"...นายมนตรี เป็นผู้ตั้งงบประมาณในการดำเนินโครงการพัฒนาภาษาอาเซียน ต่อมาในการดำเนินการจัดซื้อสื่อการเรียนรู้ตามโครงการ นายมณเฑียร ได้สั่งการในรายงานขอซื้อ โดยอนุมัติให้กองพัสดุและดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ ปรากฏว่า นาง ว. ผู้อำนวยการกองพัสดุและทรัพย์สิน ไม่ดำเนินการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษตามที่ได้รับการสั่งการ และได้ทักท้วงเป็นลายลักษณ์อักษร นายมณเฑียร จึงได้ออกคำสั่งให้นาง ว. ไปช่วยราชการสังกัดสำนักปลัด อบจ.ชัยภูมิ เป็นการชั่วคราว..."
กรณี นายมนตรี ชาลีเครือ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ชัยภูมิ และ นายมณเฑียร เลิศรัฐการ อดีตรองนายก อบจ.ชัยภูมิ ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดทางอาญา กรณีกล่าวหากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ โครงการจัดซื้อสื่อการเรียนรู้ชุดพัฒนาทักษะภาษาเกี่ยวกับประเทศสมาชิกอาเซียน ตามโครงการพัฒนาทักษะภาษาสู่ประชาคมอาเซียน งบประมาณ 17,360,200 บาท โดยวิธีพิเศษ นั้น
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานไปแล้วว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลคดีนี้เป็นทางการในช่วงเดือนเม.ย.2567 ต่อมาเดือนก.ย.2567 สำนักงาน ป.ป.ช. ได้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็นไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) ขอให้ดำเนินคดีอาญากับนายมนตรี และนายมณเฑียร เลิศรัฐการ แล้ว
ปัจจุบันสำนวนคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของ อสส.
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดคดีนี้เป็นทางการ มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
หนึ่ง. ข้อกล่าวหา
คดีนี้ มีผู้ถูกกล่าวหา 2 ราย คือ นายมนตรี ชาลีเครือ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ชัยภูมิ และ นายมณเฑียร เลิศรัฐการ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ชัยภูมิ
ป.ป.ช.ระบุข้อกล่าวหาเป็นทางการว่า นายมนตรี ชาลีเครือ นายกอบจ.ชัยภูมิ กับพวก กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ โครงการจัดซื้อสื่อการเรียนรู้ชุดพัฒนาทักษะภาษาเกี่ยวกับประเทศสมาชิกอาเซียน ตามโครงการพัฒนาทักษะภาษาสู่ประชาคมอาเซียน งบประมาณ 17,360,200 โดยวิธีพิเศษ ทั้งที่สามารถดำเนินการจัดซื้อด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ อันเป็นการปฏิบัติหน้าที่ส่อไปในทางทุจริต
สอง. พฤติการณ์ในคดี
จากการไต่สวนข้อเท็จจริงพบว่า นายมนตรี ชาลีเครือ นายก อบจ.ชัยภูมิ (ในขณะนั้น) ได้มอบอำนาจให้นายมณเฑียร เลิศรัฐการ รองนายก อบจ.ชัยภูมิ (ในขณะนั้น) เป็นผู้มีอำนาจในการสั่ง การอนุญาต การอนุมัติ เกี่ยวกับงานจัดซื้อสื่อการเรียนรู้ชุดพัฒนาทักษะภาษาเกี่ยวกับประเทศสมาชิกอาเซียนตามโครงการพัฒนาทักษะภาษาอาเซียน แต่นายมนตรี ได้ร่วมกันกระทำความผิดกับนายมณเฑียร แบ่งหน้าที่กันทำ
โดยนายมนตรี เป็นผู้ตั้งงบประมาณในการดำเนินโครงการพัฒนาภาษาอาเซียน ต่อมาในการดำเนินการจัดซื้อสื่อการเรียนรู้ตามโครงการ นายมณเฑียร ได้สั่งการในรายงานขอซื้อ โดยอนุมัติให้กองพัสดุและดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ ปรากฏว่า นาง ว. ผู้อำนวยการกองพัสดุและทรัพย์สิน ไม่ดำเนินการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษตามที่ได้รับการสั่งการ และได้ทักท้วงเป็นลายลักษณ์อักษร
นายมณเฑียร จึงได้ออกคำสั่งให้นาง ว. ไปช่วยราชการสังกัดสำนักปลัด อบจ.ชัยภูมิ เป็นการชั่วคราว
จากนั้น นายมนตรี ได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้นาย ภ. รองปลัดอบจ.ชัยภูมิ รักษาราชการในตำแหน่งผู้อำนวยการกองพัสดุและทรัพย์สินแทนนาง ว. เป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ เพื่อให้ อบจ. ชัยภูมิ สามารถดำเนินการจัดซื้อสื่อการเรียนรู้ดังกล่าว โดยวิธีพิเศษ โดยไม่ชอบตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ อบจ.ชัยภูมิ
สาม. มติคณะกรรมการ ป.ป.ช.
ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2567 พิจารณาสำนวนไต่สวนคดีแล้ว มีมติดังนี้
(1.) นายมนตรี ชาลีเครือ มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทํา จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อํานาจในตําแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น และฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 ) และมีมูลความผิด ฐานละเลยไม่ปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน ตามพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ.2540 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 79
(2.) นายมณเฑียร เลิศรัฐการ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทํา จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อํานาจในตําแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น และฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 และมีมูลความผิด ฐานละเลยไม่ปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน ตามพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 79
พร้อมเห็นชอบให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็นไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) ขอให้ดำเนินคดีอาญากับนายมนตรี และนายมณเฑียร เลิศรัฐการ เป็นทางการตามขั้นตอนทางกฏหมาย ปัจจุบันสำนวนคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของ อสส. ตามที่ปรากฏข่าวไปแล้ว
@ มนตรี ชาลีเครือ
@ มณเฑียร เลิศรัฐการ
อย่างไรก็ดี เกี่ยวกับคดีนี้ สำนักข่าวอิศรา รายงานไปแล้วว่า การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด ผู้ถูกกล่าวหาที่ถูกชี้มูลความผิดยังมีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลได้อีก
บทสรุปสุดท้าย ผลการพิจารณาของ อสส. เกี่ยวกับคดีนี้ จะออกมาเป็นอย่างไร
จะเห็นชอบสั่งฟ้องคดีตามมติชี้มูลคดีของ ป.ป.ช. หรือ แจ้งข้อไม่สมบูรณ์ในสำนวนคดีตั้งคณะทำงานร่วม 2 ฝ่ายระหว่าง อัยการกับ ป.ป.ช. เพื่อหาข้อยุติรวมกัน
ติดตามดูกันต่อไป แบบห้ามกระพริบตาโดยเด็ดขาด
อ่านข่าวเกี่ยวข้อง
- ปิดสำนวนสอบ'อิศรา'!คดีจัดซื้ออุปกรณ์เรียน อบจ.ชัยภูมิ 100ล. สตง. ส่งเรื่องถึง ป.ป.ช.แล้ว
- บิ๊กเทศบาลฯโผล่รับเงินแทน!หลักฐานใหม่สตง.มัดจัดซื้ออุปกรณ์เรียนอบจ.ชัยภูมิ-ชงป.ป.ช.สอบ
- ตั้งธงนำสอบปมฮั้ว! สตง.รับลูก'อิศรา' ลุยตรวจ อบจ.ชัยภูมิ ซื้ออุปกรณ์เรียน7สัญญา
- นายกอบจ.ชัยภูมิ โอดถูกใส่ร้าย! ยันไม่รู้เรื่อง บ.แข่งขายอุปกรณ์เรียนเชื่อมโยงกัน