แม้ว่า จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง จะแพ้ให้กับ อิมาน เคลิฟ ในการแข่งขัน มวยสากลโอลิมปิกเกมส์ 2024 ในรอบรองชนะเลิศ เรื่องราวนี้ทำให้ผู้เขียนนึกถึงการ์ตูนกีฬาในตำนานเรื่องหนึ่ง ว่าถึงนักเลงข้างถนนทาดะ สู่ชายหนุ่มแสนเร้าร้อน ตัวละครขวัญใจชาวญี่ปุ่น ชื่อนั้นคือ "โจ สิงห์สังเวียน"
"โจ สิงห์สังเวียน" เล่าเรื่องราวของ โจ ยาบุกิ เด็กหนุ่มยากจน ที่เติบโตในกรุงโตเกียวหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เค้าเป็นเด็กที่เกลียดชีวิตแบบที่เป็นอยู่ และต้องการอิสระ โจ จึงได้หนีจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามาอยู่ในสลัมแถวโตเกียว เค้าใช้เวลาทั้งวันไปกับการพนัน การต่อสู้บนท้องถนน และหลอกลวงเงินคนอื่น
วันหนึ่งเค้าได้พบกับ ดันเป ทันเกะ อดีตนักมวยที่ไม่สามารถทำตามความฝันที่จะเป็นแชมป์โลกได้ เนื่องจากสูญเสียดวงตาไป ข้างหนึ่ง เลยผันตัวเจ้าของค่ายมวยตกอับแถวย่านสลัม แต่ลูกศิษย์ของเขาทุกคนมักจะทอดทิ้งเขาตลอด ผลที่ตามมาคือเค้าเริ่มดื่มเหล้าเพื่อลืมความเจ็บปวดจากความฝันที่พังทลาย ดันเป เห็นแวว เลยพยายามโน้มน้าวให้ โจมาต่อยมวย
คู่ปรับที่ไม่มีวันชนะได้อีก
เนื่องจากความผิดทางอาญาที่โจก่อไว้ โจ จึงถูกส่งไปยังสถานกักขังเยาวชน แต่นั้นกลับทำให้เค้าเจอคู่ปรับและเพื่อนของอย่าง โทรุ ริคิอิชิ ในการเผชิญหน้าครั้งแรก โจ ได้ท้าทายริคิอิชิ โดยไม่รู้ว่า เค้าเคยเป็นนักมวยอาชีพมาก่อน แต่ โจ ก็สามารถต่อยหน้า ริคิอิชิ หนึ่งหมัด ก่อนที่จะโดนน็อกด้วยหมัดเดียว จึงเป็นเหตุผลให้โจอยากที่จะฝึกฝนตนเองเพื่อชนะ ริคิอิชิ ให้ได้
เมื่อทั้งคู่ออกจากสถานกักกัน ริคิอิชิ ได้รับย่องนักมวยหน้าใหม่ ที่จะใกล้ไปสู่ระดับโลก ส่วนโจนั้นยังไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก จนในที่สุดทั้งคู่ก็ได้มีโอกาสมาวัดฝีมือกันอีกครั้งบนเวที แต่เนื่องจากทั้งสองคนก็ชกในคนละรุ่น (โจ ชกในรุ่นBantamweight) ริคิอิชิ จึงลดน้ำหนักถึงสามรุ่นเพื่อขอเจอกับ โจ โดยเฉพาะ ร่างกายของเค้าซูบผอม จนน่าใจหาย
ในการต่อสู้ครั้งนี้โจได้เปรียบกว่าในด้าน สรีระร่างกาย เพราะ ริคิอิชิ มีอาการหอบเหนื่อยอย่างเห็นได้ชัด จากการลดน้ำหนักลงอย่างรวดเร็ว แต่หลังจาก ครอสเคาน์เตอร์ กันไปมา ริคิอิชิ ได้จังหวะชก หมัด อัปเปอร์คัตปลายคาง จน โจ หน้าหงาย ผ่านแพ้อย่างน่าเสียดาย
ถึงแม้ชัยชนะครั้งนี้จะเป็นของ ริคิอิชิ แต่เห็นทีว่า ธรรมชาติจะชนะมากกว่า เพราะเนื่องจาก ริคิอิชิ โหมลดน้ำหนักผิดวิธี รวมถึงโดน โจ ครอสเคาน์เตอร์ เข้าที่หน้าจังๆ ทำให้เลือดคั่งในสมอง และเสียชีวิตลงในเวลาต่อมา จากเหตุการณ์นี้ทำให้ โจ ไม่สามารถต่อยมวยได้อีก
การตายของ โทรุ ริคิอิชิ
การตายของตัวละคร ริคิอิชิ ไม่ได้สะเทือนใจแค่ตัวละครในเรื่องเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบมาสู่ผู้อ่านในสมัยนั้น จนทำให้มีคนโทรไปหาอาจารย์ ชิบะ ผู้เขียน โจสิงห์สังเวียน ว่าเหตุใดทำไมต้องฆ่า ริคิอิชิ? ถึงขั้นมาเคาะประตูถึงหน้าบ้านก็มี ทำให้ สำนักพิมพ์ โคดันฉะ จัดงานศพขึ้นจริงๆ ในพื้นที่ของสำนักงานใหญ่ในวันที่ 24 มีนาคม 1970 ประมาณ 1 เดือนหลังการตายของริคิอิชิ ซึ่งมีแฟนๆ เข้าร่วมพิธีไว้อาลัยมากถึง 700 กว่าคน
การกลับมาของ โจ
โจ หายตัวไปจากวงการนานหลายปี เค้าไม่สามารถทำตามเป้าหมายของตัวเองได้อีกแล้ว การต่อยมวยกลายมาเป็นฝันร้ายของเค้า จน โจ ได้ไปพบกับ คาร์ลอส ริเวียร่า รองแชมป์อันดับ 6 ของโลก ฉายา ริคิอิชิ คนใหม่แห่งวงการ ทำให้จิตวิญญาณนักสู้ของเค้ากลับมาอีกครั้ง ในการชกกับ คาร์ลอส ผลออกมาคือเสมอ ก่อนที่คาร์ลอสจะกลับไปต่อยกับนักมวยในตำนาน อย่าง เมนโดซ่า โฮเซ่ นักมวยเจ้าของเข็มขัดแชมป์ชาวเม็กซิกัน
ผลของการแข่งตำแหน่งแชมป์มวยโลก ระหว่าง คาร์ลอส ริเวียร่า ปะทะ เมนโดซ่า โฮเซ่ คาร์ลอส โดน เมนโดซ่า ยิงหมัดใส่น็อคเพียงแค่ยกแรก และผ่ายแพ้ไปอย่างน่าเสียดาย แต่สิ่งที่แย่ยิ่งกว่า คือผลที่ตามมาของนักมวยที่เลี่ยงไม่ได้ นั้นก็คืออาการเมาหมัด ซึ่งมีอาการสั่นเคลื่อนไหวช้าพูดไม่ชัดคล้ายคนที่เป็นโรคพาร์กินสัน แต่เกิดจากการที่สมองถูกกระทบกระเทือนจากการชกมวย ทำให้ คาร์ลอส ริเวียร่า สิ้นความเป็นนักมวยดาวรุ่ง
หลังจากความผ่ายแพ้ของ คาร์ลอส ริเวียร่า โจ ได้ตั้งเป้าหมายว่าจะต้องไปชกกับ เมนโดซ่า โฮเซ่ และ คว้าเข็มขัดแชมป์โลกให้ได้ โจ ค่อยๆขึ้นชกมาเรื่อยๆ จนสามารถคว้าตั๋วเข้าไปชกกับ เมนโดซ่า ได้ แต่จากการชกก่อนหน้านี้ ทำให้ โจ ต้องเจอกับ อาการเมาหมัด อย่างรุนแรง....
แม้ โจ จะโดนเตือนจากคนรอบข้างให้ถอนตัวจากการชกในครั้งนี้ เพราะอาจซ้ำรอยแบบ ริคิอิชิ และ คาร์ลอส
“ชายที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกกำลังรอฉันอยู่บนเวทีนั่น นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงต้องไป”
โจตอบกลับให้กับคนรอบข้างที่เป็นห่วงตัวเอง
เมื่อถึงการแข่งขัน เมนโดซ่า เหนือกว่า โจ เป็นอย่างมาก สไตล์การชกของ เมนโดซ่า เยือกเย็น รออ่านเกม แล้วสวนกลับ ทำให้เค้าหลบหมัด โจ ได้เกือบทุกหมัด และสวนได้แทบทุกครั้ง ทำให้โจเป็นเสียเปรียบ จากนั้นเมนโดซ่า กระหน่ำชก โจ เข้าไปราวกับกระสอบทราย
แต่ก็ไม่อาจล้ม โจ ได้ เพราะเค้าไม่ยอมแพ้ โจลุกขึ้นและต่อยไปอีกเรื่อยๆ จนกระทั่งโจเริ่มชกโดนหน้าของ เมนโดซ่า ได้ ในตอนนั้น เมนโดซ่า ก็ได้เข้าใจ ว่า โจ คือคู่ต่อสู้ที่เค้าไม่เคยเจอมาก่อน เพราะ โจ เลือกที่จะชกไปเรื่อยๆ แบบไม่กลัวตาย ต่างจากเค้าที่ไม่กล้าเอาชีวิตไปเสี่ยงขนาดนี้ เมนโดซ่า เริ่มสูญเสียความเยือกเย็นและเกิดความกลัว จนผมของเค้าหงอกกลายเป็นสีขาวทั้งหมด
อย่างไรก็ตามเมื่อระฆังส่งเสียงหมดเวลา ผลที่ออกมา เมนโดซ่า ชนะไป แต่สิ่งที่เค้าได้กลับไปคือความกลัวที่ไม่เคยเจอมาก่อน
ทางด้านของ โจ เค้านั่งนิ่งสงบข้างเวที พร้อมรอยยิ้ม ที่แสดงถึงความพึงพอใจเป็นอย่างมาก แม้ว่าเค้าจะต้องเสียชีวิตจากการชกในครั้งนี้ก็ตาม
โจเปรียบเสมือนภาพสะท้อนของคนญี่ปุ่นหลังยุคสงความ ที่พยายามจะฟื้นฟูเปลี่ยนแปลงตัวเอง แม้จะเคยผิดพลาด
สิ่งที่โจได้แสดงให้ผู้ชมได้เห็น คือ การทำตามความฝันจนสุดแรง แม้จะไม่สำเร็จก็ตาม แม้เค้าจะรู้ว่าตัวเองมีปัญหาทางด้านสุขภาพ แต่ก็เลือกที่จะใช้ชีวิตอย่างที่ต้องเองต้องการในวาระสุดท้าย คนเราเลือกที่เกิดไม่ได้ แต่ก็อย่าให้อะไรก็ตามมาหยุดความฝัน เราเลือกเส้นทางชีวิตที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ชีวิตเป็นของเรา
แม้ว่าจะพลาด แต่อย่างน้อยเราก็ได้ลองสุดความสามารถแล้ว ถึงจะไม่สำเร็จก็ตาม สำหรับผมนี่คือความสวยงามของชีวิตที่น่าหลงไหลครับ
สุดท้ายนี้ขอเป็นกำลังใจให้ผู้อ่านทุกคน ที่กำลังตามความฝัน แม้จะมีเหนื่อยบ้างแต่ก็ก้าวกันต่อไปครับ