"...พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบจึงมีน้ำหนักให้รับฟังได้ว่าจำเลยเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นนำเงินไปให้เจ้าพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อจูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำการ หรือประวิงการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่ แต่ผู้อื่นที่ถูกใช้นั้น มิได้นำเงินไปให้เจ้าพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ จึงถือว่าความผิดที่จำเลยใช้ยังมิได้กระทำลงไม่ว่าจะเป็นเพราะผู้ถูกใช้ไม่ยอมกระทำ ยังไม่ได้กระทำ หรือเหตุอื่นใด ซึ่งจำเลยผู้ใช้ต้องระวางโทษเพียงหนึ่งในสามของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น อันเป็นความผิดตามฟ้อง..."
หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) : เป็นบทสรุปคำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ตัดสินลงโทษจำคุก 6 เดือน นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานบริหารบริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์จํากัด เป็นจำเลยซึ่งเป็นน้องชายของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กรณีมีพฤติการณ์กระทำผิดติดสินบนเจ้าพนักงาน และนายหน้าเป็นเงินจำนวน 20 ล้านบาท เพื่อเช่าที่ดินของทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ 2 แปลงใน ซ.ร่วมฤดี และ ย่านชิดลม
*************
วันนี้ (20 พ.ค.2567) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 152/2566 ระหว่าง พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 3 โจทก์ กับนายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ จำเลย โดยโจทก์ฟ้องว่าจำเลยให้เป็นเงินค่าจ้างแก่นาย ส. มีเจตนาเป็นนิติกรรมอำพรางเพื่อใช้ให้นาย ส.กับนาย ป.นำเงินไปมอบให้แก่รองผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนซึ่งเป็นเจ้าพนักงาน เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ โดยวิธีอันทุจริตและผิดกฎหมายเพื่อจูงใจให้กระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่ด้วยการจัดสรรที่ดินแปลงที่ทำการองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (ชิดลม ให้บริษัทเรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เป็นผู้ได้รับประโยชน์ด้วยการได้สิทธิการเช่าที่ดินระยะยาวโดยไม่ต้องผ่านการประมูลแข่งขันตามขั้นตอนปกติอันเป็นการกระทำโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ไม่เป็นไปตามระเบียบและแนวทางปฏิบัติทำให้เสียประโยชน์ที่จะได้รับเงินจากการประมูลในราคาที่ควรจะได้สูงที่สุด
ขอให้ลงโทษฐาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 84, 144 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 4, 123/5 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 4, 176, 198
จำเลยให้การปฏิเสธ ว่าไม่ได้มีเจตนากระทำผิดตามฟ้อง
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่า จำเลยย่อมต้องรู้ว่าการจ่ายเงินให้แก่นาย ส.ไปก็เพื่อให้นายส.ไปให้แก่เจ้าพนักงานในสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ดังนั้น การที่จำเลยทำสัญญาจ้างนาย ส.โดยมีการจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่นาย ส.ไปโดยจำเลยรู้ว่านาย ส.ต้องนำไปให้เจ้าพนักงานเพื่อให้กระทำการอันเป็นคุณแก่จำเลย คือให้จำเลยได้สิทธิในการเช่าที่ดินระยะยาว แต่เมื่อนาย ส .มิได้นำเงินไปให้แก่เจ้าพนักงานในสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ แต่เป็นการที่นาย ส.กับนาย ป.ร่วมกันวางแผนหลอกลวงเพื่อเอาเงินจากจำเลยเท่านั้น
การกระทำของจำเลยจึงเป็นเพียงผู้ใช้ให้นาย ส.ไปกระทำความผิดฐานให้สินบน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 144
แต่เมื่อนาย ส.มิได้นำเงินไปให้แก่เจ้าพนักงานในสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จึงเท่ากับว่าความผิดนั้นมิได้กระทำลง
ในส่วนที่นาย ส.รับเงินจากจำเลยไปเป็นคนกลางผู้รับสินบน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 143 ทันที จำเลยไม่มีความผิดตามมาตรา 143 เพราะผู้ให้เงินคนกลางไม่มีกฎหมายบัญญัติเป็นความผิดไว้
พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบจึงมีน้ำหนักให้รับฟังได้ว่า จำเลยเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นนำเงินไปให้เจ้าพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อจูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำการ หรือประวิงการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่ แต่ผู้อื่นที่ถูกใช้นั้น มิได้นำเงินไปให้เจ้าพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ
จึงถือว่าความผิดที่จำเลยใช้ยังมิได้กระทำลงไม่ว่าจะเป็นเพราะผู้ถูกใช้ไม่ยอมกระทำ ยังไม่ได้กระทำ หรือเหตุอื่นใด ซึ่งจำเลยผู้ใช้ต้องระวางโทษเพียงหนึ่งในสามของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น อันเป็นความผิดตามฟ้อง
พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 ประกอบมาตรา 84 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/5 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 84 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทแต่ละบทมีอัตราโทษเท่ากัน ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 ประกอบมาตรา 84 เพียงบทเดียว จำคุก 8 เดือน
ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสี่ คงจำคุก 6 เดือน./
*************
อย่างไรก็ดี มีรายงานข่าวว่า หลังศาลฯ มีคำพิพากษาตัดสินคดี ทนายนายสกุลธร ยื่นคำร้องปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วได้อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ โดยใช้หลักประกันเดิมเป็นเงินสด จำนวน 150,000 บาท
ผลการต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์เป็นอย่างไร ติดตามดูกันต่อไป
ขณะที่ นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ เคยออกแถลงการณ์เป็นเอกสารข่าว (Press Release) ชี้แจงก่อนหน้านี้ โดยยืนยันความบริสุทธิ์ และตนเองตกเป็นผู้เสียหาย เพิ่งมาทราบทีหลังว่าเป็นเอกสารปลอม ที่ผ่านมาให้ความร่วมมือกับตำรวจสอบสวนเต็มที่จนจับผู้กระทำผิดได้ ส่วนการจ่ายเงินนั้น เป็นค่านายหน้าที่มีลักษณะเป็นที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ โดยเป็นไปตามมาตรฐานสากลวิชาชีพ (อ่านประกอบ : รู้ทีหลังว่าเอกสารปลอม-ยันบริสุทธิ์! ‘สกุลธร’แจง 6 ข้อคดี จนท.สนง.ทรัพย์สินฯรับสินบน)
อ่านประกอบ:
- ไม่มีอะไรแจงเป็นพิเศษ! 'สกุลธร'ปฏิเสธทุกข้อหาคดีให้สินบน จนท.สนง.ทรัพย์สินฯ 20 ล.
- หลักฐานชัด! บก.ป.แจ้งข้อหา‘สกุลธร’ให้สินบน จนท.สนง.ทรัพย์สินฯ-เรียกพบสัปดาห์หน้า
- ยันรับเช็คจาก‘สกุลธร’! อดีตนายหน้าให้ปากคำ บก.ป.คดีสินบนเช่าที่ สนง.ทรัพย์สินฯ
- อดีต จนท.สนง.ทรัพย์สินฯ ให้ปากคำ บก.ป.คดีสินบนแล้ว-ลุ้นเรียก‘สกุลธร’ด้วย
- ‘อดีต จนท.สนง.ทรัพย์สินฯ’ ยังล่องหน! บก.ป.นัด 18 ธ.ค.ให้ปากคำขยายผลคดีรับสินบน'สกุลธร'
- รู้ทีหลังว่าเอกสารปลอม-ยันบริสุทธิ์! ‘สกุลธร’แจง 6 ข้อคดี จนท.สนง.ทรัพย์สินฯรับสินบน
- 2 จำเลยคดีรับสินบน'สกุลธร'พ้นโทษแล้ว! บก.ป.นำตัวสอบขยายผลต่อ-ดูเส้นทางเงินด้วย
- พลิกเอกสาร ใครเป็น กก. บ.เรียลแอสเสทฯ ช่วงเจรจาเช่าที่ดิน สนง.ทรัพย์สินฯปี 2560?
- เงื่อนปมคดี จนท.สนง.ทรัพย์สินฯรับสินบน‘สกุลธร’-อ้างถูกโกงไฉนไม่ฟ้องเรียกเงินคืน?
- ฉบับเต็ม! คำแถลง อสส. คดีสินบนสนง.ทรัพย์สินฯ 20 ล. 'สกุลธร' - ตร. ขอแยกฟ้องอีกสำนวน
- อสส.แจงไม่มีอำนาจฟ้อง'สกุลธร' รายงานการสอบสวน ตร.ประสงค์แยกสำนวนคดีอยู่แล้ว
- ผบก.ป.ยันแยกสอบ 2 สำนวนทั้ง‘ผู้ให้-ผู้รับ’คดี จนท.สนง.ทรัพย์สินรับสินบนจาก‘สกุลธร’
- กองปราบฯอาจแจ้งข้อหา‘สกุลธร’หลังคำพิพากษาระบุให้ 20 ล้าน จนท.สำนักงานทรัพย์สินฯ
- กาง กม.-ไขเบื้องหลัง? ไฉนไร้ชื่อ‘สกุลธร’ เป็นจำเลยคดี จนท.สนง.ทรัพย์สินฯรับสินบน 20 ล.
- เปิดปูม บ.‘สกุลธร’ รายได้ 1,745 ล. โยงคดี จนท.ปลอมเอกสารเช่าที่ดิน สนง.ทรัพย์สินฯ
- พอร์ตธุรกิจ 44 บ.ไทยซัมมิท 'สกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ’- 4 บริษัทย่อยเครือเรียลแอสเสทฯ