ชายแดนใต้พบผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์โอมิครอนแล้ว! เป็นกลุ่มเดินทางกลับจากทำพิธีอุมเราะห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย จำนวน 3 คน ล่าสุดเข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน เผยเข้าไทยผ่าน Phuket Sandbox
นพ.มูฮำหมาด ละใบจิ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลโคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นทีมแพทย์ที่เดินทางร่วมคณะไปประกอบพิธีอุมเราะห์ กล่าวว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 17 ธ.ค.64 เวลาประมาณ 13.00 น. เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อมูลเข้ามาว่าพบเชื้อโอมิครอนในกลุ่มผู้แสวงบุญ (รายงานยืนยันว่าเป็นสายพันธุ์โอมิครอน หลังตรวจพบเชื้อแล้วก่อนหน้านี้)
ช่วงแรกที่คณะอุมเราะห์กลับมาได้ลงเครื่องที่ จ.ภูเก็ต และเข้า “Phuket Sandbox” พบผู้ติดเชื้อ 3 คน จากนั้นทุกคนได้อยู่ในความดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิดตลอดที่อยู่ภูเก็ต ในส่วนคนอื่นๆ ได้ตรวจ RT-PCR ไม่พบเชื้อใดๆ รวมทั้งไม่มีอาการ แต่ก็ได้กักตัว 5 วัน และเดินทางกลับมาในพื้นที่ชายแดนใต้ภายใต้การดูแลจากทีมแพทย์ พร้อมทั้งมีมาตรการระดับจังหวัดอย่างเข้มงวด
สำหรับผู้ที่เดินทางไปอุมเราะห์รอบนี้มีทั้งหมด 137 คน ก่อนจะกลับมาได้มีการตรวจ RT-PCR ที่ซาอุฯแล้ว และกลับมา ตรวจอีกครั้งที่ภูเก็ต โดยก่อนกลับบ้านเมื่อวันศุกร์ได้มีการตรวจ ATK ก่อนเดินทางอีกด้วย และทั้งหมดที่เหลือไม่มีใครตรวจพบเชื้อใดๆ
ขณะเดียวกัน หลังจากนี้ยังจะมีการเฝ้าระวังอย่างเต็มที่และต่อเนื่องต่อไป โดยจะกักตัวต่อจนถึงวันที่ 27 ธ.ค. ขอให้มั่นใจว่า คณะผู้แสวงบุญได้เข้าสู่ประเทศไทยด้วย Phuket Sandbox โดยได้ตรวจ RT-PCR ก่อนออกจากซาอุฯ และตรวจ RT-PCR เมื่อถึงภูเก็ต และสำหรับผู้ที่มีผลลบ ก็ยังได้รับการกักตัวตลอดระยะเวลา 5 วันแล้วในเบื้องต้น สำหรับผู้ที่ไม่มีอาการได้ผ่านพ้นระยะฟักตัวของเชื้อแล้ว คาดว่าไม่มีเชื้อโควิดแล้ว แต่เพื่อความรัดกุมและปลอดภัยให้มากที่สุด คณะผู้แสวงบุญจะกักตัวเองและสังเกตอาการต่อจนครบ 14 วัน เพื่อสร้างความปลอดภัยให้ตัวเองและพี่น้องของเราอย่างเต็มที่
นพ.อนุรักษ์ สารภาพ นายแพทย์ สสจ.ปัตตานี ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้พบชาว จ.ปัตตานีที่เดินทางกลับจากการทำพิธีอุมเราะห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนคนเเรกของจังหวัด โดยเดินทางมาลงที่สนามบินนานาชาติภูเก็ต ก่อนพบติดเชื้อ เเละผู้ป่วยขอกลับมารักษาตัวที่โรงพยาบาลโคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรักษาตัว
การทำอุมเราะห์ เรียกง่ายๆ ว่า “การแสวงบุญเล็ก” ใช้เวลาประมาณ 15 วัน ต่างจากการทำ “ฮัจย์” หรือ “การแสวงบุญใหญ่” ซึ่งใช้เวลานานกว่า และกำหนดให้มุสลิมทุกคนที่มีความสามารถต้องปฏิบัติ แต่การทำอุมเราะห์นั้นไม่ได้เป็นภาคบังคับ / หากมีโอกาสได้ไปและใช้เวลาอยู่ในมัสยิดฮารอมหลายวัน ก็จะยิ่งได้รับผลบุญมาก