ฉบับเต็ม! คำชี้แจงละเอียดกรมที่ดินกรณีโฉนดรุกป่า 33 แปลง อ่าวนาง ลำดับเรื่องตั้ง กก.สอบปี 54 สรุปผลออกผิดพลาด เพราะ เชื่อ จนท.ป่าไม้ กรมอุทยานฯบกพร่อง ถ้าเสียหายให้ฟ้องร้องเจ้าของเอง ไม่ต้องรับผิดชอบ ติดตามเรื่องปี 62 ล่าสุดเป็นปัญหาข้อกฏหมาย เพิกถอนเป็นอำนาจศาลเท่านั้น
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) เสนอข่าวคำชี้แจงของกรมที่ดิน กรณีไม่เพิกถอนโฉนด 39 แปลง (ออกไปแล้ว 33 แปลง และอยู่ระหว่างดำเนินการอีก 6 แปลง) ตามที่คณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ชี้มูลว่าออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเมื่อปี 2560 โดยกรมที่ดินให้เหตุผลว่า เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ ในการดำเนินการตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 เมื่อ ป.ป.ช.ได้แจ้งให้กรมป่าไม้พิจารณาดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลให้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้เพิกถอนโฉนดที่ดินและกรมป่าไม้ได้ส่งเรื่องดังกล่าวให้สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาจัดพนักงานอัยการดำเนินคดีหรือยื่นคำร้องต่อศาล แล้ว อธิบดีกรมที่ดิน ไม่สามารถใช้อำนาจเพิกถอนโฉนด จำนวน 42 แปลงได้ (แบ่งแปลงเพิ่มเติมอีก 3 แปลงจาก 39 แปลงเป็น 42 แปลง) (อ่านข่าวเกี่ยวข้อง:หน้าที่กรมป่าไม้ฟ้องศาล! กรมที่ดินแจงไม่มีอำนาจเพิกถอนโฉนด 33 แปลงอ่าวนาง)
ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา นำคำชี้แจงฉบับเต็มของกรมที่ดินมารายงาน
ตามที่แจ้งว่า สำนักข่าวอิศราได้ติดตามรายงานข่าว กรณี ปัญหาการออกโฉนดที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าอ่าวนาง – หางนาค” ตำบลหนองทะเล อำเภอกระบี่ จังหวัดกระบี่ ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ชี้มูลความผิดทางวินัยและอาญาบุคคลที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ปี พ.ศ.2560 จึงขอทราบว่า ได้มีการเพิกถอนโฉนดที่ดินดังกล่าวแล้วหรือไม่ ตั้งแต่เมื่อใด จำนวนเท่าใด กรณียังไม่เพิกถอนเป็นเพราะสาเหตุใด และขอทราบผลการดำเนินการลงโทษทางวินัยกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และการลงโทษอื่น (ถ้ามี) นั้น
กรมที่ดินได้ตรวจข้อเท็จจจริงกรณีดังกล่าวแล้ว ขอเรียน ดังนี้
@ ผลสอบปี 54 ออกโฉนดผิดพลาดเพราะเชื่อข้อมูล จนท.ป่าไม้ -กรมที่ดินไม่ต้องรับผิดชอบ
1.รองอธิบดีซึ่งอธิบดีกรมที่ดินมอบหมายได้พิจารณาและมีคำสั่งอธิบดีกรมที่ดินที่ 1902/2554 ลงวันที่ 26 กรกฎาคม 2554 ตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามความในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน เพื่อดำเนินการกรณีที่ปรากฎว่า โฉนดที่ดินเลขที่ 38918, 39183 – 39188, 39195, 39196, 39643 – 39654, 39701 – 39707, 43883, 39637,39638, 39639, 39199 – 19202, 39636, 39640 – 39642, 47228,47229,39197 และ 39198ตำบลหนองทะเล อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ จำนวน 42 แปลง ได้ออกไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากออกตามโครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน ตามมาตรา 58 และมาตรา 58 ทวิ วรรคสอง (2) แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าอ่าวนาง – ป่าหางนาค” ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 211(พ.ศ.2510) ออกตามความในพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 และบางแปลงอยู่ในเขตเขา มีความลาดชันโดยเฉลี่ยเกิน 35 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป และต่อมาได้พิจารณายุติการดำเนินการตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ตามบันทึกสำนักมาตรฐานการออกหนังสือสำคัญ ที่ มท.0516.2(3)/868 ลงวันที่ 10 กรกฎาคม 2555 เนื่องจากเห็นว่า ขณะที่ศูนย์อำนวยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินจังหวัดกระบี่ – พังงา ได้เข้าไปดำเนินการรังวัดและสอบสวนสิทธิเพื่อออกโฉนดที่ดินในบริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ดำเนินการขีดเขตป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าอ่าวนางและป่าหางนาค” ในระวางแผนที่เพื่อการออกโฉนดที่ดิน หมายเลข 4725 III 7294 ,7296 มาตราส่วน 1 : 4,000 และลงนามรับรองแนวเขต เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2548 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2531 และบันทึกข้อตกลงระหว่าง กรมที่ดินและกรมป่าไม้ ว่าด้วยการตรวจพิสูจน์ที่ดินเพื่อออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการท้าประโยชน์ ซึ่งเกี่ยวกับเขตป่าไม้ พ.ศ.2534 แล้ว ปรากฎว่าโฉนดที่ดินทั้ง 42 แปลง อยู่นอกเขตป่าสงวนแห่งชาติ เขตอุทยานแห่งชาติ ตามที่มีการขีดเขตและรับรองแนวเขตไว้ และจากการตรวจสอบเรื่องราวการออกโฉนดที่ดินปรากฎว่า มีการครอบครองลำทำประโยชน์ในที่ดินอย่างต่อเนื่อง เจ้าของที่ดินแปลงข้างเคียงลงนามรับรองแนวเขตครบถ้วน ผู้ปกครองท้องที่รับรองว่าไม่เป็นที่หลวงหวงห้ามหรือที่สาธารณประโยชน์ ประกาศแจกโฉนดที่ดินครบกำหนด 30 วัน ไม่มีผู้ใดโต้แย้งคัดค้าน จึงถือว่าในขณะที่ออกโฉนดที่ดิน ที่ดินนั้นย่อมไม่เป็นที่ดินต้องห้ามมิให้ออกโฉยดที่ดินตามกฎหมายกระทรวง ฉบับที่ 43 (พ.ศ.2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2437 ข้อ 14 (5) การที่ต่อมาภายหลังกรมป่าไม้ได้มีการตรวจสอบและขีดเขตป่าสงวนแห่งชาติในระวางแผ่นที่ภาพถ่ายทางอากาศ หมายเลข 4725 III 7294, 7296 เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2553 ใหม่ โดยแจ้งว่าการขีดเขตป่าไม้ของเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2548 เป็นไปโดยไม่ถูกต้อง มีผลทำให้โฉนดที่ดินที่นำเดินสำรวจไว้ ซึ่งเดิมไม่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ กลับไปอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ถือเป็นความบกพร่องในการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ซึ่งอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของกรมป่าไม้ หรือกรมอุทยานแห่งชาติฯ ในการขีดเขตป่าไม้ดังกล่าว ซึ่งความผิดพลาดบกพร่องดังกล่าวบุคคลภายนอกผู้ทำการโดยสุจริต ทั้งกรมที่ดินและเจ้าของที่ดินหากทราบว่าที่ดินดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ กรมที่ดินย่อมไม่เข้าไปทำการเดินสำรวจให้เพราะทราบดีว่าเป็นที่ดินต้องห้ามมิให้ออกโฉนดที่ดิน แต่การที่มีการขีดเขตป่าไม้โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้มีอำนาจหน้าที่ในการดูแลรักษาป่าสงวนแห่งชาติเสร็จเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ย่อมเชื่อโดยสุจริตว่าเป็นที่ดินที่สามารถออกโฉนดที่ดินให้แก่เจ้าของที่ดินได้ตามกฎหมาย และหากเจ้าของที่ดินได้ทราบว่าที่ดินดังกล่าวเป็นป่าสงวนแห่งชาติในขณะที่มีการออกโฉนดที่ดิน ก็ย่อมไม่กระทำการอันเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีกรมป่าไม้เห็นว่าที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าไม้ ก็ให้กรมป่าไม้เป็นผู้ฟ้องร้องเจ้าของที่ดินเอง เนื่องจากเจ้าของที่ดินต้องได้รับความเสียหายอันเนื่องมาจากความผิดพลาดในการขีดเขตป่าของกรมป่าไม้ หากกรมที่ดินเพิกถอนโฉนดที่ดินด้วยเหตุผลดังกล่าว กรมที่ดินอาจต้องรับผิดชอบทั้งที่มิใช่เกิดจากความผิดพลาดของกรมที่ดิน ดังนั้น กรณีนี้กรมที่ดินจึงไม่ควรเพิกถอนโฉนดที่ดินที่ออกในเขตป่าสงวนแห่งชาติอันเกิดจากการขีดเขตป่าไม้ผิด เว้นแต่จะปรากฎข้อเท็จจริงว่าเป็นการออกไปโดยคลาดเคลื่อนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะเหตุอื่น
( เลขที่ดิน : 3 เลขโฉนดที่ดิน : 39186 หน้าสำรวจ : 2050 ตำบล : หนองทะเล อำเภอ : เมืองกระบี่ จังหวัด : กระบี่ เนื้อที่ : 4 ไร่ 0 งาน 0.0 ตารางวา มีสภาพสีเขียวเต็มแปลง)
@ มิ.ย.60 ป.ป.ช.แจ้งมติให้กรมที่ดินแก้ไข-เพิกถอนโฉนด 39 แปลง
2.สำนักงาน ป.ป.ช. ได้มีหนังสือ ลับ ที่ ปช 0018/1145 ลงวันที่ 30 มิถุนายน 2560 แจ้งให้กรมที่ดินทราบว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติเอกฉันท์ว่า โฉนดที่ดินเลขที่ 39183 – 39188, 39195 – 39202, 39636 – 39654, 39703 – 39707 และ 38918 ตำบลหนองทะเล อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ จำนวน 39 แปลง ซึ่งออกตามโครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน เมื่อปี พ.ศ.2548 ได้ออกไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากออกในเขตป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าอ่าวนาง – ป่าหางนาค” ทั้งแปลงและบางส่วนและเขตป่าไม่ถาวร รวมทั้งได้ออกในที่เขา ที่ภูเขา ซึ่งเป็นที่ดินต้องห้าม มิให้เดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน ตามมาตรา 58 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน และตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 43 (พ.ศ.2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 จึงขอให้พิจารณาโทษทางวินัยกับเจ้าหน้าที่ และพิจารณาทบทวนการดำเนินการแก้ไขหรือเพิกถอนโฉนดที่ดิน จำนวน 39 แปลง ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 สำหรับความผิดทาอาญาได้ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญากับเจ้าหน้าที่แล้ว และให้กรมป่าไม้พิจารณาดำเนินการยื่นคำร้องขอต่อศาลให้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ยกเลิกหรือเพิกถอนโฉนดที่ดิน จำนวน 39 แปลงดังกล่าว ที่มีแนวเขตรุกล้ำทับซ้อนกับเขตป่าสงวนแห่งชาติหรือเขตป่าไม้ถาวร ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามทุจริต พ.ศ.2542
@ พ.ย.-ธ.ค.60 อธิบดีกรมที่ดินตั้ง ก.ก.สอบ อีกรอบ
3.รองอธิการบดีซึ่งอธิบดีกรมที่ดินมอบหมายได้พิจารณาทบทวนตามข้อ 2. และได้มีคำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน ที่ 3708/2560 ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2560 และ ที่ 4050/2560 ลงวันที่ 26 ธันวาคม 2560 ตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามความในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน เพื่อดำเนินการสอบสวนกรณีที่ปรากฎว่าโฉนดที่ดินเลขที่ 39183 – 39188, 39195 – 39202, 39636 – 39654, 39703 – 39707, 38918, 47228,47229 และ 43883 ตำบลหนองทะเล อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ จำนวน 42 แปลง (มีการแบ่งแยกโฉนดที่ดินเพิ่มเติมอีก 3 แปลง) ซึ่งออกไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากออกในเขตป่าไม้ถาวรตามมติคณะรัฐมนตรีเขตป่าสงวนแห่งชาติ และเป็นที่เขา ภูเขา หรือมีความลาดชันโดยเฉลี่ยเกิน 35 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป
@ กรมป่าไม้แจ้งส่งเรื่องให้อัยการฟ้องศาลแล้ว-สอบถามความคืบหน้าเรื่องเพิกถอน
4.กรมป่าไม้ได้มีหนังสือ ลับ ด่วนที่สุด ที่ ทส 1609.4/673 ลงวันที่ 13 กันยายน 2560 แจ้งว่ากรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเป็นเอกฉันท์ว่าโฉนดที่ดินตามข้อ 2. เป็นโฉนดที่ดินที่ออกไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยให้กรมที่ดินพิจารณาทบทวนการดำเนินการแก้ไขหรือเพิกถอนโฉนดที่ดิน จำนวน 39 แปลง รวมถึงโฉนดที่ดินที่ถูกแบ่งแยกหรือนำไปรวมกับโฉนดที่ดินแปลงอื่น และให้กรมป่าไม้พิจารณาดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลให้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ยกเลิกหรือเพิกถอนโฉนดที่ดินดังกล่าว ตามนัยมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยกันป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 นั้น กรมป่าไม้ได้ส่งเรื่องให้สำนักอัยการสูงสุดพิจารณาและจัดพนักงานอัยการดำเนินคดีหรือยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ยกเลิกหรือเพิกถอนโฉนดที่ดินดังกล่าวแล้ว จึงขอทราบผลความคืบหน้าในการดำเนินการของกรมที่ดิน และขอคัดถ่ายเอกสารที่เกี่ยวข้องกับโฉนดที่ดิน จำนวน 39 แปลง ตลอดจนเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการดำเนินคดีต่อไป
@ ผู้มีส่วนได้เสีย ค้านเพิกถอน - อธิบดีไม่มีอำนาจ
5.จังหวัดกระบี่ได้มีหนังสือ ที่ กบ 0020.2/5227 ลงวันที่ 8 พฤษภาคม 2561 แจ้งผลการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนฯ ให้กรมที่ดินเพื่อประกอบพิจารณา โดยผู้มีส่วนได้เสียตามหลักฐานโฉนดที่ดิน จำนวน 42 แปลง ได้คัดค้านการเพิกถอนโดยอ้างเหตุผลในทำนองเดียวกันว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 ตามมาตรา 99 กำหนดให้ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการฟ้องคดีต่อศาล ซึ่งยังไม่เป็นที่แน่นอน อธิบดีกรมที่ดินจึงไม่มีอำนาจเพิกถอนโฉนดที่ดินตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน เนื่องจากเป็นเรื่องของมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542
@ กรมที่ดินถามกลับกรมป่าไม้อีกครั้ง ส่งอัยการฟ้องศาลหรือยัง?
6.กรมที่ดิน ได้มีหนังสือ ที่ มท 0516.2/16005 ลงวันที่ 29 มิถุนายน 2561 ขอทราบผลการดำเนินการจากกรมป่าไม้ กรณีได้ส่งเรื่องให้สำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อฟ้องคดีต่อศาลให้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ยกเลิกหรือเพิกถอนโฉนดที่ดิน จำนวน 39 แปลง ตามข้อ 4. ว่าพนักงานอัยการได้ฟ้องคดีดังกล่าวต่อศาลแล้วหรือไม่ ซึ่งการดำเนินการตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 เป็นเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ไม่ประสงค์จะให้หน่วยงานทางปกครองที่ออกโฉนดที่ดินเป็นผู้ดำเนินการพิจารณาเพื่อมีคำสั่งเพิกถอนโฉนดที่ดินที่ออกไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายอีก เทียบคียงคำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ 666/2560 ลงวันที่ 30 สิงหาคม 2560 และต่อมาได้มีหนังสือ ที่ มท 0516.2/26796 ลงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 ขอทราบผลการดำเนินการกรณีดังกล่าวจากกรมป่าไม้เพื่อประกอบการพิจารณารอผลคดีดังกล่าวจนกว่าจะถึงที่สุดต่อไป
@ ทางวินัย ไล่ข้าราชการทุจริตออกแล้ว
7.สำหรับการดำเนินการพิจารณาโทษทางวินัยกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการออกโฉนดที่ดินทั้ง 39 แปลงดังกล่าว นั้น กรมที่ดินเมีคำสั่งไล่ข้าราชการที่เกี่ยวข้องดังกล่าวออกจากราชการแล้ว และสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 7 ได้แจ้งให้กรมที่ดินทราบว่า อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องคดีกับเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับการออกโฉนดที่ดินดังกล่าวต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 แล้ว
@ สรุป-กรมป่าไม้ส่งอัยการฟ้องศาลแล้ว กรมที่ดินไม่มีอำนาจ
กรมที่ดินพิจารณาแล้วเห็นว่า กรณี สำนักข่าวอิศราได้มีการนำเสนอข่าวในทำนองว่ากรมที่ดินไม่ดำเนินการเพิกถอนโฉนดที่ดินที่ออกไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติให้เพิกถอนแล้วนั้น อธิบดีกรมที่ดินได้มีคำสั่งที่ 3708/2560 ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2560 และ ที่ 4050/2560 ลงวันที่ 26 ธันวาคม 2560 ตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามความในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน เพื่อดำเนินการกับโฉนดที่ดิน จำนวน 42 แปลง (มีการแบ่งแยกโฉนดที่ดินเพิ่มเติมอีก 3 แปลง) เนื่องจากปรากฎตามรายงานการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการ ป.ป.ช. คดีหมายเลขแดงที่ 035 – 2 – 5/2560 รับฟังเป็นที่ยุติว่าบริเวณที่มีการออกโฉนดที่ดินดังกล่าว ที่ดินทั้งแปลงหรือบางส่วน อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ เขตป่าไม้ถาวรและที่เขา ภูเขา หรือมีความลาดชันโดยเฉลี่ยเกินกว่า 35 เปอร์เซ็นต์ ต้องห้ามมิให้เดินสำรวจออกโฉนดที่ดินตามมาตรา 58 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ประกอบกฎกระทรวงฉบับที่ 43 (พ.ศ.2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 ข้อ 14 (2), (4) และ (5) ซึ่งจังหวัดกระบี่ได้ส่งรายงานการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนฯ ดังกล่าวให้กรมที่ดินพิจารณาเพื่อดำเนินการตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมานที่ดินนั้น ผู้มีส่วนได้เสียได้คัดค้านการเพิกถอนโฉนดที่ดินดังกล่าวโดยกล้างอ้างว่า กรณีดังกล่าวอธิบดีกรมที่ดินไม่มีอำนาจเพิกถอนโฉนดที่ดินทั้ง 42 แปลง ตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน จะต้องดำเนินการเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนโฉนดที่ดิน ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 เท่านั้น
ประเด็นดังกล่าวจึงเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 ซึ่งเรื่องในทำนองนี้กรมที่ดินได้เคยยื่นคำร้องขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งเพิกถอนโฉนดที่ดินตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 แต่ศาลปกครองชั้นต้นไม่รับคำร้องของกรมที่ดินโดยเห็นว่า อธิบดีกรมที่ดินมีอำนาจที่สามารถดำเนินการเพิกถอนตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินได้อยู่แล้ว ต่อมาศาลปกครองสูงสุดจึงได้มีคำสั่งที่ 666/2560 ลงวันที่ 30 สิงหาคม 2560 วินิจฉัยเป็นบรรทัดฐานไว้ว่า บทบัญญัติมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 ซึ่งบัญญัติโดยชัดแจ้งว่าให้ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ส่งรายงานและหลักฐานที่มีอยู่พร้อมทั้งความเห็นไปยังผู้บังคับบัญชาหรือหัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งหรือคำพิพากษาให้ยกเลิกหรือเพิกถอนสิทธิหรือเอกสารสิทธิที่ผู้ถูกกล่าวหาได้อนุมัติหรืออนุญาตนั้น เป็นเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ไม่ประสงค์จะให้หน่วยงานทางปกครองที่ออกเอกสารสิทธิ เป็นผู้ดำเนินการพิจารณาเพื่อมีคำสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ออกไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายอีก โดยให้นำคดีเข้าสู่การพิจารณาพิพากษาของศาล ซึ่งเป็นองค์กรที่ใช้อำนาจตุลาการในการวินิจฉัยชี้ขาดข้อพิพาท เพื่อให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ผู้ถูกกล่าวหาได้อนุมัติหรืออนุญาตนั้น จึงให้ศาลปกครองชั้นต้นรับคำร้องของกรมที่ดินไว้ดำเนินการ
ดังนั้น ในกรณีของเรื่องนี้เมื่อข้อเท็จจริงปรากฎว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้แจ้งให้กรมป่าไม้พิจารณาดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลให้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้เพิกถอนโฉนดที่ดินดังกล่าว มาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และกรมป่าไม้ได้ส่งเรื่องดังกล่าวให้สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาจัดพนักงานอัยการดำเนินคดีหรือยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ยกเลิกหรือเพิกถอนโฉนดที่ดินดังกล่าวแล้ว อธิบดีกรมที่ดินจึงไม่สามารถใช้อำนาจตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน กับโฉนดที่ดิน จำนวน 42 แปลงได้ ตามนัยคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดดังกล่าวซึ่งกรมที่ดินได้มีหนังสือขอทราบผลการดำเนินคดีดังกล่าวจากกรมป่าไม้แล้วว่าเรื่องดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนใด พนักงานอัยการได้ฟ้องคดีดังกล่าวต่อศาลแล้วหรือไม่ อย่างไร
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องกับสาธารณชนผู้รับข้อมูลข่าวและไม่ก่อให้เกิดผลกระทบและความเสียหายต่อกรมที่ดิน จึงขอให้สำนักข่าวอิศราได้นำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องให้ประชาชนได้รับรู้ต่อไปด้วยจะเป็นพระคุณยิ่ง
อ่านเรื่องเกี่ยวข้อง:
หน้าที่กรมป่าไม้ฟ้องศาล! กรมที่ดินแจงไม่มีอำนาจเพิกถอนโฉนด 33 แปลงอ่าวนาง
ยังไม่ถูกเพิกถอน โฉนดรุกป่า แปลงนี้ลาดชันเกิน 35%
โฉนดรุกป่า แปลงที่ 27 ขายให้เมียช่างรังวัด
แปลงที่ 26 ขายไปแล้ว 1.5 ล้าน โฉนดรุกป่าอ่าวนาง
แปลงนี้ด้วย ออกโฉนดรุกป่าอ่าวนาง ยังไม่เพิกถอน
อยู่ใกล้โรงแรมดัง! โฉนดบนเขา แปลงที่ 24 กรมที่ดินยังไม่เพิกถอน
อีกตัวอย่าง! โฉนดบนเขาอ่าวนาง เมียช่างรังวัด ยังไม่ถูกเพิกถอน
2 ปมใหญ่ยังไม่ถูกจัดการ - ไทม์ไลน์คดีโฉนดฉาว 33 แปลง รุกป่าอ่าวนาง
อยู่ในข่าย 26 คน! จนท.ดีเอสไอหารืออัยการปมเอาผิดเอกชนคดีโฉนดรุกป่าอ่าวนาง
INFO: เปิด 5 ขั้นตอนออกโฉนดฉาว 33 แปลง ป่าอ่าวนาง
แปลงที่ 22 โฉนดบนเขา ชื่อ‘อดีต ขรก.-เอกชน’ เกี่ยวพัน 12 คน
แปลงนี้ด้วย! โฉนดบนเขา กลุ่มเดียวกัน ป.ป.ช.ชี้มูล 3 ปี ยังไม่เพิกถอน
สูตรเดิม! แปลงที่ 20 โฉนดบนเขา นักธุรกิจ อ้างครอบครอง 67 ปี
อ้างซื้อจากนายตำรวจ ทำใบไต่สวนเท็จ โฉนดบนเขา แปลง 19 อ่าวนาง
แปลงที่ 18 ! โฉนดบนเขา อ่าวนาง อ้างครอบครอง 67 ปี ยังไม่เพิกถอน
ตัวอย่าง! โฉนดบนเขาติดทะเลแปลงนี้ กรมที่ดินยังไม่เพิกถอน หลัง ป.ป.ช.ชี้มูล 3 ปี
3 ปีหลัง ป.ป.ช.ฟันทุจริตคดีฉาวรุกป่าอ่าวนาง โฉนดยังไม่ถูกเพิกถอน-เอกชนลอยนวล?
แปลงนี้ ‘ผู้ใหญ่บ้าน’ ชงออกโฉนดชื่อตัวเอง 2 ไร่ ขายเจ้าของโรงแรม 4 ล้าน
เบื้องหลังออกโฉนดยอดเขาแปลงนี้ อ้างครอบครองมา 67 ปี เจ้าของเป็นนักธุรกิจ
ที่ดินยอดเขาแปลงนี้ อ้างครอบครองมานาน 62 ปี ก่อนออกโฉนด
อ้างปลูกไม้ผล ยางพารา 20 ปี โฉนดบนเขาแปลงนี้ 3 ไร่
อ้างครอบครองมานาน 58 ปี ที่ดินบนเขาแปลงนี้ ออกโฉนด 2 ไร่
เผยโฉมโฉนด 6 ไร่ เมียช่างรังวัด รุกป่าอ่าวนาง
ไม่นิ่งนอนใจ! 'นิพนธ์' สั่งติดตามคดีทุจริตโฉนดป่าอ่าวนางแล้ว-กรณี 'กนกวรรณ' รอเอกสารอยู่
ชัดๆอีกแปลง โฉนดบนเขา 4 ไร่ ขายนักธุรกิจ 14.5 ล. ฝีมืออดีต ขรก.กลุ่มเดิม
ทำใบไต่สวนครอบครองเท็จ! เบื้องหลังโฉนด บ.รีสอร์ทดัง คดีรุกป่าอ่าวนาง
โฉนดแปลงนี้ 4 ไร่ เจ้าของโรงแรมดังซื้อ 14 ล้าน รุกป่าอ่าวนาง
โฉนดบนเขา 5 ไร่ ออกมิชอบ คนสกุล ‘ภูเก้าล้วน’ ซื้อ 11 ล้าน คดีรุกป่าอ่าวนาง
เบื้องหลัง โฉนด 25 ไร่ เจ้าของโรงแรมดัง คดีรุกป่าอ่าวนาง ทำใบไต่สวนกรรมสิทธิ์เท็จ
เผยโฉมที่อยู่พร้อมสระว่ายน้ำ นายช่าง4 ชี้แนวเขตคดีรุกป่าอ่าวนาง เพื่อนบ้านอ้างขายแล้ว
โผล่อีกแปลง โฉนดบนเขา อดีตผู้ว่าฯซื้อ 5 ล้าน คดีรุกป่าอ่าวนาง 200 ไร่
โฉนดที่ดินบนเขา ขายให้อดีตผู้ว่าฯ คดีรุกป่าอ่าวนาง
ทำใบครอบครองเท็จ ออกโฉนด 2 ไร่ ขายให้ ส.ส.ปชป.คดีรุกป่าอ่าวนาง-เจ้าตัวแจงซื้อถูกต้อง
โฉนด 10 ไร่ คนสกุลนักการเมือง คดีรุกป่าอ่าวนาง จัดทำเอกสารเท็จ
เผยโฉม-ที่มาโฉนดตระกูลดัง 18 ไร่ คดีรุกป่าอ่าวนาง จ.กระบี่ 5 ขรก.ออกมิชอบ
เปิดคำฟ้อง-พฤติการณ์ 5 ขรก.คดีออกโฉนดป่าอ่าวนาง จ.กระบี่ 200 ไร่เอื้อเอกชน 31 ราย
เผยชื่อ 4 อดีต ขรก.! อัยการสั่งฟ้องคดีทุจริตออกโฉนดทับป่าอ่าวนาง จ.กระบี่-ขาด 1 คน
อัยการสูงสุดสั่งฟ้อง 5 ขรก.คดีออกโฉนดรุกป่าอ่าวนาง จ.กระบี่-ฟันเพิ่มเอกชนสนับสนุนทุจริต
คดีออกโฉนดกลุ่มทุนรุก'อ่าวนาง'อืด! ผู้ร้องรุดทวงถามอัยการ ‘10 ปียังเอาผิดใครไม่ได้’
อัยการเจ้าของสำนวนเห็นสั่งฟ้องกราวรูด 42 คน คดีออกโฉนด 39 แปลงป่าอ่าวนาง จ.กระบี่
รายละเอียดโฉนด 39 แปลง จ.กระบี่ ในข่ายถูก ป.ป.ช.ชี้มูล ใครเป็นเจ้าของบ้าง?
ปมโฉนด จ.กระบี่!ป.ป.ช.ฟันร้ายแรง 5 จนท.ทุจริต เพิกถอน 39 แปลง-ของ ส.ส.ด้วย
3 กลุ่มทุนผู้ถือครองที่ดินแปลงใหญ่ จ.กระบี่ เป็นใคร?
รายชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ โฉนด จ.กระบี่ 42 แปลง - เจ้าของ รร.ดังคนเดียว 10 ฉบับ
เจาะปมโฉนด 33 แปลงในป่า จ.กระบี่ ผ่าน 10 ปี ยังไม่เพิกถอน - คนทุจริต สบายดี?
โชว์หนังสือรองอธิบดี หัก‘ดีเอสไอ-กมธ.สภาฯ’ไม่เพิกถอนโฉนด จ.กระบี่ 33 แปลง
ดูเพลินๆ ภาพถ่ายดาวเทียมที่ดิน อดีต ส.ส.-นักธุรกิจ จ.กระบี่ ‘สีเขียว’พรึบเต็มแปลง
เปิดผลสอบโฉนด จ.กระบี่ 51 แปลง ฉบับกรมที่ดิน ชัด อดีต ส.ส.อยู่ในป่าสงวน
อดีต ส.ส.ปชป.รับที่ดินกระบี่ 2 ไร่ถูกดีเอสไอสอบเป็นของตัวเอง-ร่วมหุ้นเพื่อนซื้อหลายแปลง
‘ให้ระวังตัวเองดีๆ’อธิบดีกรมที่ดินสั่ง‘ผู้ร้อง’หลังรู้ชื่อขาใหญ่ออกโฉนดในป่า จ.กระบี่
เปิดชื่อ 23 คนยื่นออกโฉนด 33 แปลงบนเขา จ.กระบี่ สกุลดัง-อดีต ส.ส.ปชป.เจ้าของ
วิวสวย ป่าสมบูรณ์! ‘อิศรา’ลงพื้นที่ บ้านทับแขก จ.กระบี่ ออกโฉนดบนเขา 51 แปลง
เปิดผลสอบดีเอสไอมัดโฉนด 31 แปลง จ.กระบี่ อยู่บนเขา- ซี 7 กับพวก 5 คนส่อทุจริต
ฮุบที่ดินริมหาด จ.กระบี่ ออกโฉนด 200 ไร่ 1,000 ล. ร้องคดีไม่คืบ - 5 จนท.เอี่ยว