"ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา อาตมาได้เดินธุดงค์สร้างสันติสุขให้หลายประเทศรอบโลก ทั้งลาว เวียดนาม สหรัฐอเมริกา เมียนมา อินเดีย ตุรกี ปากีสถาน เป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่าศาสนิกที่มีความแตกต่างกันทั้งเชื้อชาติและศาสนาให้การต้อนรับการเดินเพื่อสันติภาพด้วยดี อีกทั้งเห็นด้วยที่จะทำให้โลกเรามีสันติภาพ"
เป็นคำบอกเล่าถึงหลักคิดและเป้าหมายของ พระสุธรรม ฐิตธัมโม ประธานคณะพระธุดงค์เพื่อสันติภาพโลก ที่ใช้การเดินธุดงค์รณรงค์สร้างสันติภาพมาแล้วเกือบจะทั่วโลก และวันนี้ท่านธุดงค์ผ่าน และแวะเยี่ยมปัตตานี...
"อาตมารณรงค์ให้สันติภาพเกิดภายในจิต ส่งผลให้ครอบครัวมีความสุข เมื่อครอบครัวมีความสุข ประเทศก็เกิดความสงบสุขได้ เห็นพี่น้องในพื้นที่ยิ้มแย้มแจ่มใส โบกมือทักทาย เราก็ดีใจ คิดว่าความสงบสุขจะกลับมาไวๆ นักท่องเที่ยวกลับมายังพื้นที่นี้เช่นเดิม มัสยิดกลางปัตตานีคือศูนย์รวมความสันติสุขของปัตตานี ขอบคุณไปยังท่านจุฬาราชมนตรีที่เป็นศูนย์กลางรวมสันติสุขทั่วประเทศ"
ที่ผ่านมาพระสุธรรมจะเดินธุดงค์เพียงรูปเดียว โดยมีผู้ติดตามน้อยที่สุด ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัย อย่างเมื่อครั้งที่เดินข้ามอเมริกากว่า 5,000 กิโลเมตรเมื่อปีที่แล้ว
ทว่าครั้งนี้ พระสุธรรมเดินธุดงค์เป็นคณะ ใช้ชื่อว่า "คณะพระธุดงค์เพื่อสันติภาพโลก" และได้ร่วมกันจัดกิจกรรม "เดินด้วยกัน นำพาสันติ" มีผู้ร่วมเดินธุดงค์จาก 5 ศาสนา คือ พุทธ คริสต์ อิสลาม พราหมณ์ ฮินดู และซิกข์ เริ่มเดินเท้ามาจากด่านชายแดน อ.เบตง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 10 พ.ย. เป้าหมายอยู่ที่ปสิ้นสุดที่ด่านชายแดน อ.เชียงของ จ.เชียงราย รวมระยะทางหลายพันกิโลเมตร
จุดประสงค์ของกิจกรรม "เดินด้วยกัน นำพาสันติ" คือ สืบสานปณิธานของท่านพุทธทาสภิกขุ มุ่งให้ศาสนิกยึดหลักคำสอนของศาสนา ร่วมสร้างความเข้าใจและความร่วมมือกันระหว่างศาสนา และเจริญจิตใจให้ออกจากวัตถุนิยม นำไปสู่การสร้างสันติภาพและส่งสันติสุขให้ทุกคนบนผืนแผ่นดินไทย
จากเบตง เขาสู่ตัวเมืองยะลา จากนั้นวันที่ 18 พ.ย. คณะธุดงค์เดินเท้าถึงปัตตานี และเข้าสู่พื้นที่เทศบาลเมือง โดยมี พล.ต.คมกฤช รัตนฉายา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี พร้อมด้วยประชาชนทั้งพุทธและมุสลิมให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น
คณะธุดงค์และประชาชนได้ร่วมเดินเท้าไปด้วยกัน เพื่อมุ่งหน้าไปยังมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี โดยตลอดทางมีชาวบ้านทุกเพศทุกวัยและทุกศาสนิกมาคอยให้กำลังใจ พร้อมทั้งกล่าวชื่นชมในการเสียสละร่างกายและเวลาเพื่อสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนใต้
ที่มัสยิดกลาง คณะกรรมการมัสยิด นำโดย นายรอย๊ะ หวันโซ๊ะ อิหม่ามประจำมัสยิดกลาง ได้ให้การต้อนรับ โดย พระสุธรรม ได้มอบธงให้กับนายรอย๊ะ และตัวแทนจากคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ก่อนจะเดินทางต่อไปยังวัดมุจลินทวาปีวิหาร ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี หรือ "วัดตุยง" เพื่อค้างคืน และจะออกเดินต่อไปในวันรุ่งขึ้น
โดยขบวนเดินเท้าธรรมยาตรารวมพลัง 5 ศาสนา จะมุ่งหน้าไปยัง จ.สงขลา และนครศรีธรรมราช เพื่อมอบธงสันติภาพและสานเสวนา รวมทั้งจุดเทียนสันติสุขร่วมกันจนกว่าจะถึงเป้าหมายที่วางไว้
ก่อนเดินธุดงค์ผ่านชายแดนใต้ คณะธุดงค์ 5 ศาสนา ได้เดินเท้าจากพื้นที่ทิศตะวันตกสุด ไปยังทิศตะวันออกสุดของประเทศไทยมาแล้ว เริ่มต้นเมื่อวันที่ 13 ต.ค. จากด่านชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก ไปสิ้นสุดด่านชายแดน จ.มุกดาหาร เมื่อวันที่ 1 พ.ย. จากนั้นจึงเริ่มกิจกรรมเดินจากสุดชายแดนใต้ไปยังจุดหมายเหนือสุดแดนประเทศ เมื่อวันที่ 10 พ.ย. คาดว่าจะถึงปลายทางประมาณวันที่ 10 ม.ค.ปีหน้า
ตลอดทุกเส้นทางที่พระสุธรรมเดินธุดงค์ผ่านไป จะมีการแวะเสวนาธรรม และเยี่ยมเยียนศาสนิกชน พร้อมเชิญชวนศาสนิกชนมาร่วมเดินเพื่อสันติภาพในเส้นทางต่างๆ รวมทั้งร่วมกิจกรรมในบางพื้นที่ เพื่อให้เกิดความรัก ความเมตตา และความปรารถนาดีต่อกัน
พระสุธรรม ฐิตธัมโม คือคนเดียวกับ นายสุธรรม นทีทอง เมื่อครั้งเป็นฆราวาส เขาคร่ำหวอดบนเส้นทางการเมืองมาหลายสิบปี เคยทำหน้าที่เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อครั้งที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ เป็นรัฐมนตรี เมื่อปี 2551-2553 โดยปัจจุบันนายจุรินทร์เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นรองนายกฯในรัฐบาล "บิ๊กตู่"
นายสุธรรมยังเคยเป็นโฆษกกระทรวงแรงงาน และมีบทบาทไม่น้อยในพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งยังเคยเป็นหนึ่งในแกนนำ กปปส. กระทั่งจบภารกิจเมื่อปี 2557 หลัง คสช.เข้าควบคุมอำนาจการปกครอง นายสุธรรมได้ตัดสินใจเข้าอุปสมบทพร้อมกับเพื่อนแกนนำ กปปส.อีกหลายคน ได้ฉายาว่า พระสุธรรม ฐิตธัมโม
ต่อมาแกนนำที่บวชด้วยกันพากันลาสิกขาไปหมด เหลือเพียงพระสุธรรมเท่านั้นที่ยังอยู่ใต้ร่มกาสาวพัสตร์ และเลือกปฏิบัติธรรมผ่านการธุดงค์ ไม่ใช่แค่ในประเทศไทย แต่ไปเดินธุดงค์ในหลายประเทศ ครั้งละหลายพันกิโลเมตร กลายเป็นจุดสนใจของผู้คนทั่วโลก โดยพระสุธรรมใช้การเดินเป็นการเผยแผ่พุทธศาสนาไปในตัวด้วย
"การเดินเป็นสิ่งที่อาตมานำมาใช้บำเพ็ญเพียร และถ้าเราเดินอยู่คนเดียว เราก็จะได้อยู่คนเดียว เลยคิดว่าถ้าเราเดินรณรงค์สันติภาพ ก็น่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้คนเพิ่มมากขึ้น" พระสุธรรม เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ในเว็บไซต์ ngthai หรือ National Geographic ฉบับภาษาไทย เมื่อปลายปีที่แล้ว
กิจกรรมที่สร้างความฮือฮาที่สุดของพระสุธรรมในช่วงที่ผ่านมา คือการเดินข้ามอเมริกา จากตะวันตกสุดไปตะวันออกสุด ระยะทางกว่า 5,000 กิโลเมตร แต่แท้ที่จริงแล้วพระสุธรรมเคยเดินธุดงค์มาแล้วหลายประเทศ
"ก่อนที่จะเดินข้ามทวีปในประเทศสหรัฐอเมริกา อาตมาเคยเดินตามรอยพระพุทธเจ้าที่ประเทศอินเดียตามเส้นทางต่างๆ จนครบสังเวชนียสถานทั้ง 4 ตำบล เป็นระยะทาง 2,600 กิโลเมตร อีกทั้งยังเคยเดินตามรอยหลวงปู่ทวดจากไทรบุรีในมาเลเซียไปจนถึงอยุธยา และเดินตามรอยพระนเรศวร จากอยุธยาไปถึงเมืองเวียงแหงที่เชียงใหม่ จึงทำให้มั่นใจว่าน่าจะเดินข้ามประเทศสหรัฐอเมริกาได้
โดยเส้นทางเดินนั้นอาตมาเริ่มเดินจากทางด้านทิศตะวันตกคือชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกที่ซานตาโมนิกา เดินบนถนนสายประวัติศาสตร์ คือถนนหมายเลข 66 (ROUTE 66) ซึ่งเป็นถนนหลวงสายแรกของสหรัฐอเมริกาที่พาดผ่านจากทิศตะวันตกสู่ทิศตะวันออกมุ่งสู่นิวยอร์กที่เทพีเสรีภาพ รวมระยะทางราว 5,013 กิโลเมตร ใช้เวลาเดิน 121 วัน" พระสุธรรม กล่าวไว้ในการให้สัมภาษณ์ครั้งเดียวกัน
"เราจะร่วมมือกับพี่น้องทุกชนชาติต่อไป เพื่อสันติภาพ สันติสุข และสันติธรรม" เป็นความตั้งมั่นของ พระสุธรรม และหนึ่งในเป้าหมายนั้นคือ...ชายแดนใต้สันติสุข
----------------------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณ : ภาพที่ 2-3 จากเฟซบุ๊ก "หลวงพี่หมี นทีทอง"