มีหนังอยู่เรื่องหนึ่งที่ใช้ทุนสร้างทั้งหมดเพียงแค่ 30,000 บาท รอบฉายมีเพียงแค่รอบเดียว (ค่าเช่าโรงแพงกว่าทุนหนังทั้งเรื่อง) ขายตั๋วเพียงแค่หน้าเฟซบุ๊ก (Facebook) ส่วนตัว และเก็บค่าตั๋วเพียงแค่ 100 บาท ชื่อของหนังเรื่องนี้คือ "ก๋วยเตี๋ยวเย็น"
ภาพยนตร์หรือเรียกกันทั่วไปว่า "หนัง" เป็นหนึ่งในสื่อบันเทิงชนิดหนึ่ง ที่ผู้เขียนเชื่อว่าทุกคนต่างต้องเคยดูหนังมาซักเรื่องไม่มากก็น้อย หรือมีหนังในดวงใจของตัวเองซักเรื่อง ความมหัศจรรย์ของหนังสามารถทำให้ผู้คนต่างลืมความเป็นจริงบนโลกเราไปในช่วงเวลาที่ฉาย ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่จอแก้ว ไม่อาจละสายตาได้ สิ่งเหล่านี้สำหรับบางคนมันเป็นมากกว่าแค่เรื่องแต่งเพื่อสร้างความสุข แต่มันคือศิลปะของการเล่าเรื่อง
แต่คุณผู้อ่าน เคยคิดไหมครับว่า หนัง 1 เรื่องต้องใช้ต้นทุนเท่าไหร่ถึงจะทำได้ ?
หนัง 1 เรื่องใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูง (หนังไทยอยู่ที่เฉลี่ยประมาณ 20-30 ล้านบาท ยังไม่รวมการทําตลาดหรือโปรโมท) แต่มีหนังอยู่เรื่องหนึ่งที่ใช้ทุนสร้างทั้งหมดเพียงแค่ 30,000 บาท รอบฉายมีเพียงแค่รอบเดียว (ค่าเช่าโรงแพงกว่าทุนหนังทั้งเรื่อง) ขายตั๋วเพียงแค่หน้าเฟซบุ๊ก (Facebook) ส่วนตัว และเก็บค่าตั๋วเพียงแค่ 100 บาท
ชื่อของหนังเรื่องนี้ คือ "ก๋วยเตี๋ยวเย็น"
(ภาพโปสเตอร์หนังเรื่อง ก๋วยเตี๋ยวเย็น)
"ในปี พ.ศ. 2524 ชายโชกเลือดปริศนาที่พยายามวิ่งหนีเอาชีวิตรอด เพื่อไปขอความช่วยเหลือจากกลุ่มเพื่อนที่เป็นแก๊งมาเฟียตกอับ"
นี่เป็นเรื่องย่อของก๋วยเตี๋ยวเย็น หนังไทยสุดแปลกที่มีสไตล์การเล่าเรื่องคล้ายหนังของเควนติน แทแรนติโน (Quentin Tarantino) เจ้าของผลงานหนังชื่อดังอย่าง Pulp Fiction,Kill Bill, Reservoir Dogs ที่ชอบใช้เส้นเรื่องแบบไม่เป็นเส้นตรง มีความรุนแรง ทางภาพ ภาษา และตลกร้าย ที่สอดแทรกเนื้อหาเสียดสีสังคมหรือเรื่องใกล้ตัว ผ่านบทสนทนา การกระทำของตัวละคร ก๋วยเตี๋ยวเย็นนั้นได้นำมาผสมกับความเป็นไทยในยุค 80
หนังเรื่องนี้เล่าเรื่องของเหล่าชายที่มีมุมมองต่อผู้หญิงเป็นดั่งพระเจ้า บงการชีวิตของพวกเค้า
(ภาพเควนติน แทแรนติโน จากหนังเรื่อง pulp fiction)
จุดเด่นที่สุดของก๋วยเตี๋ยวเย็น คือ การเล่าเรื่องด้วยบทและภาพที่สอดประสานกันเป็นหนึ่งเดียว ด้วยการเล่าเรื่องผ่านการถ่ายแบบ "Long Take" ที่จะดำเนินเหตุการณ์ไปแบบไม่มีการคัตแต่จะเดินกล้องไปแบบต่อเนื่องปล่อยให้เหตุการไหลไป
น่าเสียดายว่าถ้าหากหนังเรื่องนี้มีทุนมากกว่านี้อาจจะกลายเป็นหนังที่ถ่ายแบบ Long Take ทั้งเรื่องเลยก็ได้
ตัวบทเองก็ค่อย ๆ ไต่ระดับความสนุกขึ้นไปเรื่อยจากเหตุการเล็กๆ สู่เหตุการณ์บานปลายเหมือนไฟลามทุ่งไปเรื่อยๆ และสามารถหาทางลงให้กับตอนจบได้อย่างสวยงาม สอดแทรกกับความตลกร้ายที่ชวนเครียดกับสถานการณ์ไปพร้อม ๆ กัน
เหมือนอาหารรสจัดที่มีซุปมาคอยตัดรสไม่ให้เลี่ยนเกินไป
(ภาพจากหนังเรื่อง ก๋วยเตี๋ยวเย็น)
จุดเด่นข้อต่อมาคือการแสดงของนักแสดงที่เป็นมือใหม่ ที่ไม่เหมือนมือใหม่แสดงแม้แต่น้อย สามารถทำให้ผู้ชมกลายเป็นส่วนหนึ่งของหนังได้อย่างง่ายได้ ด้วยบทสนทนาที่ดูเป็นธรรมชาติ แต่อาจจะมีคำหยาบคายที่ให้ความรู้สึกว่ามันเยอะไปบ้างในช่วงแรกๆ แต่เมื่อรับชมไปเรื่อยๆ จะรู้สึกคุ้นชินและเพลินไปกับคำหยาบคายที่ออกมาจากปากของตัวละครเหล่านี้ ในส่วนเพลงประกอบของเรื่องเป็นแนว Disco funk ที่สามารถบอกเล่าบรรยากาศเมืองไทยในยุค 80 ได้เป็นอย่างดี
จุดอ่อนของเรื่องนั้น คงจะเลี่ยงไม่ได้ว่าเป็นเรื่องของทุนสร้างที่น้อยจนเกินไป
ผู้กำกับอย่างคุณ ธีรภัทร กองรัตน์ (คุณยิม) ได้บอกไว้หลังหนังฉายจบว่า หนังเรื่องนี้มีเวลาถ่ายทำเพียงแค่ 2 วันเท่านั้น เนื่องจากงบประมาณที่เอาไปทุ่มกับการเช่าสถานที่และของตกแต่งประกอบฉากต่างๆในหนัง ทำให้บางครั้งเราจะเห็นได้ว่าคุณภาพของอุปกรณ์ในการอัดเสียง นั้นออกมาได้ไม่ดีเท่าไหร่ กล้องบางครั้งก็มีหลุดโฟกัสบ้างเป็นบางครั้ง แต่หากเอาไปเทียบกับหนังที่มีทุนสร้างเป็นล้าน ผู้เขียนถือว่าคุณภาพที่ปรากฏมาในหนังเรื่องนี้ ถ้าไม่เรียกว่าสุดยอดแล้วจะหาคำอะไรมาเปรียบได้
ผู้กำกับได้ใช้เวลากว่า 6 เดือนในการต่อบทและวางแผนเป็นอย่างดี ต้องชื่นชมเหล่าทีมงานและผู้กับกำที่สามารถสร้างผลงานนี้ออกมาได้
(ภาพจากหนังเรื่อง ก๋วยเตี๋ยวเย็น)
หนังเรื่อง ก๋วยเตี๋ยวเย็น ได้แสดงให้เห็นถึงว่า "การประสบความสำเร็จสำหรับหนังเรื่องหนึ่งนั้นไม่ใช่เพียงแค่รายได้ที่มากมายเท่านั้น"
"ในยุคที่มีแต่หนังที่ทำตามนายทุนและหวังผลกำไร แต่สำหรับคนเหล่านี้ หนังคือศิลปะที่ผู้สร้างอยากจะสื่ออะไรออกมาก็ได้ และมอบความบันเทิงให้ผู้ที่ได้รับชมมีความสุขกลับบ้านไปพร้อมรอยยิ้ม"
"หนังเรื่องนี้เป็นเพียงแค่กลุ่มคนบ้า ๆ ที่แค่อยากทำหนังและเล่าเรื่องที่เค้าจะเล่าโดยที่ไม่สนผล กำไร"
นักแสดงและทีมงานของเรื่องที่มาโดยสมัครใจและไม่ได้ค่าจ้างแม้แต่น้อย" ผู้กำกับได้กล่าวไว้ในตอนสุดท้ายหลังหนังฉายจบ
เพราะสำหรับ "เขา" ดูเหมือนว่า "หนังจะมีค่าต่อเมื่อฉายให้คนอื่นได้ดูและคนที่ดูสามารถมีความสุขกับหนังเรื่องนั้นได้พร้อม ๆ กัน"
(ภาพทีมงานและผู้กำกับ ก๋วยเตี๋ยวเย็น)