ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส มอบเงิน 150,000 บาท ให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองใช้ปรับปรุงสถานที่กักกัน รองรับแรงงานต่าวด้าวกักตัวระหว่างดำเนินคดีหนีเข้าเมืองและป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19
เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 10 มี.ค.64 ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนราธิวาส นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานมอบเงินจำนวน 150,000 บาท ให้ พ.ต.อ.ศุภชาติ เวชพร ผกก.ตม.จว.นราธิวาส เพื่อนำไปปรับปรุงสถานที่กักกันด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนราธิวาส ตามโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการความมั่นคงภายในพื้นที่ เพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่ชายแดนจังหวัดนราธิวาส โดยมีนายก้องสกุล จันทราช ปลัดจังหวัดนราธิวาส พ.ต.อ.เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก-ลก ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องร่วมเป็นเกียรติฯ
นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ทางจังหวัดนราธิวาสเห็นความสำคัญของการปรับปรุงสถานที่กักกันด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนราธิวาส เนื่องจากในห้วงที่ผ่านมา มีแรงงานต่างด้าวหลายสัญชาติลักลอบเข้ามาในพื้นที่ชายแดน ตามเส้นทางธรรมชาติจำนวนมาก ซึ่งต้องมีการกักตัวในระหว่างการดำเนินคดีชั่วคราว ขณะที่สถานที่กักกันของทางราชการ มีไม่เพียงพอ ซึ่งจังหวัดนราธิวาสได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและได้หารือกับทางตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส หาแนวทางการกักกันตัวแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาในพื้นที่ ซึ่งเป็นไปตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อให้สถานที่กักกันมีความปลอดภัย และได้มาตรฐานยิ่งขึ้น
หลังจากมอบเงินเป็นที่เรียบร้อย ทางผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้ถือโอกาสเยี่ยมชมสถานที่กักกันของด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนราธิวาส ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างกำลังดำเนินการปรับปรุงชั่วคราว
ในส่วนของแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายที่ลักลอบข้ามชายแดนเข้ามาทางพื้นที่ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่จับกุมและอยู่ในการควบคุมดูแลของทางตำรวจตรวจค้นเข้าเมืองจังหวัดนราธิวาส ( ตัวเลข ณ วันที่ 9 มี.ค.64 ) มีจำนวนทั้งหมด 153 คน
สำหรับปัญหาขาดแคลนสถานที่กักกันแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองผิดฎหมาย ซึ่งเสี่ยงแพร่เชื้อโควิด-19 นี้ เป็นปัญหาใหญ่ที่ "ทีมข่าวอิศรา" เคยนำเสนอข่าวมาแล้วหลายครั้ง เพราะมีแรงงานต่างชาติจากมาเลเซียหนีภัยโควิดและภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ข้ามแดนผ่านไทยเพื่อกลับประเทศบ้านเกิดเป็นจำนวนมาก ทั้งแรงงานสัญชาติเมียนมา ลาว กัมพูชา และเวียดนาม เมื่อเจ้าหน้าที่ไทยจับกุมตัวได้ ก็ต้องหาสถานที่กักกันเพื่อรอดำเนินคดี และผลักดันออกนอกประเทศ แต่เนื่องจากชายแดนรอบบ้านไทยปิดด่าน ทำให้การผลักดันทำไมได้ แต่การจะกักตัวไปเรื่อยๆ โดยใช้ห้องคุมตัวผู้ต้องหาบนโรงพัก หรือห้องกักของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ก็มีปัญหาความแออัด และเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 ฉะนั้นการสนับสนุนงบประมาณเพื่อขยายสถานที่กักัน จึงเป็นการบรรเทาปัญหาตามที่ทีมข่าวเคยรายงานมาตลอด