ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค 3 พิพากษาลงโทษคดีที่ 2 ‘ศ.ประกอบ' อดีตอธิการฯม.อุบล ทุจริตเบิกจ่ายเงินรายได้ จำคุก 41 กระทง 50 ปี นับโทษต่อคดีแรกโดนไปแล้ว 9 ปี 28 เดือน ด้วย - พวก 5 ราย ส่วนใหญ่ ระดับรองอธิการฯ รับโทษ 30 ปี 40 เดือน, 21 ปี 28 เดือน, 18 ปี 24 เดือน, 50 ปี แต่ได้รอลงอาญา
กรณีสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำเสนอข่าวว่า ศาสตราจารย์หรือนายประกอบ วิโรจนกูฏ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กับพวกรวม 6 ราย ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดทางอาญาคดีที่ 2 กรณีถูกกล่าวหาทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ในการเบิกจ่ายเงินรายได้ของมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีจากบัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ชื่อบัญชี “เงินสนับสนุนการบริการวิชาการและพัฒนามหาวิทยาลัยอุบลราชธานี" ไม่ถูกต้องตามระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลังการเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลัง พ.ศ. 2551 เป็นเหตุให้มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีได้รับความเสียหาย และมีการส่งสำนวนผลการไต่สวนคดี เอกสารหลักฐานประกอบ ให้อัยการสูงสุด (อสส.) พิจารณาฟ้องร้องดำเนินคดีตามขั้นตอนทางกฎหมาย
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2566 ศาลอาญาคดีศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 3 มีคำพิพากษาตัดสินคดีนี้เป็นทางการ
โดย ศาสตราจารย์หรือนายประกอบ วิโรจนกูฏ จำเลยที่ 1 ถูกพิพากษาลงโทษจําคุกกระทงละ 5 ปี รวม 41 กระทง เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงจําคุก 50 ปี
ส่วน รองศาสตราจารย์หรือนายสัมมนา มูลสาร จำเลยที่ 2 อดีตรองอธิการบดีฝ่ายวิชาการมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี (สมัยจำเลยที่ 1) ถูกตัดสินลงโทษรวม 10 กระทง จําคุก 30 ปี 40 เดือน และปรับ 30,000 บาท
รองศาสตราจารย์หรือนายทวีคูณ สวรรค์ตรานนท์ จำเลยที่ 3 อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี (สมัยจำเลยที่ 1) ถูกตัดสินลงโทษรวม 7 กระทง จําคุก 21 ปี 28 เดือน และปรับ 21,000 บาท
รองศาสตราจารย์หรือนายสมหมาย ชินนาค จำเลยที่ 4 อดีตรองอธิการบดีฝ่ายวิจัยมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี (สมัยจำเลยที่ 1) ถูกตัดสินลงโทษ รวม 5 กระทง จําคุก 18 ปี 24 เดือน และปรับ 18,000 บาท
นายสุภชัย หาทองคำ จำเลยที่ 5 อดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีฝ่ายบริหาร (สมัยจำเลยที่ 1) ถูกตัดสินลงโทษรวม 17 กระทง เมื่อรวมโทษทุกกระทง แล้วคงจําคุก 50 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 41 (3) และปรับ 51,000 บาท
นางวนิดา บุญพราหมณ์ จำเลยที่ 6 ตำแหน่งนักวิชาการการเงินและบัญชีชำนาญการ ถูกตัดสินลงโทษ รวม 40 กระทง เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงจําคุก 50 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 (3) และปรับ 120,000 บาท
อย่างไรก็ดี จําเลยที่ 2 ถึงที่ 6 โทษจําคุกให้รอการลงโทษไว้คนละ 3 ปี ให้คุมประพฤติไว้ 2 ปี โดยให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 8 ครั้ง และทํางานบริการสังคมคนละ 24 ชั่วโมง ตามเงื่อนไขกําหนด ระยะเวลาที่พนักงานคุมประพฤติเห็นสมควร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (ที่แก้ไขใหม่) นับโทษจําเลยที่ 1 ต่อจากโทษจําคุกของจําเลยในคดีเก่าของศาลนี้
อนึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2564 ศาลฎีกา มีคำพิพากษาตัดสินจำคุก 9 ปี 28 เดือนศาสตราจารย์หรือนายประกอบ วิโรจนกูฏ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี คดี อนุมัติให้ยืมเงินสำรองหมุนเวียนโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และอนุมัติให้กู้ยืมเงินสวัสดิการเพื่อการศึกษาแก่บุคลากรภายในมหาวิทยาลัยโดยมิชอบไปแล้ว
นับโทษรวม 2 คดี คดีแรก 9 ปี 28 เดือน คดีที่สอง 50 ปี
อย่างไรก็ดี ในส่วนคดีที่สอง ยังไม่สิ้นสุด ศาสตราจารย์หรือนายประกอบ วิโรจนกูฏ และพวก มีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้