เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'กฤตรัตนชัย หรือมนทร์ ทองเรือง' อดีตนายก อบต.กุดลาด อุบลราชธานี มีส่วนได้เสียบริษัทคู่สัญญาจ้าง-อนุมัติเงินค่าจ้างทั้งที่ก่อสร้างไม่ถูกต้องตามรูปแบบรายการ ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 3 พิพากษาลงโทษ จำคุก 5 ปี 3 เดือน ปรับ 39,990 บาท พวก 2 ราย เอกชนโดนปรับ 26,660 บาท,คุก 3 ปี 6 เดือน ตามลำดับ โทษจำคุกรอลงอาญา 3 ปี- ป.ป.ช.ขอ อสส. อุทธรณ์สู้ต่อ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายกฤตรัตนชัย หรือนายมนทร์ ทองเรือง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) กุดลาด อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี กับพวก คือ บริษัท มีชัย เจริญทรัพย์ จำกัด นางกชกร หรือนางนวลจันทร์ ภูมิลักษณ์ เข้ามีส่วนได้เสียกับบริษัทที่เป็นคู่สัญญาจ้างและอนุมัติให้เบิกจ่ายเงินค่าจ้างโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กซอยสามัคคี หมู่ที่ 14 บ้านค้อ และโครงการซ่อมแซมถนนดินชำรุด สายท่าศาลา หมู่ที่ 13 บ้านหนองมะนาว ทั้งที่ดำเนินการก่อสร้างไม่ถูกต้องตามรูปแบบรายการ
ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151, 152 และ 157 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2562
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2564 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 มีคำพิพากษาว่า นายกฤตรัตนชัย หรือนายมนทร์ ทองเรือง จำเลยที่ 1 มีความผิดตามมาตรา 151 , 152 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษตาม 151 ลงโทษจำคุก 5 ปี 3 เดือน และปรับ 39,990 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 10 ปี 6 เดือน และปรับ 79,980 บาท
บริษัท มีชัย เจริญทรัพย์ จำเลยที่ 2 และนางกชกร หรือนางนวลจันทร์ ภูมิลักษณ์ จำเลยที่ 3 มีความผิดตามมาตรา 151 , 152 ประกอบมาตรา 86 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 151 ประกอบมาตรา 86
ลงโทษจำเลยที่ 2 ปรับ 26,660 บาท รวม 2 กระทง เป็นปรับ 53,320 บาท
ลงโทษจำเลยที่ 3 จำคุก 3 ปี 6 เดือน และปรับ 26,660 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 6 ปี 12 เดือน และปรับ 53,320 บาท
จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง
คงลงโทษจำเลยที่ 1 จำคุก 5 ปี 3 เดือน และปรับ 39,990 บาท ลงโทษจำเลยที่ 2 ปรับ 26,660 บาท ลงโทษจำเลยที่ 3 จำคุก 3 ปี 6 เดือน และปรับ 26,660 บาท
โทษจำคุกสำหรับจำเลยที่ 1 และที่ 3 ให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด คนละ 3 ปี ข้อหาอื่นให้ยก
ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งหมด มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2564 ลงมติเห็นควรให้อัยการสูงสุด (อสส.) อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3
อ่านประกอบ :
- ยืนโทษ คุก 10 ปี! อดีตนายก อบต.คำเขื่อนแก้ว เรียกรับเงินตอบแทนจ่ายโบนัส พนง.
- คุก 5 ปี ริบเงิน 1 แสน! อดีตรองนายกเทศฯ นครศรีธรรมราช เรียกเงินติดตั้งมาตรวัดน้ำประปา
- ศาลอุทธรณ์ แก้โทษ อดีตเกษตรจว.สุรินทร์ ให้จำคุก 24 ปี 32 ด.-คืนเงิน 1.3 แสน
- ศาลอุทธรณ์ ยืนโทษคุก 1 ปี อดีตที่ปรึกษา กสม. แก้สัญญาเพิ่มเงินเดือนช่วยงานไทยพีบีเอส
- คุก 6 ปี 8 ด.! 'วิชัย' อดีตผู้ว่าฯพังงา ขุดคลองผิดกม. 'นายก อบต.-กำนันนบปริง' โดนด้วย
- คุก 1 ปี ไม่รอลงอาญา! อดีตจนท.อบต.ท่าระหัด สุพรรณ เรียกเงินผู้สมัครสอบแข่งบรรจุ พนง.
- คุก 10 ปี 30 ด.! อดีตผอ.คลัง เทศบาลเวียงคุก หนองคาย ปกปิดประกาศสอบราคา 5 โครงการ
- คุก 10 ปี 30 ด.! อดีต พนง.ออมสิน สาขาป่าตอง ภูเก็ต ปลอมลายมือชื่อลูกค้าถอนเงิน
- รายที่ 2! คุก 128 ปี 384 ด. อดีต พนง.ออมสิน ยโสธร ปลอมลายมือชื่อลูกค้าถอนเงิน