เจออีกแปลง! โฉนด 2 ไร่ บนยอดเขา จ.กระบี่ คดีรุกป่าอ่าวนาง

พบอีกแปลงที่ 34 โฉนดที่ดิน 2 ไร่บนยอดเขาในเขตอุทยานฯ อ่าวนาง จ.กระบี่ ลาดชันเกิน 35% ป.ป.ช.ชี้มูลออกโฉนดมิชอบ ฝีมือกลุ่ม 5 อดีต จนท. ทั้งหมด 42 แปลง ยังไม่ถูกเพิกถอน ภาพถ่ายดาวเทียม สีเขียวทึบ

piclandd006311 6 63

กรณีการออกโฉนดที่ดินในพื้นที่หมู่ 3 ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าอ่าวนาง – หางนาค ที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำข้อมูลมารายงานอย่างต่อเนื่องมี 2 ประเด็นหลัก

1. ภายหลังจากคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ชี้มูลว่าโฉนดที่ดิน 39 แปลง (ออกไปแล้ว 33 แปลง และอยู่ระหว่างดำเนินการอีก 6 แปลง) ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ส่งเรื่องให้กรมที่ดินเมื่อปี 2560 ผ่านมากว่า 3 ปี จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการเพิกถอนโฉนด

2. คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลวินัยร้ายแรงและความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา เจ้าหน้าที่รัฐ จำนวน 5 คน พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามทุจริต 1 ภาค 8 นำตัวอดีตข้าราชการสั่งฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 8 จำนวน 4 คน อีก 1 คนยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง แต่การเอาผิดกลุ่มบุคคลที่สนับสนุนเจ้าหน้าที่ พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) อยู่ระหว่างดำเนินการเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาจำนวน 23 ราย ในระหว่างวันที่ 22-26 มิ.ย.นี้

โฉนดที่ดินที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ทั้งสิ้น 42 แปลง สำนักข่าวอิศรานำข้อมูลรายงานแล้ว 33 แปลง อีก 9 แปลงที่ยังไม่ได้นำมารายงาน เป็นโฉนดที่อยู่ระหว่างดำเนินการออก จำนวน 6 แปลง และโฉนดที่มีการแบ่งแยกเพิ่มเติมจากแปลงเดิมจำนวน 3 แปลง

นี่คือข้อมูลของโฉนดที่ดิน 1 ใน 9 แปลง (แปลงที่ 34)

โฉนดเลขที่ 43883 หมายเลขระวาง : 4725 III 7296-03(2000) เลขที่ดิน : 19 หน้าสำรวจ : 3472 ตำบล : หนองทะเล อำเภอ : เมืองกระบี่ จังหวัด : กระบี่ เนื้อที่ : 2 ไร่ 0 งาน 0.0 ตารางวา ถ้าพิจารณาจากภาพถ่ายดาวเทียม เห็นได้ว่า ที่ตั้งของโฉนดแปลงนี้มีสภาพเขียวทึบทั้งแปลง (ดูภาพประกอบด้านล่าง)

piclandd0011 6 63

piclandd11 6 63

piclandd0211 6 63

อย่างไรก็ตามไม่มีข้อมูลความเป็นมากระบวนการออกโฉนดที่ดินแปลงนี้

กล่าวสำหรับโฉนดที่ดินแปลงนี้กับอีก 8 แปลง รวมเป็น 9 แปลง ปรากฏอยู่ในหนังสือชี้แจงของกรมที่ดินที่ส่งมายังสำนักข่าวอิศราเมื่อวันที่ 20 เม.ย.2563 ว่า

“อธิบดีกรมที่ดินได้มีคำสั่งที่ 3708/2560 ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2560 และ ที่ 4050/2560 ลงวันที่ 26 ธันวาคม 2560 ตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามความในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน เพื่อดำเนินการกับโฉนดที่ดิน จำนวน 42 แปลง (มีการแบ่งแยกโฉนดที่ดินเพิ่มเติมอีก 3 แปลง) เนื่องจากปรากฎตามรายงานการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการ ป.ป.ช. คดีหมายเลขแดงที่ 035 – 2 – 5/2560 รับฟังเป็นที่ยุติว่าบริเวณที่มีการออกโฉนดที่ดินดังกล่าว ที่ดินทั้งแปลงหรือบางส่วน อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ เขตป่าไม้ถาวรและที่เขา ภูเขา หรือมีความลาดชันโดยเฉลี่ยเกินกว่า 35 เปอร์เซ็นต์ ต้องห้ามมิให้เดินสำรวจออกโฉนดที่ดินตามมาตรา 58 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ประกอบกฎกระทรวงฉบับที่ 43 (พ.ศ.2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 ข้อ 14 (2), (4) และ (5) ซึ่งจังหวัดกระบี่ได้ส่งรายงานการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนฯ ดังกล่าวให้กรมที่ดินพิจารณาเพื่อดำเนินการตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมานที่ดินนั้น ผู้มีส่วนได้เสียได้คัดค้านการเพิกถอนโฉนดที่ดินดังกล่าวโดยกล้างอ้างว่า กรณีดังกล่าวอธิบดีกรมที่ดินไม่มีอำนาจเพิกถอนโฉนดที่ดินทั้ง 42 แปลง ตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน จะต้องดำเนินการเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนโฉนดที่ดิน ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 เท่านั้น”

ในประเด็นโฉนดยังไม่ถูกเพิกถอนนั้น กรมที่ดินชี้แจงว่า เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ ในการดำเนินการตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 เมื่อ ป.ป.ช. แจ้งให้กรมป่าไม้พิจารณาดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาล ให้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้เพิกถอนโฉนดที่ดินและกรมป่าไม้ได้ส่งเรื่องดังกล่าวให้สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาจัดพนักงานอัยการดำเนินคดีหรือยื่นคำร้องต่อศาล แล้วอธิบดีกรมที่ดินไม่สามารถใช้อำนาจเพิกถอนโฉนดได้

ขณะที่กรมป่าไม้ชี้แจงว่า การดำเนินคดีอาญากับเจ้าหน้าที่เป็นคนละส่วนกับการเพิกถอนโฉนด ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 61 ซึ่งการเพิกถอนโฉนดเป็นอำนาจของอธิบดีกรมที่ดิน สามารถสั่งเพิกถอนได้ทันที

ทางด้าน นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศราว่า เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดแก่เจ้าหน้าที่รัฐไปแล้วเมื่อปี 2560 ได้ส่งเรื่องให้กรมที่ดิน และกรมป่าไม้ ดำเนินการเพิกถอนโฉนดที่ดินด้วย ดังนั้นต้องไปดูในกฎหมายของกรมที่ดิน และกรมป่าไม้ว่า จะสามารถเพิกถอนโฉนดได้เองหรือไม่ หรือมีวิธีปฏิบัติอย่างไร หรือต้องส่งเรื่องร้องขอต่อศาล โดยในส่วนนี้เป็นประเด็นทางกฎหมายของแต่ละหน่วยงาน อย่างไรก็ตาม เท่าที่ทราบความคืบหน้าขณะนี้ (เดือน พ.ค. 2563 ที่ผ่านมา) กรมที่ดิน และกรมป่าไม้ ได้ประสานกันว่าอาจมีการส่งเรื่องให้อัยการเพื่อร้องขอต่อศาลให้เพิกถอนโฉนดที่ดินดังกล่าว

ทั้งนี้ตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช.ฉบับเดิม ป.ป.ช. มีอำนาจหน้าที่แค่ส่งเรื่องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณีนี้คือกรมที่ดิน และกรมป่าไม้เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อเท่านั้น แต่ขณะนี้มี พ.ร.บ.ป.ป.ช.ฉบับใหม่ โดยมาตรา 82 บัญญัติว่าเมื่อ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดแล้ว ให้ส่งอัยการเพื่อร้องขอต่อศาลเพิกถอนโฉนดที่ดินได้เลย โดยรวมไปกับสำนวนคดีอาญา เพื่อแก้ปัญหาให้มีการเพิกถอนโฉนดได้รวดเร็วมากขึ้น

ข้อมูลโฉนดอีก 8 แปลง สำนักข่าวอิศราจะนำมารายงานต่อไป

อ่านเรื่องเกี่ยวข้อง:

เลขาฯ ป.ป.ช.อัพเดตทุกประเด็นคดีรุกป่าอ่าวนาง เพิกถอนโฉนดหรือยัง-สอบเอกชนถึงไหน?

ต้องดูเจตนาเป็นหลัก! ป.ป.ช.ส่ง จนท.ให้ถ้อยคำดีเอสไอสอบเอกชนคดีรุกป่าอ่าวนางแล้ว

โชว์ภาพโฉนด 33 แปลง ไม่มีใครเพิกถอน-กลุ่มผู้สนับสนุน จนท.ยังไม่ถูกดำเนินคดี ?
โฉนดแปลงที่ 33 ในเขตป่าสงวน ป.ป.ช.ชี้มูล 3 ปี ไม่มีใครเพิกถอน?

แปลงนี้อีก! อยู่ในเขตป่าไม้ ออกโฉนดแล้วขายฝาก ไม่มีใครเพิกถอน

ยังไม่มีใครสั่งเพิกถอน? แปลงนี้ด้วย ออกโฉนดในเขตป่าไม้ถาวร

เปลี่ยนมือ 2 หน - ขายฝาก ! โฉนดแปลงที่ 30 อยู่ในเขตป่าไม้

บิ๊กกรมป่าไม้ กางกม.ม.61 ปมโฉนด 33 แปลง กรมที่ดินมีอำนาจเพิกถอนได้ทันที

อยู่ในเขตป่าไม้ถาวร - ลาดชันเกิน 35% โฉนดตัวอย่างอีกแปลง ยังไม่ถูกเพิกถอน

เต็มๆ!คำชี้แจงปมโฉนด 33 แปลง ผลสอบปี 54 ถ้ารู้เป็นป่าคงไม่ออก-กรมที่ดินไม่มีอำนาจเพิกถอน

หน้าที่กรมป่าไม้ฟ้องศาล! กรมที่ดินแจงไม่มีอำนาจเพิกถอนโฉนด 33 แปลงอ่าวนาง