แพร่คำสั่ง ศบค. เพิ่มพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดเป็น 10 จังหวัด กทม.และปริมณฑล ห้ามนั่งกินในร้าน - ห้างปิด 3 ทุ่ม งดโรงหนัง สวนน้ำ - ปิดแคมป์คนงาน 1 เดือน ตั้งด่านตรวจคุมเข้มการออกเข้า โดยเฉพาะ 4 จังหวัดชายแดนใต้ นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา
--------------------------------------------
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.2564 ราชกิจจานุเบกษา แพร่คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด ที่ 6/2564 เรื่อง พื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 โดยมีสาระสำคัญ ถึงการปรับพื้นที่ควบคุมคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือ พื้นที่สีแดงเข้ม จากเดิม 4 จังหวัด เป็น 10 จังหวัด ประกอบด้วย กทม. , นครปฐม , นนทบุรี , นราธิวาส , ปทุมธานี , ปัตตานี ,ยะลา , สงขลา , สมุทรปราการ และสมุทรสาคร ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.2564 เป็นต้นไป หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น
(ดูประกาศฉบับเต็ม : http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2564/E/140/T_0007.PDF)
วันเดียวกันนี้ ราชกิจจานุเบกษา แพร่ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 25) สาระสำคัญตอนหนึ่ง ระบุว่า ปัจจุบันสถานการณ์การระบาด โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ กทม.และปริมณฑลอยู่ในความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะวิกฤติด้านสาธารณสุข เห็นได้จากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่และผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่มีจำนวนมากกว่าหลายพันรายต่อวัน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากไม่เร่งจัดการอาจกระทบต่อระบบบริการทางสาธารณสุขไม่ว่าจะเป็นบุคลากรทางการแพทย์ เตียงผู้ป่วย เครื่องช่วยหายใจ และอุปกรณ์การแพทย์ ที่รองรับผู้ป่วยอาการหนักหรือผู้ป่วยภาวะฉุกเฉินซึ่งมีอยู่จำกัด
ประกอบกับพบการระบาดเกิดขึ้น อันเป็นผลจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกเพื่อค้นหาและสกัดกั้นการระบาดแบบกลุ่มก้อน ทำให้พบกลุ่มผู้ติดเชื้อกระจายอยู่โดยรอบพื้นที่ไม่วาจะเป็นที่พักแรงงานก่อสร้าง สถานประกอบการ โรงงาน ตลาด และแหล่งชุมชน อีกทั้งพบกลุ่มติดเชื้อในสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนและบ้านพักคนชราที่เป็นกลุ่มเสี่ยง นอกจากนี้ยังพบเชื้อกลายพันธุ์ชนิดสายพันธุ์เบตาที่ทำให้ป่วยรุนแรงและมีความเสี่ยงต่อชีวิตในอัตราสูงในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศ ด้วยเหตุนี้ จึงจำเป็นต้องกำหนดพื้นที่เป้าหมายเฉพาะและบังคับใช้มาตรการควบคุมที่จำเป็นเพื่อมุ่งชะลอและสกัดกั้นการระบาดของเชื้ออย่างเร่งด่วนและหยุดยั้งอัตราการเร่งของจำนวนผู้ป่วย
สำหรับมาตรการสำคัญ มีทั้งหมด 10 ข้อ ดังนี้
1.มาตรการเร่งด่วนเพื่อสกัดกั้นการระบาดในพื้นที่เป้าหมายเฉพาะ สำหรับเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัด ให้ดำเนินการต่อเนื่องเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 30 วัน เพื่อควบคุมและชะลอการระบาด ซึ่งพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนกระจายหลายพื้นที่ รวมทั้งสกัดกั้นการเคลื่อนย้ายเดินทางของกลุ่มเสี่ยงเพื่อไม่ให้เชื้อโรคแพร่ออกเป็นวงกว้างสู่พื้นที่อื่น โดยให้ประเมินสถานการณ์และความเหมาะสมของมาตรการทุก 15 วัน โดยให้นำมาตรการควบคุมบูรณาการสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ข้อห้าม และข้อปฏิบัติตามข้อกำหนด (ฉบับที่ 24) ลงวันที่ 19 มิ.ย.2564 ใช้บังคับกับพื้นที่ดังกล่าว
(อ่านประกอบ : เป็นทางการ! แพร่ประกาศคลายล็อก 4 จว.สีแดงเข้ม นั่งทานในร้านได้ถึง 5 ทุ่ม)
2.การควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานก่อสร้างเขตพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด พิจารณามีคำสั่งปิดแคมป์คนงานทุกประเภท รวมทั้งมีคำสั่งให้หยุดงานก่อสร้าง และห้ามการเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงาน เป็นการชั่วคราวอย่างน้อย 30 วัน ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ตรวจตราและกำหนดเงื่อนไขจำกัดการเดินทางเข้าออกสถานที่พัก และตั้งจุดตรวจและสกัดการเดินทางออกนอกเขตพื้นที่ พร้อมสั่งปรับปรุงสุขาภิบาลของสถานที่พักและตรวจสอบการดำเนินการให้เป็นการตามมาตรการควบคุมโรค
3.การควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานในสถานประกอบการและโรงงานในเขตพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบการปฏิบัติของผู้ประกอบการในสถานประกอบการหรือโรงงานให้เป็นไปตามมาตรการควบคุมโรคในพื้นที่เฉพาะ หรือ Bubble and Seal
4.มาตรการควบคุมแบบบูรณาการเร่งด่วน เฉพาะในเขตพื้นที่ กทม.และปริมณฑล นอกจากข้อปฏิบัติตามข้อกำหนด (ฉบับที่ 24) ลงวันที่ 19 มิ.ย.2564 ให้เพิ่มเติมมาตรการต่อไปนี้อย่างน้อย 30 วัน
-การจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ให้เปิดดำเนินการเฉพาะการนำกลับไปบริโภคที่อื่นเท่านั้น
-ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ให้เปิดดำเนินการถึง 21.00 น. โดยงดการให้บริการเพิ่มเติมในพื้นที่โรงมหรสพ โรงภาพยนตร์ สวนน้ำ พื้นที่นั่งรับประทานในศูนย์อาหาร
-โรงแรม ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุมหรือสถานที่จัดนิทรรศการ ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติ โดยให้งดกิจกรรมจัดการประชุม การสัมมนา และการจัดเลี้ยง
-กิจกรรมการรวมกลุ่ม ห้ามการจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มของบุคคลรวมกันมากกว่า 20 คน เว้นแต่กรณีได้รับอนุญาตจากหน้าที่ หรือเป็นกิจกรรมที่ดำเนินการโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นกิจกรรมในพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นสถานกักกันโรค
5.มาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดในเขตชุมชน ให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด กวดขันการดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อในการเข้าไปตรวจตราเขตชุมชน ตลาด หรือสถานที่ที่ได้ประเมินแล้วว่ามีความเสี่ยงต่อการระบาดโรค
เมื่อพบแหล่งระบาดเป็นกลุ่มก้อน ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดอาจดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อเพื่อมีคำสั่งปิดเขตชุมชนหรือสถานที่ดังกล่าวไว้เป็นการชั่วคราว หรือกำหนดเงื่อนไขเพื่อกำกับหรือจำกัดการเคลื่อนย้ายเดินทางเข้าออกพื้นที่ระบาด
6.การให้ความช่วยเหลือประชาชน เมื่อได้มีคำสั่งและดำเนินมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาด ให้เจ้าหน้าที่ โดยการสนับสนุนจากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานทีเกี่ยวข้อง ให้ความช่วยเหลือบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งปิดสถานที่หรือจำกัดการเดินทางออกเข้าจากพื้นที่ระบาดเป็นกลุ่มก้อน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ผู้ด้อยโอกาส ผู้สูงอายุ และบุคคลที่ควรได้รับความช่วยเหลือตามความเหมาะสม
7.กำหนดเงื่อนไขการใช้เส้นทางคมนาคมและตรวจคัดกรองการเดินทาง ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง กระทรวงมหาดไทย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งจุดตรวจ ด่านตรวจ หรือจุดสกัด เพื่อคัดกรองการเดินทางอย่างน้อย 30 วัน
-เส้นทางเข้าออกจังหวัดชายแดนใต้ จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา ให้ตั้งด่านตรวจอย่างเข้มงวด คนเดินทางเข้าออกต้องแสดงบัตรประชาชนหรือบัตรแสดงตนอื่นๆ คู่กับเอกสารรับรองความจำเป็นที่ออกโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่ เว้นแต่เป็นบุคคลที่ได้รับการยกเว้น
-เส้นทางเข้าออก กทม.และจังหวัดปริมณฑล การตั้งจุดตรวจเพื่อควบคุมการเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงานเพื่อทำงานเข้มเขตจังหวัดให้ดำเนินการอย่างเข้มงวด ให้ผ่านเข้าออกได้เฉพาะแรงงานที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเพื่อทำงานข้ามจังหวัดจากผู้ว่าราชการจังหวัดต้นทางและปลายทาง ส่วนประชาชนที่ให้ดำเนินการเท่าที่จำเป็น เพื่อมุ่งเน้นความปลอดภัยของประชาชน และต้องไม่ก่อความเดือดร้อนเกินสมควรแก่เหตุ
-เส้นทางเข้าออกจังหวัดอื่นๆ การตั้งด่านตรวจ ให้ดำเนินการเข้มงวดกรณีพบผู้เดินทางมาจากจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด
8.การปราบปรามผู้กระทำผิดที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการแพร่โรค ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เข้มงวดตรวจตราเพื่อปราบปรามไม่ให้มีการลักลอบหรือรวมกลุ่มมั่วสุมกระทำการที่ผิดกฎหมาย ทั้งลักลอบเล่นพนัน เสพยาเสพติด รวมกลุ่มลักษณะที่นำไปสู่การแข่งรถในทาง หรือฝ่าฝืนเปิดดำเนินการของสถานบริการในพื้นที่ที่มีข้อกำหนดห้ามการเปิดไว้
ผู้ประกอบการ เจ้าหน้าที่รัฐ หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบเดินทางหรือขนย้ายแรงงาน หรือรับแรงงานต่างด้าวที่ออกจากสถานที่พักคนงานโดยไม่ได้ผ่านการตรวจสอบคัดกรองโรค เป็นเหตุให้เกิดการระบาดกลุ่มก้อนขึ้นใหม่ อาจต้องถูกดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
9.มาตรการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง ให้คงพิจารณาดำเนินการมาตรการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งขึ้นสูงสุดในช่วงระยะเวลานี้ เพื่อลดการเดินทางและการติดต่อสัมผัสระหว่างบุคคล
10.การงดจัดกิจกรรมทางสังคม ให้งดจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มในลักษณะการสังสรรค์ จัดเลี้ยง หรืองานรื่นเริง ในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เว้นแต่เป็นการจัดพิธีการตามประเพณีนิยมตามที่ได้กำหนดเตรียมการไว้แล้ว
ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.2564 เป็นต้นไป
(ดูประกาศฉบับเต็ม : http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2564/E/140/T_0001.PDF)
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่https://www.facebook.com/isranewsfanpage/