เบตงเตรียมจัดตั้งโรงพยาบาลสนามแห่งแรกของอำเภอ หลังพบผู้ติดเชื้อโควิดเดินทางจากมาเลเซีย 3 รายซ้อน ลงมติใช้สถานีขนส่งแห่งใหม่ที่ยังไม่เปิดใช้ เตรียมรองรับผู้ป่วย เหตุอยู่ห่างไกลชุมชน ขณะที่ล่าสุดยังมีผู้พ้นโทษและแรงงานผ่านด่านพรมแดนเข้ามาอีก 19 รายเข้ากักตัว
วันที่ 20 ม.ค.64 ที่ห้องประชุมไกรลาส ที่ว่าการอำเภอเบตง นายสุริยา บุญพันธ์ ปลัดอาวุโส รักษาการแทนนายอำเภอเบตง เป็นประธานการประชุมคณะทำงานศูนย์ปฎิบัติการควบคุมโรคอำเภอเบตง( ศปก.อ.เบตง) ครั้งที่ 2/2564 เพื่อให้การเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) ในพื้นที่ อ.เบตงเป็นไปอย่างเข้มงวดและเหมาะสมกับสถานการณ์ พร้อมพิจารณาเสนอแนะ และเพิ่มมาตรการต่างๆ ให้รัดกุมยิ่งขึ้น รวมถึงติดตามผลการดำเนินงานในห้วงที่ผ่านมาและวางแผนดำเนินการในดำลับต่อไป เพื่อให้ อ.เบตง ยังคงเป็นพื้นที่ปลอดภัยไม่มีโควิด19
โดยการประชุมมีการรายงานสถานการณ์โควิด19 ในภาพรวมของประเทศในระดับ จังหวัดและในพื้นที่ อ.เบตง การชี้แจงคำสั่งและประกาศตามที่ ศบค.ส่วนกลาง และ ศบค.จังหวัดยะลา กำหนดการชี้แจงถึงมาตรการควบคุมกลุ่มผู้ขนส่งสินค้า การดำเนินการด้านแรงงานต่างด้าว การบังคับใช้กฎหมายต่อผู้ที่กระทำผิดฝ่าฝืนคำสั่ง/ประกาศ ศบค. /ศบค.จ.ยะลา รวมถึงการป้องกันการหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
นอกจากนี้ที่ประชุมยังหารือถึงการเตรียมความพร้อมในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม เพื่อรักษาผู้ติดเชื้อโควิด19 เนื่องจากโรงพยาบาลเบตงมีห้อง สำหรับรักษาผู้ติดเชื้อโควิด19 เพียงแค่ 4 ห้อง ขณะนี้ใช้รักษาผู้ติดเชื้อโควิด19 ซึ่งเป็นอดีตนักโทษที่พ้นโทษจากประเทศมาเลเซีย 2 ราย และแรงงานไทยจากมาเลเซีย 1 ราย ใช้ห้องสำหรับรักษา 3 ห้อง ทำให้เหลือห้องสำหรับรักษาผู้ติดเชื้อโควิด19 เพียงแค่ 1 ห้องเท่านั้น หากมีการระบาดในพื้นที่หรือมีผู้ติดเชื้อที่เดินทางกลับมาจากประเทศมาเลเซีย ในระยะนี้ อาจทำให้ไม่มีสถานที่เพียงพอ สำหรับรักษาผู้ติดเชื้อโควิด19 จึงจำเป็นต้องจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเป็นการชั่วคราว โดยในที่ประชุมได้มีมติเลือกสถานีขนส่งใหม่ ซึ่งยังไม่เปิดใช้บริการและอยู่ห่างชุมชน เป็นสถานที่สำหรับจัดตั้งโรงพยาบาลสนามรองรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด19
ส่วนที่กองอำนวยการร่วมประสานงานประจำด่านตรวจคนเข้าเมืองเบตง เจ้าหน้าที่ต่างส่วมชุดป้องกันร่างกายส่วนบุคคลหรือ ชุดPPE เพื่อนํารถยนต์เข้ารับตัวอดีตผู้ต้องขังคนไทยที่พ้นโทษจากการถูกจำคุกในเรือนจำในเมืองปีนัง และผ่านการกักตัวจากประเทศมาเลเซียมาแล้ว 14 วัน ณ ด่านเปิงกาลันฮูลู รัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย จำนวน 11 คนและแรงงานไทยในประเทศมาเลเซียอีก 8 คน รวมทั้งหมด 19 คน เพื่อเข้ารับการตรวจคัดกรองตามมาตรการควบคุมโรค ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้เพิ่มความเข้มในการคัดกรองอดีตผู้ต้องขังคนไทยที่มาจากเรือนจำประเทศมาเลเซียอย่างเข้มงวด หลังจากเมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา มีกลุ่มผู้พ้นโทษและแรงงานไทยจากประเทศมาเลเซีย จำนวน 36 คน เข้าทางด่านเบตงอย่างถูกกฎหมาย เจ้าหน้าที่ได้ตรวจหาเชื้อ COVID-19 ในระหว่างเฝ้าสังเกตุอาการที่ศูนย์ Local Quarantine ใน จ.ยะลา 3 แห่ง รวม 18 ราย ติดเชื้อ 5 ราย อยู่ที่ Local Quarantine อ.เบตง 3 ราย และ Local Quarantine อ.รามัน 2 ราย ไม่พบการติดเชื้อ 13 ราย
นายสุริยา บุญพันธ์ ปลัดอาวุโสรักษาการแทนนายอำเภอเบตง กล่าวว่า สำหรับอดีตผู้ต้องขังคนไทยและแรงงานไทยที่รับเข้ามาวันนี้ จำนวน 19 ราย เข้ารับการกักตัวที่ศูนย์ LQ อ.เบตง 5 คนเป็นอดีตผู้ต้องขังคนไทย 4 คน และแรงงานไทย อีก 1 คน ส่วนที่เหลืออีก 14 คน จะถูกส่งตัวไปที่ศูนย์ LQ ตามภูมิลำเนา ได้แก่ ศูนย์ LQ อ.กรงปินัง จำนวน 7 คน ศูนย์ LQ อ.เมืองยะลา จำนวน 2 คน ศูนย์ LQ จ.ปัตตานี จำนวน 3 คน และศูนย์ LQ จ.สงขลา จำนวน 2 คน โดยจะมีการขนย้ายด้วยรถตู้ที่มีการทำฉากกั้นระหว่างคนขับเเละผู้โดยสาร
อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด-19 จ.ยะลา ไม่มีการพบผู้ป่วยในจังหวัดติดต่อกัน 253 วันและยังคงมีการเฝ้าระวังในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทั้งการค้นหาเชิงรุกและการสุ่มตรวจกลุ่มพื้นที่เสี่ยง อาชีพเสี่ยง เพื่อควบคุมป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดในพื้นที่
@@สนามบินนราฯ เปิดปกติ แม้แอร์เอเชีย-ไทยสมายล์ ยกเลิกบินถึง 31 ม.ค.
ส่วนที่ จ.นราธิวาส ทางนางดวงพร สุวรรณมณี ผู้อำนวยการท่าอากาศยานนราธิวาส กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทางท่าอากาศยานนราธิวาสก็ได้เปิดให้บริการตามปกติ แม้สายการบินพาณิชย์ 2 สายการบิน คือ สายการบินไทยแอร์เอเชียและสายการบินไทยสมายล์ จะยกเลิกเที่ยวบินจนถึง 31 ม.ค.64 แต่สนามบินยังเปิดรองรับเครื่องบินของหน่วยงานราชการ ทั้งของทหาร ตำรวจ หรือเครื่องที่ต้องการลงจอดฉุกเฉินได้ทั้งหมด ยืนยันว่าไม่ได้ปิดสนามบิน