รัฐบาลเตรียมงบ 7,500 ล้านบาท จ่ายเงินเยียวยาธุรกิจก่อสร้าง-ร้านอาหาร ที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล รวม 6 จังหวัด 'บิ๊กตู่' ย้ำไม่เลื่อน 'คนละครึ่ง' พร้อมเตรียมช่วยช่วยผู้ประกอบการ-ลูกจ้าง 6.9 แสนคน สศช.เผย แรงงานไทยในระบบประกันสังคมรับเงิน 2 ต่อ ประกันสังคมจ่าย 50% ไม่เกิน 7,500 บาท รัฐสมทบอีก 2,000 บาท ส่วนนายจ้าง รับเงินเยียวยา 3,000 บาทต่อลูกจ้าง 1 คนสูงสุดไม่เกิน 200 คนหรือไม่เกิน 6 แสนบาท
--------------------------------------------------------
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.2564 เวลา 13.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจ เพื่อหาแนวทางการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 25) ที่ส่งผลกระทบให้มีการปิดแคมป์คนงาน และห้ามนั่งรับประทานอาหารในร้าน 1 เดือน เฉพาะพื้นที่ กทม. และ 5 จังหวัดปริมณฑล ประกอบด้วย นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม และปทุมธานี
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบมาตรการที่จะเยียวยาช่วยเหลือแรงงานและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการข้อกำหนดฉบับที่ 25 คือการปิดแคมป์คนงาน และห้ามนั่งรับประทานอาหาร โดยเราเตรียมงบประมาณในการช่วยเหลือไว้ 7,500 ล้านบาท มาจากเงินกู้ และเงินจากกองทุนประกันสังคม โดยจะเป็นการช่วยเหลือเยียวยาทั้งนายจ้างและลูกจ้าง ระยะเวลา 1 เดือน สำหรับกิจการก่อสร้าง ที่พักแรมและบริการด้านอาหาร ศิลปะความบันเทิงและนันทการ รวมถึงกิจกรรมการบริการด้านอื่นๆ
“สรุปว่าเราดูทุกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบโดยตรงขณะนี้ ดูว่า 1 เดือนที่ประกาศปิดนั้น ทำไมเราถึงต้องปิดคลัสเตอร์แรงงาน เพราะมีการระบาดเยอะ และอาจทำให้เกิดผลกระทบจุดอื่นไปด้วย ส่วนที่มีข่าวว่าแรงงานทยอยหนีกลับบ้าน ต้องดูข้อมูลของเราด้วยว่าที่ผ่านมา ผมห่วงใยเรื่องนี้เป็นพิเศษ ได้สั่งการตั้งแต่เช้าวันเสาร์ที่ผ่านมาให้ ทหาร ตำรวจ พลเรือนลงปฏิบัติหน้าที่ทันที เพื่อป้องกันการเคลื่อนย้ายกลับบ้าน เพื่อระมัดระวังไม่ให้แพร่เชื้อไปที่อื่น” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ ก่าวยืนยันว่า สำหรับมาตรการเยียวยาประชาชนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น คนละครึ่ง หรือ ม33 เรารักกัน ยังคงเดินหน้าตามกำหนดการเดิม
ด้านนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า สำหรับมาตรการช่วยเหลือ ใช้งบประมาณรวม 7,500 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินกู้ 4,000 ล้านบาท จาก พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท และเงินกองทุนประกันสังคม 3,500 ล้านบาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1.แรงงานในระบบประกันสังคม ทั้งคนไทยและต่างด้าว ประมาณ 690,000 คน ได้รับเยียวยา 50% ของฐานเงินเดือน สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท โดยผู้ที่ได้รับสิทธิ ต้องเป็นผู้ที่จ่ายเงินสมทบประกันสังคมแล้วอย่างน้อย 6 เดือน
2.แรงงานในระบบประกันสังคม เฉพาะคนไทย รัฐบาลจะให้เงินเพิ่มเติมอีกรายละ 2,000 บาท
3.ผู้ประกอบการในระบบประกันสังคม ได้รับเงินช่วยเหลือ 3,000 บาทต่อลูกจ้าง 1 คน สูงสุดไม่เกิน 200 คน หรือไม่เกิน 600,000 บาท
นายดนุชา กล่าวด้วยว่า สำหรับผู้ประกอบการที่อยู่นอกระบบประกันสังคม ที่มีฐานข้อมูลเบื้องต้นอยู่ในแอปพลิเคชันถุงเงิน โดยกระทรวงแรงงานจะอำนวยความสะดวกให้เข้าสู่ระบบประกันสังคม ซึ่งจะได้รับเงินช่วยเหลือ 3,000 บาทต่อลูกจ้าง 1 คน สูงสุดไม่เกิน 200 คน หรือไม่เกิน 600,000 บาท เช่นเดียวกัน
“ส่วนเงินช่วยเหลือ 50% ของค่าจ้างจากประกันสังคม เนื่องจากกฎหมายกำหนดไว้ว่า จะต้องจ่ายเงินสมทบไม่น้อยกว่า 6 เดือนถึงจะได้ตรงนี้ ในส่วนผู้ประกอบการที่ไปขึ้นทะเบียนช่วงนี้ จะได้เงินช่วยเหลือ 3,000 บาทต่อลูกจ้าง 1 คน และ เงินช่วยเหลือพิเศษ 2,000 บาทสำหรับลูกจ้างคนไทย" นายดนุชา กล่าว
นายดนุชา กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการทั้งหมดนี้จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบในหลักการวันที่ 29 มิ.ย.2564 ก่อนที่จะเสนอขอความเห็นชอบอีกครั้งในการประชุม ครม. 6 ก.ค.ต่อไป
ขณะที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กล่าวย้ำว่า ครั้งนี้รัฐบาลตั้งใจช่วยทั้งแรงงานและผู้ประกอบการ สำหรับธุรกิจก่อสร้าง มีลูกจ้างทั้งไทยและต่างด้าว โดยปกติคนงานจะอยู่ในระบบประกันสังคม จึงได้รับการช่วยเหลือตามมาตรการข้างต้น ส่วนผู้ที่ยังอยู่นอกระบบขณะนี้ กระทรวงแรงงานขอยืนยันว่าเมื่อท่านมาขึ้นทะเบียนกับประกันสังคม ผู้ประกอบการจะได้รับเยียวา 3,000 บาทต่อลูกจ้าง 1 คนอยู่แล้ว ส่วนเงินเยียวยา 50% ของค่าจ้างที่เป็นการเยียวยาลูกจ้างนั้นจะไม่ได้รับการช่วยเหลือ เพราะตามกฎหมายนั้น ผู้ได้รับการช่วยเหลือต้องเป็นผู้ที่จ่ายเงินสมทบประกันสังคมแล้วอย่างน้อย 6 เดือน
ข่าวประกอบ :
คุมเข้มโควิด! กทม.-ปริมณฑล ห้ามนั่งกินในร้าน-ปิดแคมป์คนงาน 1 เดือน เริ่ม 28 มิ.ย.
'บิ๊กตู่'เรียก ศบศ.ถกด่วน หามาตรการเยียวยาร้านอาหาร-ปิดแคมป์คนงาน
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่https://www.facebook.com/isranewsfanpage/