ยังมีควันหลงเกี่ยวกับ "คุณลุง" ชาวอำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส ที่ไปเสียชีวิตบนรถไฟสายใต้ แล้วถูกสังคมมองในแง่ลบทำนองว่าเป็นตัวแพร่เชื้อโรค...
เหตุเพราะมีภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณจุดจำหน่ายตั๋ว สถานีรถไฟชุมทางบางซื่อ บันทึกภาพคุณลุงในลักษณะกำลัง "ไอ" หรือ "จาม" ใส่ชายวัยรุ่นที่รอซื้อตั๋วอยู่ข้างหน้า และสภาพของคุณลุงคล้ายคนป่วย เดินไม่ไหว
ล่าสุดเริ่มมีข้อมูลอีกด้านหนึ่งของคุณลุงวัย 57 ปีคนนี้ออกมาบ้างแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้ติดตามตัวชายวัยรุ่นที่ถูกระบุว่าโดน "ไอ" หรือ "จาม" ใส่ ที่สถานีชุมทางบางซื่อ ปรากฏว่าชายวัยรุ่นยืนยันว่า คุณลุงไม่ได้จามใส่ แต่พยายามจะพูดเพื่อขอทาง แต่คุณลุงเสียงแหบ ก็เลยมีลักษณะเหมือนตะโกน และทำให้ตนเองตกใจจึงถอยหนี ส่งผลให้ภาพออกมาเหมือนโดนไอใส่ แล้วตนรีบถอยห่าง แต่ความจริงเป็นอีกเรื่อง
ขณะที่มีการลงพื้นที่โรงแรมที่คุณลุงเข้าพักหลังกลับจากปากีสถาน ก่อนขึ้นรถไฟกลับสุไหงโกลก ซึ่งเป็นโรงแรมย่านรามคำแหง พนักงานโรงแรมยืนยันว่า คุณลุงเป็นคนสุภาพ พูดจารู้เรื่อง มีการศึกษาดี และพยายามเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเคร่งครัด
ส่วนการแถลงของกระทรวงสาธารณสุขเมื่อวาน แพทย์ก็ยืนยันว่า คุณลุงไม่ได้เสียชีวิตเพราะเชื้อโควิด แต่น่าจะช็อคหมดสติจนเสียชีวิตเนื่องจากโรคประจำตัว ฉะนั้นข่าวลือที่ว่าเชื้อโควิดมีความร้ายแรง เป็นแล้วตายอย่างรวดเร็วโดยไม่มีอาการป่วยมาก่อนนั้น ไม่เป็นความจริง
คนรู้จักเขียนเฟซบุ๊คแจงประวัติคุณลุงสุดเก่ง
นอกจากนั้นยังมีคนในพื้นที่ชายแดนใต้ที่รู้จักคุณลุงคนนี้ บอกเล่าประวัติชีวิตของคุณลุงด้วย โดยคุณลุงมีชื่อไทยว่า "อนันต์" และมีชื่อเป็นภาษามลายูที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "เปาะยา"
เพจเฟซบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Abu Gibrel Jacob โพสต์ข้อความโดยขึ้นหัวเรื่องว่า "เปาะยาที่ผมรู้จัก" พร้อมบรรยายว่ารู้จักกับเปาะยา หรือ "นายช่างเปาะยา" เป็นอย่างดี เนื่องจากบ้านอยู่ไม่ไกลกัน และเคยทำงานด้วยกัน
อาบู เล่าว่า นายช่างเปาะยาเป็นคนเรียนเก่ง ยังไม่ทันจบประถม ก็ได้ข้ามฝั่งไปเรียนประเทศมาเลเซีย และได้รับคัดเลือกให้เข้าเรียนในระดับมัธยมที่โรงเรียนประจำชั้นเยี่ยมแห่งหนึ่งของมาเลเซีย มีเพื่อนร่วมรุ่นเป็นมุขมนตรีรัฐเคดาห์ เปาะยาจบวิศวกรรมเครื่องกลที่สหรัฐอเมริกา มีความสามารถพูดภาษาอังกฤษดีเหมือนเจ้าของภาษา
อาบู ยังเล่าว่า ในปี 1991 ได้ร่วมงานกับนายช่างเปาะยา ในไซต์งานซ่อมสร้างทาง 2-3 โครงการใหญ่ๆ ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งเปาะยาเป็นวิศวกร โดยเปาะยาต้องใช้ไม้เท้าค้ำยันขาทั้งสองข้างตลอดเวลา มาทราบภายหลังว่าเป็นเพราะเคยประสบอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซค์ล้ม แต่ไม่เคยเป็นอุปสรรคในการทำงาน สามารถปีนขึ้นไปดูถังไซโลซีเมนต์และยางมะตอยสูงๆ ได้ด้วยตัวเอง และเปาะยาน่าจะป่วยเป็นเบาหวานตั้งแต่อายุราวๆ 30 ปี เพราะดื่มชา กาแฟ โดยไม่ใส่น้ำตาลมาตลอด
ต่อมาปี 2000 นายช่างเปาะยาลาออกจากบริษัทในเครือที่อาบูทำงานอยู่ด้วย เพื่อไปร่วมงานก่อสร้างเขื่อนที่ "รัฐอุตตรประเทศ" ในอินเดีย ซึ่งบริษัทอิตาเลี่ยนไทยได้งานก่อสร้างโครงการนี้ ตามด้วยงานที่ลาว และจบด้วยงานเหมืองถ่านหินที่กาลิมันตัน ในอินโดนิเซีย ก่อนจะลาออกจากงานทั้งหมด กลับมาอยู่บ้าน และเริ่มทำงานดะวะห์เมื่อราวๆ 5 ปีที่แล้ว ก่อนจะออกดะวะห์ไปตามสถานที่ต่างๆ Zคล้ายๆ การแสวงบุญในความเชื่อของอิสลาม)
เสียใจ "เปาะยา" ถูกใส่ร้าย
อาบู เล่าอีกว่า ได้พบนายช่างเปาะยาครั้งสุดท้ายเมื่อประมาณ 2 เดือนก่อน เนื่องจากเปาะยาแวะไปละหมาดที่มัสยิดที่ตนไปบ่อยๆ ในวันนั้นไม้เท้าของเปาะยาที่วางพิงผนังไว้ เกิดล้มเสียงดัง ทำให้คนในมัสยิดตกใจ ฉะนั้นจึงไม่แปลกใจที่ภาพในคลิปสถานีรถไฟ เปาะยายืนเหมือนคนจะล้มตลอดเวลา
และรู้สึกเสียใจที่ข่าวกับคอมเมนท์ต่างๆ ออกมาทำนองใส่ร้ายว่าเปาะยาจงใจไอหรือจามใส่คนอื่น ทั้งๆ ที่มุมกล้องอาจทำให้ดีกลายเป็นร้ายได้ พร้อมติดแฮชแท็กว่า #ผิดที่เกิดมาเป็นแขก ก่อนจะลงท้ายว่า หลับให้สบายนะนายช่างเปาะยา อัลลอฮ์รักท่าน จึงดึงท่านมาทำงานดะวะห์ในบั้นปลายชีวิต
ยืนยันคุณลุงไปดะวะห์ที่ปากีฯ ไม่ใช่อินเดีย
รุสลัน มูซอ แกนนำดะวะห์ บอกว่า ก่อนเสียชีวิต นายช่างเปาะยาไปร่วมชุมนุมทางศาสนา หรือ "โยร์" ที่ประเทศปากีสถาน ไปกันทั้งหมด 27 คน วันที่กลับมาไทยก็เดินทางกลับมาพร้อมกันทุกคน สว่นใครแยกไปไหนบ้าง ยังไม่ทราบรายละเอียด
ส่วนที่มีข่าวบางกระแสอ้างว่าไป "โยร์" ที่อินเดียนั้น รุสลัน บอกว่า เป็นคนละกลุ่มกัน ตอนนี้มีคนไทยติดอยู่ที่อินเดีย 115 คน หลังจากไปออก "โยร์" 4 เดือน เป็นการไปร่วมกิจกรรมช่วงที่อินเดียสั่งปิดประเทศพอดี
ครอบครัวคุณลุงวอนสังคมอย่าซ้ำเติม
"ทีมข่าวอิศรา" ยังได้เดินทางไปที่บ้านของนายช่างเปาะยา ในอำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส ภรรยาของเปาะยา บอกว่า ตนเองเป็นแม่บ้าน รู้สึกเสียใจที่สามีกลับมาไม่ถึงบ้าน ต้องไปเสียชีวิตระหว่างทาง จนไม่ได้พูดคุยสั่งเสียอะไรกันเลย และขอร้องเพื่อนบ้าน คนในพื้นที่ รวมถึงโลกโซเชียลฯ อย่ารังเกียจเปาะยาและครอบครัว เพราะเปาะยาไม่ได้มาแพร่เชื้อโควิด ยังกลับมาไม่ถึงบ้านด้วยซ้ำ จึงขอความเป็นธรรมให้กับคนในครอบครัวด้วย
---------------------------------------------------------------------------------------------------------
อ่านประกอบ : เหยื่อโควิดปัตตานีลาโลกอีกราย พบคนตายในรถไฟสายใต้ติดไวรัส