราะเหตุแห่งความแตกต่างระหว่างเพศ
“กรณีนายปริญญ์ ขอเรียนให้ทราบว่า พรรคจะไม่เข้าไปปกป้อง และขอเรียนให้ได้รับความสบายใจว่า พรรคจะไม่เข้าไปแทรกแซงใดๆ ในกระบวนการยุติธรรม เพราะถือว่ากระบวนการยุติธรรมจะทำหน้าที่พิสูจน์ข้อเท็จจริง เป็นกระบวนการที่เป็นที่ยอมรับได้ของประชาชนทั้งประเทศ” นายจุรินทร์
นายจุรินทร์ กล่าวด้วยว่า พรรคจะไม่เพิกเฉยดูดายต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยจะ ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมถึงกำหนดมาตรการป้องกัน มาตรการเยียวยา และกำหนดคุณสมบัติผู้ที่จะเข้ามาทำงานในพรรคเพิ่มเติมจากเดิมที่มีอยู่แล้ว 21 ข้อ โดยมอบหมายให้ น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการบริหารพรรค ทำหน้าที่เป็นประธาน นอกจากนั้นยังมอบหมายให้นายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรคภาคเหนือ เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบกรณีที่ปรากฎข้อความในไลน์กลุ่มของพรรคด้วย
นายจุรินทร์ กล่าวต่ออีกว่า ส่วนกรณีของตนได้ตัดสินใจลาออกจากคณะกรรมการ 2 ชุดที่เป็นประธานอยู่ในรัฐบาล คือ คณะกรรมการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ คณะกรรมการยุทธศาสตร์และนโยบายสตรีแห่งชาติ เพื่อป้องกันการเกิดผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ ต้องขออภัยนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีของนายปริญญ์สร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นกับพรรคหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ต้องถือว่าพรรคได้รับผลกระทบมาก แต่ไม่ขอย้อนไปเพราะจะกลายเป็นย้อนไปถึงอดีตเกินความรับผิดชอบของตน แต่ตั้งแต่ตนเป็นหัวหน้าพรรค กรณีนี้ส่งผลกระทบต่อความเสียหายกับพรรคมากทีเดียว
เมื่อถามอีกว่าทำไมถึงเพิ่งมีการแถลงข่าวทั้งที่เกิดเหตุไปแล้วหลายวัน นายจุรินทร์ ตอบว่า ความจริงได้ให้สัมภาษณ์ไปหลายครั้งแล้วตั้งแต่ต้น แต่อาจไม่เป็นข่าวใหญ่และอยู่ในช่วงวันหยุด แต่ได้ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ พร้อมมอบหมายบุคลากรของพรรคได้ออกมาแถลงข่าวหลายครั้งอยู่แล้ว
เมื่อถามอีกว่าได้คุยกับนายศุภชัย พานิชภักดิ์ ซึ่งเป็นบิดาของนายปริญญ์หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า นายชวนได้ให้สัมภาษณ์ต่อสาธารณะแล้วว่า ท่านมั่นใจว่า นายศุภชัย ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่ใช่คนที่จะเข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมหรือใช้อำนาจอิทธิพลใดๆ ส่วนตัวไม่ได้คุยกับท่าน เพราะท่านไม่สะดวกที่จะรับโทรศัพท์
เมื่อถามว่าเรื่องนี้กระทบกับการเลือกตั้งในอนาคตหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่สามารถตอบได้ตรงนี้ ตราบใดที่เป็นหัวหน้าพรรค และคณะกรรมการบริหารพรรคชุดนี้ยังทำหน้าที่ เราจะขับเคลื่อนพรรคให้เดินไปข้างหน้ามีปัญหาก็ต้องแก้ ไม่หนีปัญหา ในการนำพรรคไปสู่การเลือกตั้ง ก็เป็นหน้าที่หนึ่งที่ต้องทำอย่างสุดกำลังความสามารถ
“เราหวังว่าในอนาคตเราจะสามารถได้รับเสียงตอบรับที่ดีขึ้นจากประชาชน แต่ต่อสถานการณ์นี้เป็นสถานการณ์ที่อาจทำให้พรรคได้รับผลกระทบเป็นหน้าที่กรรมการบริหารพรรค รวมทั้งผม โดยเฉพาะผมที่จะต้องผ่านมันไปให้ได้โดยที่จะขับเคลื่อนพรรคไปในทิศทางที่ดีที่สุด” นายจุรินทร์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวการเรียกร้องให้คณะกรรมการบริหารพรรคแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก นายจุรินทร์ กล่าวว่า เรื่องนี้เราได้ไตร่ตรองเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็มี 2 มุม คือ หากลาออก ทิ้งปัญหาไว้ก็จะกลายเป็นการหนีปัญหา เป็นความไม่รับผิดชอบประการหนึ่ง เราก็คิดกันว่าเมื่อเกิดปัญหาขึ้น เกิดในยุคเรา ก็เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องไปแก้ปัญหาให้เสร็จสิ้นลุล่วง ไม่ใช่ทิ้งปัญหาไว้ให้คนอื่นต้องรับผิดชอบ
นายจุรินทร์ กล่าวย้ำถึงกระแสข่าวว่าเป็นคนพานายปริญญ์เข้มาในพรรคตั้งแต่ต้น ว่า ตนไม่ขอย้อนไปดูเรื่องที่พาดพิงถึงใครก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่ได้เรียนก็คือ ตนมีส่วนสำคัญในการพานายปริญญ์เข้ามาในพรรค แม้ว่าจะต้องผ่านกระบวนการของพรรค มีการลงมติให้ความเห็นชอบก็ตาม แต่สุดท้ายผมก็ต้องรับผิดชอบ อันนี้เป็นบทเรียนประการหนึ่งที่ต้องไปดูว่ากระบวนการคัดคน พิจารณาคนต่อไปในอนาคตจะต้องแก้ไขอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ขณะที่พานายปริญญ์เข้ามาในพรรครู้เรื่องลักษณะนี้หรือมีคนทักท้วงหรือไม่ นายจุรินทร์ ตอบทันทีว่า “ไม่ขอย้อนไปได้ไหมครับ แต่ผมได้เรียนแล้วว่า ผมเป็นคนพานายปริญญ์เข้ามาในพรรค แม้ต้องผ่านกระบวนการลงมติให้ความเห็นชอบก็ตาม สุดท้ายก็หนีไม่พ้นที่ผมต้องรับผิดชอบ และผมก็ได้ดำเนินการอย่างที่เรียนว่าต้องเข้มงวดขึ้นในเรื่องการตรวจสอบคุณสมบัตินอกเหนือ 21 ข้อที่มีอยู่แล้ว”
เมื่อถามย้ำว่าเรื่องนี้สั่นคลอนเก้าอี้หัวหน้าพรรคหรือไม่ นายจุรินทร์ ตอบว่า “ความจริงก็เป็นคำตอบเดิม เราก็ทำหน้าที่ของเรา เมื่อเรามีหน้าที่ หลักของผมคือเน้นเรื่องปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด ส่วนจะสั่นคลอนหรือไม่ ผมไม่ขอตอบ แต่ผมมีหลักของผม เมื่อมีหน้าที่ก็ทำเต็มกำลังความสามารถ”
ข่าวประกอบ :
- 'ปริญญ์'ปฏิเสธข้อกล่าวหาลวนลาม ลาออกทุกตำแหน่งใน ปชป.พร้อมพิสูจน์ความจริง
- 4 ผู้เสียหายแจ้งความ'ปริญญ์' ด้าน ปชป.ลั่นไม่ปกป้องคนผิด-ตร.จ่อออกหมายจับพรุ่งนี้
- 'ปริญญ์'ย่องพบตำรวจ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา นัดฝากขังศาลอาญากรุงเทพใต้ 17 เม.ย.นี้
- 'ปริญญ์เอฟเฟค' ไลน์ ปชป.ฉะกันดุเดือด-กลุ่ม ส.ส.จี้ผู้บริหารพรรคออกมาขอโทษ ปชช.
- ศาลอาญากรุงเทพใต้ให้ประกัน'ปริญญ์ พานิชภักดิ์'พร้อมสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศ
- 'ชวน' แนะ กก.บห.ประชาธิปัตย์รีบแจงปมคดี 'ปริญญ์' หวั่นกระทบพรรค-ความรู้สึก ปชช.
- ตำรวจเผย 'ปริญญ์' โดนแจ้งความ 5 คดี ขู่หากยุ่งเหยิงพยาน มีสิทธิถอนประกันทันที
- ผู้เสียหายเข้าพบตำรวจรวม 14 ราย แจ้งความถูก'ปริญญ์'ลวนลาม-ข่มขืน