เนื่องในโอกาสที่ Speak No Evil ฉบับ ฮอลลีวูด ผมจึงขอหยิบหนังสยองขวัญฝั่งยุโรป ที่ไม่จำเป็นต้องมีฉากรุนแรงเยอะมาก แต่กลับสร้างความ หดหู่ สะเทือนใจ ได้ยิ่งกว่าหนังที่ฆ่าแกงกันอย่างโหดเหี้ยม ถึงขนาดมีคนกล่าวขานว่าดูหนังเรื่องนี้ไม่จบ ทนรับสภาพของตัวละครหลักในเรื่องไม่ไหว เพราะหนังเรื่องนี้ใช้เพียงแค่ “ความอึดอัด”
สมัยก่อนผู้ใหญ่ในบ้านเรา พ่อแม่ผู้ปกครอง ไม่ว่าจะเป็นประเทศไทยหรือทั่วโลก เราต่างโดนสอนสิ่งๆหนึ่งที่คล้ายกันคือ "ความเกรงใจ" ความหมายของความเกรงใจก็คือ การที่ไม่ทำให้ผู้อื่นรู้สึกลำบากหรือเดือดร้อนรำคาญใจเพราะการกระทำของตัวเอง แต่ด้วยสิ่งนั้นเองมันอาจทำให้มีคนที่ฉวยโอกาสจากความเกรงใจนั้นของคุณรึเปล่า?
.
เมื่อครอบครัวชาวเดนมาร์กได้มาพบกับ ครอบครัวชาวดัตช์ในช่วงวันหยุดพักร้อนที่เมืองทัสคานี พวกเขาเริ่มสนิทกันอย่างรวดเร็วจนสานสัมพันธ์กลายเป็นเพื่อนสนิท .
จนวันหนึ่ง ครอบครัวชาวเดนมาร์กก็ได้รับคำเชิญจากชาวดัตช์ ให้ไปเที่ยวที่บ้านพักของเขาในชนบทที่เนเธอร์แลนด์ แต่เมื่อพวกเขาเดินทางมาถึง ความแปลกประหลาดทั้งหมดก็เริ่มต้นขึ้น และโดยที่ไม่มีใครคาดคิด ครอบครัวชาวดัตช์ค่อย ๆ เริ่มเผยตัวตน จากมิตรภาพที่น่าไว้วางใจ กลายมาเป็นเหล่าตัวอันตรายที่เตรียมจ้องเล่นงานพวกเขาอย่างเงียบ ๆ และตั้งใจที่จะทำให้ทุกคนไม่มีวันได้ออกจากที่นั่นอีกตลอดไป
.
(บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาในเรื่อง Speak No Evil)
.
เพียงเปิดมาตอนต้นเรื่องก็สามารถทำให้ผมขนลุกได้ด้วยงานของเพลงประกอบที่ฟังเเล้วรู้สึกวังเวง อึดอัดมากๆ ทั้งที่บางฉากมีเพียงบทสนทนาปกติในชีวิตประจำวัน แต่มันทำให้คุณรู้สึกวังเวง ไม่ปลอดภัย อึดอัดได้ตลอดเวลา เข้ากับสถานการณ์ที่ว่าด้วยเรื่องของการมี “มารยาท” กับ “คนไร้มารยาท”
การแสดงในเรื่องนี้ เรียกได้ว่าทุกคนสามารถเข้าถึงบทบาทของตัวละครได้อย่างสมบูรณ์แบบ อาจจะเพราะตัวละครในเรื่องนี้ัค่อนข้างมีความเหมือนมนุษย์ปกติเป็นอย่างมาก เช่น ตัวละครหัวหน้าครอบครัวอย่าง
บียอร์น ที่เป็นเพียงพ่อบ้านธรรมดา ที่ได้ใช้ชีวิตแบบคนปกติ ที่ใส่หน้ากากเข้าหาคนอื่นด้วยรอยยิ้ม หากแต่รู้ไม่ว่าภายใต้รอยยิ้มของเค้านั้น ไม่ได้อยากทำแม้แต่น้อย แต่เค้าโดนคำสั้นๆอย่างคำว่า " ความเกรงใจ " เป็นตัวดันหลังให้เค้าทำในสิ่งที่เค้าก็รู้ว่าตัวเองไม่อยากทำ
วิธีการเล่าเรื่องของหนังเรื่องนี้จะค่อนข้างแปลกนิดหน่อย ปกติหนังจะมี 3 องค์ แต่สำหรับเรื่องนี้ใช้เวลาในการเล่าความสัมพันธ์ ไป 2 องค์ ทำให้ผู้ชมที่ต้องการหาพล็อตประหลาดจากหนังเรื่องนี้อาจจะไม่สนุกเท่าไหร่ แต่คุณควรซึมซับบรรยากาศและความรู้สึกตัวละคร Speak No Evil ให้บรรยากาศที่โคตรจะกดดัน ทั้งที่เป็นเพียงบทสนทนาปกติ หากจะเปรียบคงเหมือนดูเรื่อง Funny Game กับ Get Out แต่ที่เจ๋งกว่าคือ
Speak No Evil มีเพียงบทสนาและฉากความรุนแรงที่น้อยมากๆ แต่กลับมอบความสยองขวัญให้กับคุณได้อย่างเหลือจะเชื่อ หากใครที่ไม่ชอบความกดดันอาจไม่เหมาะกับหนังเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
สำหรับ Speak No Evil ได้ให้ข้อคิดที่สุดแทนจะเป็นทางลบมากๆ ให้กับสังคม อย่างข้อคิดที่ว่า “เหตุผลที่เรื่องราวแย่ๆเกิดขึ้นกับตัวละครหลัก เกิดมาจากความใจดีและความเกรงใจ” แต่หากนำมาคิดดีๆนี่อาจจะเป็นการพูดความจริงมากกว่าเรื่องลบ เพราะหนังเรื่องนี้ได้แสดงให้เห็นความผลกระทบของความใจดี และความเกรงใจ มนุษย์โดยปกติทั่วไปมักจจะมีความคิดที่ว่า “นิดหน่อยคงไม่เป็นไร” จนทำให้เราไม่กล้าที่จะพูดในสิ่งที่คิดออกมา แต่จุดไหนกันที่คุณควรจะหยุดความรู้สึกนี้ ?
ทั้งหมดนี้เกิดจากความเกรงใจที่มีต่อเพื่อนมนุษย์ ท้ายที่สุดแล้วหากคุณเลือกที่จะใจดีหรือเกรงใจทุกคน คุณนั้นแหละที่จะแย่เอง เพราะก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเกรงใจคุณกลับ
.
นี่คือหนังที่ตั้งคำถามกับความเกรงใจของมนุษย์ที่ถูกหล่อหลอมมาแต่เกิด ว่าบางครั้งความเกรงใจของเรานั้นอาจถูกเอาเปรียบจากผู้ไม่หวังดี จนบางทีมันอาจจะเป็นเราเองรึเปล่า ที่ไม่ได้บอกเค้าเองว่าเราไม่ชอบที่เค้าทำเช่นนี้ ?
สำหรับใครที่อยากหารับชม ก็สามารถไปรับชมได้ที่ Netflix
ส่วนฉบับฮอลลีวูด เองก็จะฉายในโรงภาพยนตร์ ในวันที่ 12 กันยายนนี้
- Vinland Saga : นักรบที่แท้จริงไม่จำเป็นต้องมีดาบ
- สืบสันดาน : อาหารรสชาติเดิม แค่เปลี่ยนจานใหม่
- ฆาตกรรมรักหลังเขา : แก่นแท้ความลุ่มหลง
- ก๋วยเตี๋ยวเย็น : หนังบ้า ๆ ของกลุ่มคนบ้า ๆ